มันจะน่าเสียใจแค่ไหน ถ้าความพยายามทุ่มเททั้งชีวิตของเรา ต้องล่มสลายไปเพราะการตัดสินใจโง่ๆ เพียงแค่ครั้งเดียว นี่คือเรื่องจริงของชีวิตดาวรุ่งอเมริกันฟุตบอลที่พังพินาศไปเรียบร้อยแล้ว
เรื่องของ เฮนรี่ รักส์ คือประเด็นร้อนที่สหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา นี่เป็นบทเรียนครั้งสำคัญของทุกๆ คนว่า ถ้าขาดสติแล้วทำอะไรที่ผิดพลาดลงไป มันมีอะไรที่ต้องสูญเสียบ้าง
เฮนรี่ รักส์ คือใคร? เขาเป็นนักกีฬาระดับอัจฉริยะของสหรัฐฯ ในสมัย ม.ปลาย เขาเป็นแชมป์วิ่ง 100 เมตรของโรงเรียน รวมถึงเป็นนักกีฬาบาสเกตบอล โชว์ลีลาดั๊งค์สวยๆ เป็นประจำ
ทักษะของเขาสูงลิ่ว สามารถเล่นกีฬาได้หลายชนิด แต่มาโฟกัสที่อเมริกันฟุตบอล โดยเล่นในตำแหน่งปีก (Wide Receiver) เขาเก่งถึงขนาดได้ทุน Full Scholarship จากมหาวิทยาลัยอลาบาม่า
รักส์ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักกีฬาอเมริกันฟุตบอล ที่เร็วที่สุดในระดับคอลเลจ สถิติวิ่ง 100 เมตร อยู่ที่ 10.58 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วมาก หากเทียบกับนักกีฬาประเภทอื่น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่ง 100 เมตร ได้สถิติ 10.70 วินาที เราพอจะเห็นว่าเฮนรี่ รักส์ วิ่งเร็วกว่าเสียอีก
หรือในการทดสอบสมรรถภาพนักกีฬาก่อนการดราฟต์ (Combine) เขาเป็นผู้เล่นที่วิ่ง 40 หลาได้เร็วที่สุดอันดับ 1 ด้วยระยะเวลา 4.27 วินาที
ด้วยผลงานและสถิติที่ดีเยี่ยม ทำให้ลาสเวกัส เรดเดอร์ส ตัดสินใจดราฟต์เขาในรอบแรก โดยเป็นอันดับที่ 12 ของนักกีฬาทั้งหมด ก่อนจะเซ็นสัญญา 4 ปี จ่ายค่าเหนื่อยให้รักส์ 16.6 ล้านดอลลาร์ (เฉลี่ยปีละ 136 ล้านบาท)
หลังจากที่รักส์พยายามอย่างหนักในสมัยเรียน ณ ตอนนี้ ความพยายามของเขา ผลิดอกออกผลแล้ว เขากำลังจะสบาย ได้เงินใช้ปีละร้อยล้าน และมีแนวโน้มจะได้เงินเพิ่มขึ้นมากกว่านี้เรื่อยๆ ในสัญญาฉบับต่อไป
สำหรับผลงานในสนาม ในซีซั่นแรก (2020) รักส์เล่นได้โอเค ลง 13 เกม รับบอลได้ระยะกลางๆ ที่ 452 หลา จากนั้นมาซีซั่นสอง (2021) เขาพัฒนาขึ้นชัดเจน ลงเล่นแค่ 7 เกม แต่รับบอลได้ 469 หลา ถือว่าทรงดีใช้ได้
ขณะที่เรื่องนอกสนาม เขาก็ได้รับคำชมไม่น้อย เพราะรักส์ทำงานร่วมกับองค์กรการกุศลหลายแห่งที่อลาบาม่า ไม่ว่าจะบริจาคเงินช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบปัญหาจากโควิด หรือให้ทุนเล่าเรียนกับเด็กยากไร้ คือภาพรวม เขาก็แสดงให้เห็นว่าเป็นคนมีน้ำใจอยู่
อย่างไรก็ตาม แม้ชีวิตจะดูไปได้สวย แต่จุดเปลี่ยนในชีวิตของเฮนรี่ รักส์ วัย 22 ปี ก็มาถึง ในวันที่ 2 พฤศจิกายน
เฮนรี่ รักส์ กับแฟนสาวเคียร่า ไปไดรฟ์กอล์ฟกัน ที่ร้าน TOPGOLF ในลาสเวกัส ที่เปิด 24 ชั่วโมง ระหว่างไดรฟ์กันไป ก็ดื่มค็อกเทลกันไปด้วย บรรยากาศก็สนุกสนานคึกคักดี
มีการอัดคลิปเอาไว้ ในช่วงระหว่างไดรฟ์กอล์ฟ จะเห็นสภาพแล้วว่า รักส์ มีอาการมึน ตีกอล์ฟไม่โดน จากนั้นเวลาตี 3 เขากับแฟนสาว ออกจากร้าน TOPGOLF แล้วซิ่งรถสปอร์ตหรู เชฟโรเล็ต คอร์เวตต์ ไปดื่มต่อที่บ้านเพื่อน
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ทีน่า ทินเทอร์ สาววัย 23 ปี ได้พาหมาพันธุ์โกลเด้น รีทีฟเวอร์ ของเธอที่ชื่อแม็กซ์ ไปเดินเล่นกับเพื่อนสนิทในตอนดึก โดยที่ลาสเวกัส การพาหมาไปเดินเล่นตอนตี 2 ตี 3 ไม่ถือเป็นเรื่องแปลก หลายคนก็ทำกัน
หลังจากแยกกับเพื่อน ทีน่ากับเจ้าหมาแม็กซ์ ขึ้นรถโตโยต้า RAV-4 (ไทป์เดียวกับฮอนด้า CR-V) แล้วขับรถกลับบ้านตามปกติ
ทีน่าขับรถมาถึงถนนเซาธ์เรนโบว์ บูเลอวาร์ด ทันใดนั้นเอง รถของเธอก็ถูกชนด้านท้ายอย่างรุนแรง โดยรถเชฟโรเล็ต คอร์เวตต์ ของเฮนรี่ รักส์
ด้วยความมึนเมา และเห็นถนนโล่งตอนตี 3 กว่าๆ รักส์เหยียบมิดด้วยความเร็ว 251 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชนรถโตโยต้าของทีน่าอย่างจัง
รถสปอร์ตราคาแพงของรักส์หน้ายุบ แต่โครงสร้างข้างใน ยังแข็งแรงพอ ที่จะเซฟรักส์กับแฟนสาวไม่ให้บาดเจ็บหนัก
แต่รถยนต์ของทีน่า ที่เป็น SUV ใช้ในครอบครัว ไม่ใช่อย่างนั้น รถโดนกระแทกอย่างจังที่ด้านท้าย จนถังน้ำมันกระจุยไปหมด จากนั้นก็เกิดประกายไฟ ส่งผลให้เพลิงลุกไหม้รถยนต์อย่างรวดเร็ว
ความจริง ช่วงนาทีแรกที่โดนชน ทีน่ายังไม่ตาย โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโดมิเนียมที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่าได้ยินเสียงเธอกรีดร้องอยู่ในรถ แต่ปัญหาคือไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง จนไม่มีใครสามารถบุกไปช่วยได้ ต้องรอรถดับเพลิงอย่างเดียว สุดท้ายรถดับเพลิงมาไม่ทันเวลา ทีน่ากับหมาของเธอ โดนเผาตายอยู่ในรถ
เฮนรี่ รักส์ โซเซออกจากรถสปอร์ต แล้วมานั่งที่ข้างถนน เขาร้องไห้กอดกับแฟนสาว เมื่อตำรวจมาถึงได้ส่งรักส์ขึ้นรถพยาบาลไป ส่วนทีน่าที่อยู่ในโตโยต้าที่เผาไหม้อย่างแรง ทุกคนรู้ว่าไม่มีทางช่วยเหลืออะไรเธอได้อีกแล้ว
การตรวจแอลกฮอล์ ปรากฏว่า รักส์ มีปริมาณแอลกอฮอล์ 0.16 ซึ่งกฎหมายที่ลาสเวกัส ระบุไว้ว่า ถ้าแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 0.08 ถือว่าผิดกฎหมาย ดังนั้น ค่าแอลกอฮอล์ของเขา สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดถึง 2 เท่า คดีนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเป็นเมาแล้วขับ
นอกจากนั้นตำรวจยังพบปืน 1 กระบอก ในรถยนต์อีกด้วย แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้
7 โมงเช้า คุณแม่ของทีน่าตื่นขึ้นมา และไม่เห็นลูกสาวกลับบ้าน จึงแจ้งตำรวจ เพราะกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า สุดท้ายก็ค้นพบความจริงว่าลูกของเธอเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งเรื่องนี้สร้างความสะเทือนใจให้เธออย่างมาก
ทีน่า เป็นชาวเซอร์เบียอพยพมาอยู่ในสหรัฐฯ และกำลังทำเรื่องขอเป็นพลเมือง ดังนั้นนี่จึงเป็นประเด็นที่สังคมจึงจับจ้องอย่างมาก ว่าศาลจะให้ความยุติธรรมกับชาวบ้านธรรมดา ที่ยังไม่มีสัญชาติอเมริกันได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่มีคดีพลิก เพราะเหตุการณ์ทุกอย่างมันชัดเจนหมดแล้ว คุณขับรถยนต์ในเมือง ด้วยความเร็ว 251 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มันเป็นเรื่องที่อันตรายมากอยู่แล้ว และยิ่งผสมกับแอลกอฮอล์เกินลิมิต 2 เท่า ช่วยส่งเสริมให้เกิดอุบัติเหตุได้อย่างง่ายขึ้นอีก
ผู้พิพากษาโจ โบนาเวนชัวร์ กล่าวว่า "ตั้งแต่นั่งบนบัลลังก์ตรงนี้ ผมจำไม่ได้ว่าเคยตัดสินคดีไหน ที่ขับรถเร็วมากขนาดนี้"
ศาลให้เฮนรี่ รักส์ ประกันตัวออกมาสู้คดี ด้วยวงเงิน 150,000 ดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขคือ ห้ามขับรถ, ห้ามดื่มสุรา, ยึดพาสปอร์ต และ ต้องใช้เครื่องติดตามอีเล็กทรอนิกส์ ตลอดช่วงเวลาในการพิจารณาคดี
รักส์ โดน 5 ข้อหา ไม่ว่าจะเป็น เมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือ ขับรถโดยขาดความระวังจนส่งผลให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยรวมทั้งหมด มีโอกาสที่รักส์จะติดคุกสูงสุดนานถึง 46 ปี
คริส สกอตต์ ทนายความผู้เชี่ยวชาญคดีเมาแล้วขับบอกว่า "คดีนี้รอดยาก เพราะมีคนเสียชีวิตด้วย ฝั่งอัยการจะยื่นบทลงโทษสูงสุดแน่นอน เพราะการที่คุณขับรถเร็วด้วยความมึนเมา มันไม่ได้เรียกว่าประมาทเลย แต่เป็นการกระทำที่รู้ผลอยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
อีกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก คือลาสเวกัส เรดเดอร์ส ต้นสังกัดของรักส์
ทีมเรดเดอร์ส กำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี 7 เกมแรก มีสถิติชนะ 5-2 มีโอกาสเข้าเพลย์ออฟได้ในซีซั่นนี้ แต่เมื่อเจอข่าวว่าปีกคนสำคัญทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย สถานการณ์นี้ พวกเขาโดนมัดมือชก ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นอกจากต้องปล่อยตัวทิ้งแบบฟรีๆ
อุตส่าห์เป็นดราฟต์รอบแรก ถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่าขององค์กร แต่สุดท้ายเมื่อทำผิดกฎหมาย ก็ต้องปล่อยตัวไปอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะถ้าเก็บเอาไว้ ภาพลักษณ์ขององค์กรก็เสีย แถมยังอาจจะไม่สามารถใช้การได้อีกต่างหาก เพราะนักกีฬาอาจต้องติดคุกหลายปี
เหตุการณ์ครั้งนี้ สร้างความปวดร้าวให้กับทั้ง 2 ครอบครัว ฝั่งของทีน่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้า เพราะต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ จนถึงวันนี้ ประชาชนทั่วสหรัฐฯ ร่วมบริจาคเงินให้แม่ของทีน่า เพื่อใช้ในงานศพ รวมแล้ว 1 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะที่ครอบครัวของเฮนรี่ รักส์ ก็ใจสลายเช่นกัน พ่อแม่อุตส่าห์เฝ้ารอดูความสำเร็จของลูกมาตลอดชีวิต และทุกอย่างกำลังจะนับหนึ่ง แต่สุดท้ายก็จบลงเพียงแค่นี้ เขาไม่มีวันได้เล่นกีฬาอาชีพอีกแล้ว
ณ เวลานี้ เฮนรี่ รักส์ กำลังสู้คดีอยู่ แต่สื่อเชื่อว่าไม่มีเหลี่ยมรอดได้เลย โดนติดคุกแน่ๆ อยู่ที่ว่าจะกี่ปีแค่นั้น ส่วนความฝันนักกีฬาอาชีพและค่าจ้างปีละร้อยล้าน เกมโอเวอร์ไปแล้ว
เควอนเท รักส์ พี่ชายของเฮนรี่ รักส์ โพสต์ว่า "คนที่ด่าเขาไม่เคยสนใจสิ่งที่นายทำมาในอดีต ทั้งเรื่องบริจาคเงินให้การกุศล ให้ทุนเด็กๆ ได้เล่าเรียน" อย่างไรก็ตาม หลังจากโดนโซเชียลมีเดียถล่ม พี่ชายก็ลบข้อความออกไปแล้ว
ที่โดนรุมถล่มเพราะในโลกออนไลน์เชื่อว่า บริจาคส่วนบริจาค คุณทำดีครั้งหนึ่ง ก็รับคำชมตอนนั้นไป แต่ตอนนี้เมาแล้วขับจนทำให้คนตาย มันเป็นคนละเรื่องกัน ดังนั้นก็ต้องก้มหน้ารับความผิดไป
เรื่องราวก็จบลงตรงนี้ และนี่เป็นกรณีศึกษาที่สำคัญ ไม่ใช่แค่ในวงการกีฬาเท่านั้น แต่เป็นทุกอาชีพ ว่าถ้าคุณขาดความระมัดระวังจนทำความผิดอะไรร้ายแรงขึ้นมา ถึงตรงนั้นไม่มีใครสนใจหรอกว่าคุณพยายามมาหนักขนาดไหนในอดีต
ถ้าไม่อยากให้ทุกสิ่งที่สร้างมา พังทลายไปต่อหน้าต่อตาตัวเอง อะไรที่รู้ว่าเสี่ยง อะไรที่รู้ว่าเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ ... ก็อย่าไปทำ
#DREAMISOVER
- 50
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
