26 พ.ย. 2021 เวลา 12:30 • ธุรกิจ
ประเทศจีน เปิดตัวโครงการ “บริการแท็กซี่ไร้คนขับ” นำร่องในกรุงปักกิ่ง เป็นครั้งแรก
กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ได้เริ่มโครงการนำร่องแท็กซี่ไร้คนขับเชิงพาณิชย์ เป็นครั้งแรก ด้วยการอนุมัติให้ 2 บริษัทเทคฯ Baidu และ Pony.ai ให้สามารถเริ่มให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับ ในกรุงปักกิ่งได้แล้ว
ซึ่งนับเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทดสอบจริงในตลาด ก่อนทำการขยายพื้นที่ให้บริการต่อไป
โดยโครงการนำร่องนี้ อยู่ภายใต้การอนุมัติของเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ทางตอนใต้ของกรุงปักกิ่ง
นอกจากการนำร่องการให้บริการแล้ว ก็ยังรวมไปถึงการทดสอบกลไกการกำหนดราคา
ทั้งด้านตรรกะราคา, วิธีการชำระเงิน และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้โดยสาร ที่จะต้องได้รับการรับรองล่วงหน้า จากหน่วยงานกำกับดูแลของปักกิ่ง
ทั้งนี้ โครงการนำร่องของ Baidu บริษัทเสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่ของจีน ภายใต้แบรนด์ Apollo Go
และ Pony.ai สตาร์ตอัปด้านการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับเชิงพานิชย์ ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก Toyota Motor
ทั้ง 2 บริษัท ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีน ให้สามารถเปิดให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับได้ไม่เกิน 100 คัน ในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีน
โดยทาง Beidu ระบุว่า แท็กซี่ไร้คนขับของบริษัท หรือ Apollo Go จะต้องใช้งานผ่านแอปพลิเคชัน
ซึ่งแท็กซี่ของบริษัท ครอบคลุมเส้นทางกว่า 350 กิโลเมตร มีจุดรับ-ส่งกว่า 600 แห่ง เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 น. ไปจนถึง 22.00 น.
และในปัจจุบัน มีจำนวน Apollo Go ที่เปิดใช้งานบนถนน 67 คัน ด้วยกัน
2
โดยคุณ Wang Shengnan ผู้รับผิดชอบโครงการขับขี่อัตโนมัติของ Baidu กล่าวว่า
“เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการทดสอบการขับขี่แบบอัตโนมัติในตลาดจริง เพื่อดูว่าผู้ใช้เต็มใจที่จะชำระค่าบริการของเราหรือไม่”
เนื่องมาจากค่าบริการของ Apollo Go นั้น ใกล้เคียงกับการเรียกรถระดับพรีเมียม
1
ส่วนทางด้าน Pony.ai กล่าวว่า
มีแผนที่จะให้บริการจุดรับ-ส่ง กว่า 200 จุด และผู้โดยสารสามารถชำระค่าบริการผ่าน Alipay หรือ WeChat ได้
ซึ่งจากการเปิดโครงการนำร่องครั้งนี้ นักวิเคราะห์ที่เฝ้าติดตามตลาด ก็ต่างเห็นว่า
จำนวนรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ใช้อยู่ และพื้นที่ปฏิบัติการที่ยังจำกัดในตอนนี้ จะถูกขยายเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่น เพื่อเป็นการวางรากฐานในการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติเชิงพาณิชย์ ให้เป็นวงกว้างและเติบโตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ทางด้านคุณ Qian Xuesong ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์แห่งประเทศจีน กล่าวว่า
“อุตสาหกรรมนี้ จะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา, ระยะทดสอบ, การดำเนินงานเชิงพาณิชย์ ตลอดจนปัญหาด้านความสมบูรณ์ของเทคโนโลยี และการพัฒนาโพรโทคอลที่เป็นมาตรฐาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยาก”
2
นี่ก็นับเป็นอีกหนึ่งก้าวของประเทศจีน ที่ได้ทำการอนุญาตให้รถแท็กซี่ไร้คนขับ สามารถวิ่งบนท้องถนนได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งก็แน่นอนว่าในอนาคต น่าจะต้องมีการขยายพื้นที่การให้บริการ และมีผู้บริโภคหันมาใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
1
โฆษณา