▪️ตัว C ทั้ง 3 ตัว โดย ราล์ฟ รังนิก และมุมคิดถึง เยอร์เกน คลอปป์
---
• ถึงตอนนี้ต้องยอมรับนะครับว่า “กระแส” ราล์ฟ รังนิก นั้นแรงเหลือกำลังตั้งแต่เป็นข่าว และยังไม่ได้คุมทีมอันเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่ธรรมดา
• ใช่สิครับ กุนซือเยอรมันวัย 63 ปีรายนี้คือ “คนไม่ธรรมดา” และเริ่มแผ่อิทธิพล พร้อมกับสร้างความ “สั่นสะเทือน” ไปแล้วทั่ววงการฟุตบอล
• ทั่วโลก!!!
• ผมเอง และทีมงานแปลบทความชิ้นนี้เสร็จสิ้นนานแล้ว เพราะชอบ และรอจังหวะจะเผยแพร่ แต่ก็ไม่คิดว่า ช่วงตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา เรื่องรังนิกนั้นเยอะไปหมด และมี “ทุกมิติ”
• ดีใจกับตัวเองที่ได้เสพ content ดี ๆ เหล่านั้น และยินดีกับทุกคนด้วยที่แม้ไม่ใช่แฟนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่หากรักฟุตบอลแบบ “ลึกซึ้ง” ในสไตล์ลูกเพจที่นี่ก็คงจะ “อิน” และน่าจะ “ฟิน” กับข้อมูลที่ได้ศึกษาจากการงัดแงะกระแซะของเหล่าสื่อ และจอมขมังเวทย์ในการทำคอนเทนท์ทั่วโลก
• ผมเองชอบชิ้นด้านล่างครับ (ซึ่งแน่นอนว่าจะไม่ใช่ชิ้นสุดท้าย) และขอเลือกมาฝากพวกเราในวันนี้ เชิญเสพได้เลยครับ:
☕ณัฐวุฒิ ประเทืองศิลป์
---
• สิ่งที่เราทำ (กับทั้ง 2 สโมสร - ไลป์ซิก และซัลซ์บวร์ก) คือ การสร้างสโมสรมากกว่าการสร้างทีม
• เรื่องนี้เกี่ยวกับการมุ่งเน้นไปที่เรื่องพื้นฐาน 3 ประการของการฝึกฝนเพื่อให้เราเป็นสโมสรฟุตบอล – สิ่งเหล่านี้ผมเรียกมันว่า 3 Cs ซึ่ง C แต่ละตัวล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จที่เราสร้างขึ้นทั้งที่ ซัลซ์บวร์ก และ ไลป์ซิก
• ประการแรกคือแนวคิด (C-Concept) สิ่งนี้โฟกัสไปที่การให้ความสำคัญของ DNA ซึ่งถูกนำไปใช้อย่างเฉพาะเจาะจงกับสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบฟุตบอลที่เราต้องการให้ทีมเล่น การวางแนวทางที่สอดคล้องกันในทุกด้านของสโมสรคือจุดที่เราให้ความสำคัญตั้งแต่วันแรก
• สไตล์การเล่นควรกลายเป็นสิ่งที่น่าจดจำอย่างถึงที่สุด แม้ในวันที่เลวร้ายหรือผลการแข่งขันไม่ได้อย่างที่ต้องการ คุณก็ยังคงสามารถรับรู้ถึงสไตล์ของฟุตบอลที่ทีมต้องการเล่นได้
• การทำเช่นนี้ทำให้คุณสร้างเอกลักษณ์ทั่วทั้งสโมสร ไม่เฉพาะกับนักเตะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสตาฟฟ์โค้ช และแม้กระทั่งแฟนบอลด้วย
• ในท้ายที่สุด ทั้งที่ซัลซ์บวร์ก และไลป์ซิก แฟนบอลจะระบุตัวตนได้ด้วยสไตล์ฟุตบอลที่เรากำลังเล่น สำหรับผม สิ่งนี้เป็นปัจจัยชี้ขาดอย่างชัดเจนถึง เอกลักษณ์ของนักเตะ สตาฟฟ์ และแฟน ๆ ที่ถูกนำมาหลอมรวมกัน
• C ที่สองคือความสามารถ (C-Competence) เราพยายามหาคนที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับแต่ละงาน โดยรับประกันความสามารถทั่วทั้งสโมสร
• สิ่งสำคัญคือต้องมีพนักงานที่มีความสามารถ และได้รับการฝึกฝนอย่างดีเยี่ยมในทุกตำแหน่ง และท้าทายพวกเขาทุกวันเพื่อทำให้ตัวพวกเขาเอง และสโมสรดีขึ้น
• เครือข่ายของผมช่วยผมในเรื่องนี้กับที่ ซัลซ์บวร์ก และไลป์ซิก เครือข่ายที่ผมมีทำให้ผมรู้แล้วว่าคนที่ดีที่สุดหลายคนอยู่ที่ไหน และผมก็รู้จักพวกเขาอย่างดี เมื่อผมระบุตัวพวกเขาได้แล้ว หน้าที่ของผมคือโน้มน้าวให้พวกเขามาร่วมเดินทางไปกับเรา
• C ที่สาม และสุดท้ายคือเรื่องของทุน (C-Capital) หรือเงินสด (C-Cash) ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการสนับสนุนทางการเงินทำให้เราสามารถนำปรัชญาที่เราต้องการเริ่มต้นมาใช้ได้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมาแทนที่แนวคิด และความสามารถได้ แต่ทุนต้องทำงานร่วมกับตัว C ตัวอื่น ๆ เหล่านี้ด้วย
• ทุนเป็นปัจจัยที่จำกัดความสำเร็จ แต่ถ้ามี ทุน อย่างเดียวมันยังไกลจากความสำเร็จ แต่เมื่อประกอบกับ แนวคิด และความสามารถ หากคุณทำทั้งหมดได้ดี มันก็จะสร้างทุนได้
• ทั้งสาม Cs เมื่อทำงานไปด้วยกันแบบไม่ขาดตกบกพร่อง โอกาสของความสำเร็จที่แท้จริงจะเพิ่มขึ้นทันที
• รอบชิงชนะเลิศ ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 2020 แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าคุณต้องอยู่ในอันดับต้น ๆ ขององค์ประกอบทั้ง 5 ในวงการฟุตบอลเพื่อที่จะประสบความสำเร็จในระดับสูงสุด
• องค์ประกอบแรก คือการครองบอลที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับฝ่ายตรงข้าม(การรุก) ประการที่สอง เราจะเล่นอย่างไรเมื่ออีกทีมครอบครองบอล (การรับ) หรือ เราบุกตรงไหน และเน้นแค่ไหน? รับอย่างไร? ประการที่สาม และสี่ คือ 2 ช่วงในการเปลี่ยนจากรุกเป็นรับ หรือเปลี่ยนจากรับเป็นรุก (Transition) ของเกมหลังจากแย่งบอลได้ และเสียบอล ประการที่ห้า คือ ลูกตั้งเตะ ทั้งในเกมรุก และเกมรับ ซึ่งมากกว่าร้อยละ 30 ของประตูมาจากการเตะมุม ฟรีคิก และจุดโทษ
• ผมรู้สึกเป็นเกียรติเมื่อ เยอร์เกน คลอปป์ เอ่ยชื่อว่า ผมอาจเป็นโค้ชชาวเยอรมันที่เก่งที่สุด เขากับผมรู้จักกันมากว่า 20 ปี และเราให้เกียรติซึ่งกัน และกันอย่างสูงเสมอมา
• เป็นที่รู้ทั่วไปที่เรามีความคิดที่คล้ายคลึงกันเกี่ยวกับวิธีการเล่นฟุตบอล และผมคิดว่า นี่คือเหตุผลที่เขาพูดถึงสิ่งดี ๆ มากมายเกี่ยวกับผม (รวมถึงล่าสุดที่ข่าวยืนยัน รังนิก มาแมนฯยูฯ คลอปป์ถึงกับกล่าวว่า ทีมอื่นกระอักแน่!)
• ทีมฮอฟเฟ่นไฮม์ของผมเล่นกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ของ เยอร์เกน ในปี 2008 เราเอาชนะพวกเขาได้ 4-1 และเยอร์เกน กล่าวในสัปดาห์ต่อมา ในงานแถลงข่าวก่อนเกมถัดไปของเขาว่า สไตล์การเล่นของพวกเราเป็นสไตล์ฟุตบอลที่เขาต้องการใช้กับดอร์ทมุนด์
• ภายในเวลาสองปี เขาเปลี่ยนทีม และให้ลูกทีมเล่นด้วยสไตล์การเล่นนั้น และในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ พวกเขาคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัยติดต่อกัน ในปี 2011 และ 2012 เช่นเดียวกับ เยอรมัน คัพ ในปี 2012
• สไตล์ที่เราทั้งคู่ชอบนั้นเป็นสไตล์ฟุตบอลเชิงรุก เป็นฟุตบอลที่เพรสซิ่งสูง และ น้นการโต้กลับที่รวดเร็ว
• ความสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แต่ฟุตบอลก็เป็นส่วนหนึ่งของความบันเทิงเช่นกัน
✍เรียบเรียง: ไข่มุกดำทีม
🙏อ้างอิงข้อมูล: CoachesVoice
📷 ภาพ: The Athletic
#ราล์ฟรังนิก
#เยอร์เกนคลอปป์
#ลิเวอร์พูล
#แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
