ลูกค้าคือพระเจ้า แต่คนขายของต้องไม่ใช่ขี้ข้า
1.
"ลูกค้าคือพระเจ้า" ไม่รู้นะครับว่าใครเป็นคนคิดประโยคนี้ แต่ผมก็เคยเห็นจนชินตามาตั้งแต่เด็ก คนคิดประโยคนี้อาจให้เรามองในมุมว่า ถ้าไม่มีลูกค้า คนขายของก็คงอยู่ไม่ได้ เพราะฉะนั้นลูกค้าจึงเหมือนพระเจ้ามาโปรด
ภาพถ่ายโดย Erik Scheel จาก Pexels
ถ้ามองในมุมนี้ ประโยคนี้ก็น่าจะดี เตือนสติให้คนขายเอาใจใส่ลูกค้า อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าบางคนเข้าใจประโยคนี้อีกแบบ โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นยุคที่ Supply มากกว่า Demand หรือพูดแบบบ้าน ๆ ก็คือ "มีคนขายมากกว่าคนซื้อ" พ่อค้าแม่ขายออนไลน์เต็มไปหมด
บางคนจึงเข้าใจไปว่า ...ก็ในเมื่อลูกค้าคือพระเจ้า เพราะฉะนั้นคนขายของก็ต้องเป็น "ข้ารับใช้" ของฉัน ฉันจะสั่งอะไร ทำอะไร พูดอะไรก็ได้
ก็บอกแล้วไง "ลูกค้าคือพระเจ้า"
2.
บอกตรง ๆ ครับ ช่วงหลังผมสงสารพ่อค้าแม่ค้า (โดยเฉพาะออนไลน์) ไม่ว่าจะเป็นค้าขายเล็ก ๆ หรือแม้แต่บริษัทใหญ่ เพราะคนค้าขาย อยู่ด้วยความหวาดระแวงว่า..วันดีคืนดีจะมีลูกค้าคนไหน "วีนแตก" เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ว่ากันตั้งแต่ขั้นตอนถามข้อมูลก่อนซื้อ บางคนมาด้วยชุดความคิดว่า "เฮ้ย! ฉันเอาเงินมาให้แกนะเว้ย" เพราะฉะนั้นแกต้องตอบให้ไว เคลียร์ ถ้าช้า ฉันไม่ซื้อ ฉันเปลี่ยนใจง่าย
และสมมติว่าพอลูกค้าซื้อไปใช้แล้ว อย่าคิดว่าสบายใจได้ เพราะคนขายก็ต้องลุ้นอีกทีว่าจะถูกใจคุณลูกค้าหรือเปล่า ถ้าไม่ถูกใจ ก็เตรียมตัวแชทมาด่า เอาไปแฉ ไปโพสต์ในออนไลน์ หาว่าหลอกลวงบ้าง ห่วยบ้าง
ผมคิดว่าเป็นไปได้ที่ลูกค้ารู้ว่าคนขายในยุคนี้ "กลัวดราม่ามาก ๆ" ก็เลยกลายเป็นมาตรฐานในใจไปแล้วว่า "ถ้าไม่ถูกใจ ดราม่าแน่" "ถ้าโวยวาย ฉันจะได้อภิสิทธ์"
ผมไม่ได้บอกว่าไม่มีกรณีที่ควรแฉให้โลกรู้ แต่คิดว่าเราจะน่าปฏิบัติต่อกัน "ในระดับเดียวกัน" และตั้งเป็น "ค่าตั้งต้น" ในใจไว้ก่อนเลยว่า "ทุกคนเป็นคนดี เพียงแต่เขาอาจผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ" ลองคุย ลองสอบถามกันดี ๆ ก่อน อย่าเพิ่งรีบคิดว่าเขาจะโกงเรา
และผมอยากย้ำอีกทีว่า "จงปฏิบัติต่อกันในระดับเดียวกัน" ไม่ใช่คนซื้อคือพระเจ้า คนขายคือขี้ข้า
พ่อค้าแม่ค้า เขาก็คนทำมาหากินเหมือนเรานี่แหละ
3.
มีอยู่วันหนึ่ง ผมซื้อของจากแม่ค้าในเว็บแห่งหนึ่ง ปรากฏว่าพอของมาส่ง ใช้ได้ครึ่งวันก็เสีย ผมจึงติดต่อแม่ค้ารายนี้ไป แม่ค้าก็เปลี่ยนให้ใหม่ บอกว่าจะรีบส่งให้ เธอขอโทษขอโพยที่ทำให้เสียเวลา ผมตอบไปว่าไม่เป็นไรครับ ไม่มีใครตั้งใจให้เกิดขึ้น แถมผมยังขอโทษที่ทำให้แม่ค้าเปลืองค่าส่งอีกรอบ
สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงด้วยดี ของใหม่มาส่ง ผมขอบคุณแม่ค้า แม่ค้าขอบคุณผม แล้วเรื่องนี้ก็จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง ...นี่เป็นตัวอย่างเล็ก ๆ (ที่อย่าหาว่าชมตัวเองเลย) ผมคิดแบบนี้มานานแล้วว่า ทุกคน "เท่ากัน"
เวลาซื้อของ ทั้ง ๆ ที่ผมเป็นลูกค้า แต่ผมจะขอบคุณพ่อค้าแม่ค้าทุกครั้ง เพราะถ้าไม่มีพวกเขาขายของให้ ผมคงลำบาก อยากได้สินค้าแบบนี้ ก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหน บางทีผมรู้ว่าเขาขายแพงนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ปล่อยไป ถ้าไม่เดือดร้อนมากนัก ก็แบ่ง ๆ กันไปครับ
ยิ่งเป็นธุรกิจบริการด้วยแล้ว ยิ่งต้องขอบคุณผู้ให้บริการ เขาลำบากเพื่อให้เราสบาย เราแค่จ่ายเงินเท่านั้นเอง
"ลูกค้าคือพระเจ้า แต่คนขายของต้องไม่ใช่ขี้ข้า" ประโยคนี้ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่า งั้นคนขายเป็นพระเจ้าสินะ ลูกค้าเป็นขี้ข้า เลือกไม่ได้ บ่นไม่ได้เลยสินะ
ไม่ใช่ครับ...ไม่ใช่ ผมแค่อยากให้เราปฏิบัติต่อกันดี ๆ ปฏิบัติต่อกันอย่าง "เท่ากัน" เท่านั้นเอง
"ทุกคนเป็นคนดี เพียงแต่เขาอาจผิดพลาดโดยไม่ตั้งใจ"
ใจเขา ใจเรา เป็นเรื่องที่ควรระลึกไว้ในใจเสมอครับ.
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
