29 พ.ย. 2021 เวลา 01:52 • ธุรกิจ
รู้จัก ‘ที่ดินดิจิทัล’ ใน The Sandbox จับต้องไม่ได้แต่ทำไมราคาหลักแสน!
.
.
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับ ‘ที่ดินดิจิทัล’ กันมาบ้าง เพราะช่วงนี้ต้องบอกเลยว่ากระแสของ NFTs มาแรงมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะใน ‘The Sandbox’ เกมใน Blockchain ที่หลายคนต่างไปลงทุนและให้ความสนใจ สังเกตได้จากยอดกราฟที่กำลังพุ่งขึ้นเรื่อยๆ และหลายแบรนด์ดังต่างก็เข้ามามีบทบาทในเกมนี้ด้วยเช่นกัน
.
อย่างไรก็ตาม การที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่อง ‘แปลก’ ก็ไม่ใช่เรื่องผิด อีกทั้งอาจเกิดคำถามว่า ‘ทำไมถึงไปลงทุนกับสิ่งที่ไม่เป็นรูปธรรมและจับต้องไม่ได้แบบนี้’ เพราะที่ผ่านมาเราต่างคุ้นเคยกับการลงทุนกับสิ่งที่สามารถ ‘จับต้องได้’ มากกว่า แต่เชื่อไหมว่า ที่ดินดิจิทัล ตัวละคร และสิ่งของต่างๆ ใน ‘The Sandbox’ ล้วนเป็น ‘สิ่งที่จับต้องไม่ได้’ แต่กลับมีมูลค่าสูงถึงหลักแสนหลักล้านเชียวล่ะ!
.
.
8
‘The Sandbox’ คืออะไร?
.
หากนึกถึงเกมบนเทคโนโลยี Blockchain ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้ก็คงต้องยกให้ ‘The Sandbox’ เกมออนไลน์ที่ให้อิสระกับผู้เล่นในการทำธุรกรรมต่างๆ ในเกม ซึ่งสร้างขึ้นโดย Arthur Madrid และ Sebastien Borget และเปิดตัวโดยบริษัท Pixowl
.
โดย The Sandbox มีเหรียญ SAND ที่เป็นโทเคน (Digital Token) ตามมาตรฐาน ERC-20 บนแพลตฟอร์ม Ethereum Blockchain ที่เป็นสื่อกลางให้ผู้เล่นในการทำธุรกรรมทุกอย่างในเกมนี้ โดยผู้เล่นสามารถสร้าง ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน และสร้างรายได้จากสินทรัพย์ดิจิทัลได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางใดๆ
10
.
สำหรับการสร้างตัวละครหรือสิ่งของต่างๆ ในเกมนั้น ผู้เล่นจะใช้โปรแกรม ‘VoxEdit’ ในการสร้าง และสิ่งที่สร้างจะออกมาในรูปแบบของ NFT (Non-Fungible Token) ที่สามารถนำไปซื้อ-ขายใน ‘Market Place’ ได้อีกด้วย หรือนำตัวละครหรือสิ่งของต่างๆ ในเกมที่สร้าง ซื้อ หรือแลกเปลี่ยนมาสร้างเป็นเกมของตัวเองด้วยโปรแกรม ‘Game Maker’ ก็ได้เหมือนกัน
8
.
.
รู้จัก ‘ที่ดินดิจิทัล’ สิ่งที่จับต้องไม่ได้แต่มูลค่ากลับสูงลิ่ว
.
The Sandbox มีที่ดิน (LAND) เป็นโทเคนตามมาตรฐาน ERC-721 บน Ethereum Blockchain โดยผู้ที่ถือครองที่ดินจะมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางในการจัดการแพลตฟอร์มนี้ในอนาคตด้วย เพราะที่นี่ปกครองอย่างอิสระและกระจายอำนาจ (DAO: Decentralised Autonomous Organisation) และด้วยระบบดังกล่าวนี้ ทำให้เจ้าของที่ดินสามารถสร้างเกมเพื่อให้ผู้อื่นเข้ามาเล่นได้ ปล่อยเช่าพื้นที่ เก็บค่าผ่านทาง หรือซื้อ-ขายเพื่อเก็งกำไรต่อไปก็ยังทำได้ อีกทั้งสามารถสร้างกิจกรรมหรือนิทรรศการต่างๆ ได้อีกมากมาย
7
.
สำหรับที่ดินใน The Sandbox นั้นเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีอย่างจำกัดเพียงแค่ 166,464 LANDs เท่านั้น ไม่สามารถสร้างเพิ่มหรือทำซ้ำขึ้นมาอีก และด้วยความที่มีน้อย ทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้คน และยิ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบ NFT ยิ่งส่งผลให้เหรียญ SAND มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดและเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาไม่นาน แสดงให้เห็นว่า การเป็นเจ้าของที่ดินดิจิทัล (Vitual Land) ใน The Sandbox นั้นถือเป็นประตูสู่โอกาสหลายอย่างเลยก็ว่าได้ (สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านเรื่อง Scarcity Effect เพิ่มเติมได้: https://bit.ly/3CPGY5W)
.
.
4
แนวโน้มในอนาคตจะเป็นอย่างไร?
.
หลายแบรนด์ดังต่างก็ค่อยๆ เข้ามามีบทบาทในแพลตฟอร์มนี้อย่างล้มหลาม เช่น การเคลื่อนไหวล่าสุดของ ‘Adidas’ ที่ร่วมมือกับพาร์เนอร์อย่าง Coinbase ซื้อที่ดินดิจิทัลใน The Sandbox เป็นที่เรียบร้อย และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Adidas ได้ทวีตข้อความว่า “AdiVerse” เพื่อประกาศเข้าสู่ Cryptocurrency อย่างเป็นทางการ
.
นอกจากนี้ ทางด้านของ ‘SCB 10X’ ก็ลงทุนใน The Sandbox เพื่อเตรียมเข้าสู่โลกเสมือน ‘Metaverse’ ด้วยเช่นเดียวกัน โดยได้เปิดตัวพื้นที่บนโลกเสมือนสำหรับการแสดงผลงาน จัดกิจกรรม หรืออีเว้นท์ต่างๆ ของศิลปินทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในอนาคต และยังได้เปิดตัว Avatar ของ Board of Director เพื่อตอกย้ำการก้าวเข้าสู่โลกเสมือนอย่างเป็นทางการ
8
.
เราจะเห็นว่าหลายคนต่างให้ความสนใจกับสินทรัพย์ดิจิทัลในรูปแบบ NFTs เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และการเข้ามามีบทบาทของหลายแบรนด์ดังก็ยิ่งทำให้แนวโน้มของเหรียญ SAND พุ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ สังเกตได้จากที่ผ่านมาที่เพิ่มขึ้นไปกว่า 500% ในระยะเวลาไม่นาน ดังนั้น นักวิเคราะห์และนักลงทุนได้คาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มของเหรียญ SAND ว่าในสิ้นปี 2022 ราคาอาจจะแตะ $26.66 และอาจสูงถึง $81.53 ในปี 2028
5
.
.
จากที่กล่าวมาอาจจะคลายข้อสงสัยได้ว่าทำไมบางคนถึงเลือกลงทุนกับสิ่งที่จับต้องไม่ได้ในโลกเสมือนมากกว่าการลงทุนกับสิ่งที่จับต้องได้ในโลกแห่งความเป็นจริง ในราคาที่สูงถึงหลักแสนหลักล้าน โดยเฉพาะ ‘ที่ดินดิจิทัล’ ที่นับว่าเป็นการลงทุนที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่สิทธิพิเศษต่างๆ ที่เจ้าของที่ดินจะได้รับ แต่เมื่อเราก้าวเข้าสู่ ‘Metavers’ ก็จะยิ่งสร้างโอกาสมากมายอย่างแน่นอน เพราะอนาคตข้างหน้าอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา สิ่งที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้อาจจะเกิดขึ้นจริงในอนาคตข้างหน้าก็ได้ เช่น การใช้ที่ดินในโลกเสมือนจัดกิจกรรมหรือนำเสนอผลงานต่างๆ ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ไม่มีข้อจำกัดของพรมแดนอีกต่อไป
.
6
อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง เราควรศึกษาข้อมูล รายละเอียด และความผันผวนต่างๆ ให้รอบคอบก่อนการลงทุน
.
.
เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ
- โลกคู่ขนานที่เป็นจริง! รู้จัก ‘Metaverse’ ความหวังใหม่ของวงการเทคโนโลยี: https://bit.ly/30ztTjH
- พาส่อง 5 อาชีพมาแรง เมื่อก้าวสู่โลกเสมือน “Metaverse”: https://bit.ly/3nUJCTx
.
.
อ้างอิง
.
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#business
#metaverse
3
โฆษณา