3 ธ.ค. 2021 เวลา 04:33 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่อง : จะรัก…แล้วไง? 🤫
ตอนที่ 3 ความรักของพี่
“เมย์ทอล์ก”
ร้านเหล้า “บาร์บี” เป็นร้านเปิดใหม่ บรรยากาศคึกคัก เต็มไปด้วยเหล่านักศึกษาที่มาเลี้ยงฉลองในวาระต่างๆ ซึ่งโต๋ มันเป็นน้องชายของหุ้นส่วนร้านนี้ มันเลยรับหน้าที่เรียกแขกเข้าร้าน
พวกเราน่าจะเป็นเหยื่อของมัน
“พวกกูดีใจที่มึงกลับมา เอ้าชน!!” แก้วนับสิบชนกัน เกร้ง!! กรั้ง!! ร่วมดีใจที่ฉันกลับมาเรียนตามปกติอีกครั้ง
ไม่มีใครคาดคิดว่าอุบัติเหตุครั้งนั้นมันจะทำให้ฉันถึงขั้นผ่าตัดสมอง และหายไปเกือบ2ปี
“กูดูวิชาเรียนเทอมนี้ของมึงแล้ว น่าจะมีตัวเดียวนะที่พวกกูจะได้เรียนกับมึง แต่ไม่ต้องห่วงนะ ยังไงกิจกรรมต่างๆ มึงก็จะได้ร่วมกับพวกกูในฐานะพี่ปี 3 ขนาดไอ้โต๋แม่งย้ายไปคณะอื่นละ กูยังดึงมาได้เลย” วิทย์ เป็นคณะกรรมการสโมสรนักศึกษา เจ้าพ่อกิจกรรมบอกฉันอย่างภาคภูมิใจ
“จริงมึง ตอนนี้มีกิจกรรมค่ายอาสาไปสร้างห้องสมุดให้น้องๆโรงเรียนต่างจังหวัด พวกวิดวะแม่งไปทำตัวห้องสมุดละสร้างเสร็จเรียบร้อย เดี๋ยวเดือนหน้าพวกเราถาปัดกับเด็กชมรมศิลปะจะไปทำให้มันว้าว มีเปิดรับอาสาสมัครด้วยนะ มึงจะขนน้องๆมึงไปก็ได้นะ คนเยอะๆจะได้เสร็จไวๆ” เนมสาวฮอตระดับดาวคณะกอดคอฉัน
ที่ดูสนิทกันก็เพราะเป็นสายรหัสกัน
“จริงมึง มึงต้องไปนะ ยังไงก็อย่างทำกิจกรรมร่วมกัน”
“คนเยอะสนุกดี นี่พวกกูถึงขนาดเตรียมทุกอย่างไว้รอมึงด้วยนะ มึงแค่เอาตัวไปก็พอ”
เสียงเฮฮาของเพื่อนถาปัดของฉัน ยังคงสนุกเหมือนวันแรกที่พวกเรารวมตัวเลี้ยงหลังจากรับน้อง ดูทุกคนจะเปลี่ยนไปมาก เรื่องการแต่งตัว นิสัยใจคอ ซึ่งต่างจากวันแรกอย่างสิ้นเชิง บางคนฮาสุดในกลุ่ม กลับกลายเป็นเด็กเนิสต์สุดของรุ่น เป็นสมองของรุ่นก็ว่าได้ บางคนที่ดูจะเรียบร้อยตั้งใจเรียน แต่แม่งดูนั่นสิ ยกเหล้าอย่างกับน้ำเปล่า
“แล้วน้องมึงล่ะ มาด้วยกันนี่” โต๋ถาม
“มาสิ แต่มันบอกว่าจะไปนั่งที่อื่นน่ะ สงสัยเจอเพื่อนมั้ง”
ฉันไม่อยากบอกว่าบีมมันไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้ มันเลยแยกไปนั่งมุมที่ไม่วุ่นวายรอเวลากลับ
“เฮ้ยมึง เมียเก่ามึงมา” เนมสะกิตฉัน
ดีดี้ เป็นแฟนฉันแต่อยู่ๆก็หายไปเลยหลังจากที่ฉันเข้าโรงพยาบาล วันนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันนั้น
“เมย์ เราขอคุยด้วยได้มั้ย” ดีดี้ดูจะเรียบร้อยขัดกับชุดที่แต่งตัวมา
“คุยกันตรงนี้แหละ พวกกูจะได้รู้ด้วย” มีเพื่อนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
ปกติเรื่องความรักฉันถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่วันนี้ฉันคิดว่าเรื่องนี้คือเรื่องส่วนรวม ดูตาพวกมันสิ อยากรู้อยากเห็นเหลือเกิน
“คือเราจะมาขอโทษที่เรา ไม่ได้ไปเยี่ยมเมย์และก็เอ่อ…”
“ไปคบคนใหม่ฆ่าเวลา…” ฟ้าเพื่อนของฉันอีกคนเปิดรูปในมือถือโชว์ให้ดู
ฉันยอมรับเลยตกใจ เพราะเป็นหลักฐานแรกที่ฉันเห็นถึงสาเหตุที่คนรักของฉันหายไป ไม่มาเยี่ยมกันบ้างเลย แต่อีกใจก็อยากจะฟังคำอธิบายต่อหลักฐานชิ้นนี้
“กูก็มีนะ แต่ไม่ใช่คนนี้นี่” ดิวเพื่อนอีกคนที่ยืนอยู่มุมโต๊ะบอก
ทำไมมันมีมาเรื่อยๆวะ
ยิ่งเพื่อนฉันพูดขึ้นมาเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ดีดี้ช็อค หน้าเสีย และเหมือนจะร้องไห้
“พอก่อนพวกมึง เดี๋ยวกูคุยเอง” ท่ามกลางขุมกำลังมากมายของฉันและพร้อมจะช่วยไม่ให้ฉันกลับไปหาผู้หญิงตรงหน้าอีก
มันทำให้ฉันไม่รู้สึกเจ็บปวดหัวใจมากเท่าไหร่
หรือเป็นเพราะฉันอาจจะตัดใจเรื่องดีดี้ได้ตั้งนานแล้ว
“อย่าไปเชื่อนะเมย์ เราถูกใส่ร้าย”
“ดีดี้ ตอนแรกเราจะรอฟังจากปากดีดี้ก่อน" ดีดี้ยิ้มดีใจ "แต่..." คำว่าแต่ของฉันทำให้ดีดี้ชะงัก "... แต่สิ่งที่ทำให้เราเริ่มเชื่อทุกรูป ทุกคำพูดของเพื่อนๆโดยไม่รอฟังคำอธิบายของดีดี้ใน คืออะไรรู้มั้ย…”
“เมย์ ฟังเราก่อน เรา…”
“เพราะตอนที่เรานอนอยู่โรงพยาบาล ดีดี้ไม่เคยมาเยี่ยมเราเลย จะบอกว่าไม่ว่างเราก็เชื่อนะ แต่นี่เกือบสองปี เรานอนในนั้นตลอด เพื่อนๆไปเยี่ยมฉันทั้งเพื่อนคณะ เพื่อนน้อง เพื่อนพ่อ เพื่อนแม่ แต่ที่ทำให้เรารู้สึกเจ็บมากที่สุดคือ…”
เสียงเพลงของบาร์บีนั้นสนุกตื่นเต้นด้วยบีตดนตรีเร้าใจ แต่บรรยากาศที่โต๊ะของฉันนั้นเงียบมาก
“…ไอ้จิม มันไม่ถูกกับเรา เพื่อนที่เกลียดกันมาก แทบจะเอาไม้ตีกันตายอยู่แล้ว…” จิมที่พูดถึงนั่งยกแก้วเงียบๆอยู่ใกล้กับโต๋ “…มันยังไปเยี่ยมเราเลย…”
อึ้งทั้งโต๊ะ ไม่คิดว่าคนไม่ชอบขี้หน้ากันจะมีน้ำใจให้กันได้
“จิมมึงไปกี่ครั้ง” เนมหันไปถามจิม
“ครั้งเดี่ยว กูเอาดอกไม้จันท์ไปเยี่ยมมัน”
“เชี่ย!!!” เพื่อนต่างรู้ว่ามันเล่นกันแรงมากๆ แต่มันก็เป็นตัวยืนยันแล้วว่า ดีดี้ไม่เคยมาเลย
ดีดี้หน้าซีดลงเรื่อยๆ ฉันคิดว่าที่ดีดี้พยายามเข้ามาหาฉัน ติดต่อผ่านน้องชาย และจนมาตอนนี้คงจะรวบรวมความกล้ามากถึงเข้ามาจุดตรงกลางที่ฉันอยู่ได้
“เราอธิบายได้นะ เรา…”
“พอเถอะดีดี้ เราคงไม่ต้องพูดอะไรกันอีก”
“ให้โอกาสเราอีกสักครั้งได้มั้ย เราอย่าเลิกกันเลย"
ฉันเงียบ เพราะไม่รู้จะพูดอะไร จะให้โอกาสเหรอ? ก็คิดว่าแบบนี้ไม่ควรให้
"เมย์มีคนอื่นใช่มั้ย” ดีดี้พลิกเกมโกรธฉันขึ้นมา
“ใช่ แฟนใหม่เมย์คือกูเอง” ทีน่า สาวสวยสุดเซ็กซี่ของรุ่น ที่เป็นหลีดคณะและมหาวิทยาลัยโพล่งขึ้นมา แต่ปากร้ายมาก แหวกเพื่อนๆมาเกาะแขนฉัน
“นี่มันอะไร ไปคบกันตอนไหน”
“ตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่ามึงไม่มีสิทธิ์มาขอคืนดีกับแฟนกู กูหวง”
แถมยังโชว์หวานจูบแก้มฉันจนสีลิปสติกติด เสียงเพื่อนๆรอบๆฮือฮา หัวเราะ เป่าปาก ฉันตกใจแหละแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร มันคงเป็นเรื่องสนุกให้เม้าท์กันไปอีกนาน
“ไม่จริงใช่มั้ยเมย์ บอกเราสิ”
“โอ้ย!! จะอะไรอีก จูบแก้มแล้วมึงยังไม่เชื่อใช่ไหม หรือให้กูทำอย่างอื่นตรงนี้ ถึงจะเชื่อ”
“ดีดี้ เราจบกันเถอะ เลิกกันด้วยดีนะ…” ฉันพยายามจะพูดดีๆแต่...
“คนอย่างมึง ไม่เหมาะกับเมย์หรอก” ทีน่ามันรู้ว่าฉันจะพูดว่าอะไร เลยแทรกขึ้นมา “ไปเลยไป กูกำลังฉลองต้อนรับแฟนกู”
“ดีดี้ เราว่าเธอกลับไปเถอะ อีทีน่ามันห่วงแฟนมันมาก” ดาวเพื่อนถาปัดของฉันเตือน
ดีดี้จึงยอมเดินออกไปแค่โดยดี ฉันเห็นสีหน้าของอดีตคนรักเหมือนจะร้องไห้ จะตามออกไปดูแต่ก็ถูกเพื่อนดึงรั้งไว้
“จบนะมึง หาใหม่ อีเนี่ยมันนอกใจมึงตั้งแต่วันแรกที่มึงพะงาบๆอยู่โรงพยาบาลแล้ว” ทีน่าผู้เสียสละจูบฉันโชว์แฟนเก่ากลับไปนั่งที่เดิม ตบมือสะใจกับดาวที่แผนการไล่แฟนเก่าสำเร็จ
“ทีน่ามึงยอมเปลืองตัวช่วยเมย์มัน”
“ความจริง มันเคยแย่งแฟนกูเว้ยตอนปีสอง” นี่คือสาเหตุที่แท้จริง ไม่งั้นแก้มฉันคงไม่มีรอยจูบของมันสินะ
“ฮู้ย!!!เห็นหน้าสวยๆเป็นดาวคณะเลยนะเว้ย ไม่คิดว่าจะร้ายได้ขนาดนี้”
และเรื่องของฉันกับดีดี้ยังเป็นหัวข้อเม้าท์กันจนถึงตอนที่จะย้ายร้านไปร้านใหม่ที่มีโต๊ะพลูด้วย ซึ่งโต๋มันจองไว้ เพื่อนหลายคนขอตัวกลับเพราะดึกมากแล้ว จะเหลือแค่ 5 - 6 คนเท่านั้นที่ไปต่อ ส่วนบีม ฉันให้น้องมันกลับไปก่อนไม่ต้องรอ
“ขอบใจมากนะมึงที่ช่วยกู”
“เรื่องเล็กน่ะมึง มึงมันดีเกินไป มันต้องได้กับคนดีศรีสังคมสิ กูไปก่อนนะ อย่ากลับดึงนะมึง เตือนไอ้โต๋มันด้วยอย่าไปเรื้อนที่ไหน” ทีน่าเตือน
ตึง!
…ห้องสมาคมบ้านเงียบ…
เทพแบม สุดตรีนนน : มีสารท่ารบ จะบุกอารีน่าคืนนี้ กูไม่ยอมมมมม
เบนด้า ห้าหมื่นห้า : ไอ้สัด กูพร้อม บอกมันคืนนี้หลังเที่ยงคืน มันตายยยยย
คุณบีม : ได้
บิว บิน กินรวบโต๊ะ : หัวหน้าครับบบบบ
เมษาหน้าร้อน เมยาวีน่า… : ได้ๆ เดี๋ยวกลับไป
!
ฉันคงต้องกลับไปนอนบ้านแล้วล่ะ เพราะทีมต้องการฉัน
“เฮ้ยเมย์ ไปกันได้แล้วเว้ย” โต๋ตะโกนเรียก
“เอ่อ เอ่อไปแล้ว”
ใกล้เที่ยงคืน นาฬิการ้องเตือนเหล่าซินดอเลร่าต้องหาทางหลีกหนีเจ้าชายกลับไปขึ้นรถฝักทอง
ฉันก็ต้องกลับแล้ว มึงหัวมากๆ ประคองตัวเพื่อมาเรียกรถแท็กซี่กลับบ้านอย่างทุลักทุเล จนมาถึงหน้าบ้าน รปภ.มาช่วยจ่ายเงินให้
ฉันพุ่งเข้าไปอ๊วกที่ริมรั้ว
“คุณหนูใหญ่โอเคมั้ยครับ ให้ผมเรียกคุณๆมั้ยครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เมย์ไหว ขอน้ำหน่อยค่ะ” รปภ.รีบจัดหาน้ำมาให้ฉัน รอส่งฉันเข้าบ้าน และกลับไปประจำที่ป้อมตามเดิม
ทำไมทางเดินมาโค้งๆว่ะ
รูปนับร้อยไหลเข้าในกลุ่มที่เป็นรูปของดีดี้กับหนุ่มๆ สาวๆที่เธอควบ น่าแปลกฉันไม่รู้สึกเจ็บใจ หรือเสียใจอะไรกับการถูกสวมเขาครั้งนี้
ไอ้จิมโหดสุด มันส่งคลิปลับที่ดีดี้ถูกแอบถ่ายไว้ และกำลังดังในเว็บต่างประเทศ ยอดดูเกือบแสน
“เทพจิม มึงสุดยอดว่ะ”
ทีน่าแฟนชั่วคราวของฉันตะโกนในกลุ่มแชท
ลมเย็นจัง!
ฉันไปนั่งที่ชิงช้าตัวใหญ่หน้าบ้าน รอให้ส่างเมาก่อน การที่ไม่แตะแอลกอฮอล์เป็นเวลานานและกลับมาดื่มมันอีกครั้งทำให้ความสามรถในการประคองตัวลดลง ฉันยอมรับว่าเมาเร็วมาก
ตึง!
เมษาหน้าร้อน เมยาวีน่า… : บีม วันนี้เพื่อนของเราเป็นอะไรหรือเปล่า ดูหน้าเครียดๆนะ
คุณบีม : เรื่องคนเช่าห้องกับร้านที่ตึกของมันน่ะครับ
เมษาหน้าร้อน เมยาวีน่า… : เล่ามา…
!
ฉันนั่งอ่านเรื่องราว ที่มาของความไม่สบายใจที่แสดงออกชัดเจนบนหน้าตาสวยๆ รูปหัวใจ ที่เห็นแบบเต็มตา ตัวจริงครั้งแรกที่บนรถรานตอนนั้น
ฉันพยายามให้ความสนใจน้องคนนั้นให้น้อยลง ตอนอยู่ที่โต๊ะอาหารตอนเย็น ภาพความเศร้าบางอย่างที่ฉันเห็น มันรบกวนใจมากๆ จึงต้องถามเรื่องราวจากน้องชายที่เป็นเพื่อนสนิท
“ลูกเมย์คะ ลูกเมย์ตื่นค่ะ เช้าแล้วค่ะ อุ้ย กลิ่นเหล้านี่คะ นอนทั้งอย่างนี้แน่ๆ ตื่นค่ะคุณลูก”
เสียงคุณแม่ปลุกให้ฉันตื่น ฉันจำได้ว่าเมื่อคืนประมาณตีสามฉันนำทัพบุกยึดอารีน่าได้ และก็เผลอหลับไปด้วยความเมา
ฉันปลุกเจ้าแบมก่อนเพราะมันหนุนตักฉัน จากนั้นน้องๆก็ปลุกกันเองจนครบ และกลับขึ้นไปห้องของตัวเอง
“แม่คะ เดี๋ยวให้คุณบดินทร์มาทานข้าวด้วยนะคะ เมย์มีเรื่องจะคุยด้วย”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวแม่ให้คนไปตามให้ค่ะ”
ฉันหอมแก้มของแม่ฟอดใหญ่ ทั้งที่ตัวฉันเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าค้างจากเมื่อคืน ก่อนจะเห็นซีนาย
“เดี๋ยวพี่มีเรื่องจะคุยกับซีนายนะคะ”
ฉันมีเรื่องมากมายที่จะคุยกับทุกคนถึงเรื่องอนาคตของน้องๆ ทั้ง 3 คนโดยจะใช้เรื่องของซีนายเป็นตัวเชื่อม
ในฐานะพี่สาว ที่ไม่อยากให้น้องต้องมาแบกรับภาระอะไรแบบนี้ ซึ่งบีมเองก็เห็นด้วย
ดังนั้นเพื่อทำให้พ่อกับแม่รู้ความต้องการของน้อง ท่านจะได้ทำความเข้าใจ และให้คำปรึกษาได้ถูกต้องตั้งแต่เนิ้นๆ
และเรื่องของซีนายก็ถูกฉันเปิดประเด็นขึ้นมา บีมมันนั่งประกบเพื่อนของมันไว้หากซีนายจะมีเรื่องโต้แย้งใดๆ จะได้ห้ามกัน
หลังทานข้าวเสร็จ
คุณพ่อบอกจะไปส่งฉันที่มหาวิทยาลัย ฉันรู้ทันทีว่าท่านมีเรื่องจะต้องทำความเข้าใจในหลายๆอย่างเกี่ยวกับน้องๆ
“พ่อมีเรื่องอยากจะคุยกับหนู”
“ค่ะคุณพ่อ”
“เรื่องของบิวพ่อไม่ห่วง เพราะคิดว่าน้องน่าจะเอาตัวรอดได้ ซึ่งพ่อเห็นแล้วจากการที่น้องสามารถดีดตัวเองจากเด็กหลังห้องจนสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับลูกได้” ใครๆก็ทราบดีว่ามหาวิทยาลัยที่ฉันกับบีมเรียนเป็นมหาวิทยาลัยที่สอบเข้ายากที่สุด ผลการเรียนสะสมต้องเป็นระดับดีเยี่ยม หรือแม้กระทั่งโควต้านักกีฬา ก็จะต้องระดับแชมป์เท่านั้น
“แต่เรื่องของฝาแฝด พ่อคิดว่าพ่อไม่เห็นด้วย” ท่านจะไม่พูดหักหน้าลูกสาวกลางโต๊ะอาหาร เพราะไม่อยากให้ลูกชายทั้งหมดเคืองพ่อ เรื่องจะบานปลาย แต่จะเรียกพี่สาวมาคุยเป็นการส่วนตัว
“หนูถึงบอกคุณพ่อไงคะว่าน้องกำลังค้นหาตัวเอง สิ่งที่น้องพูดที่โต๊ะเมื่อกี้ ก็เป็นความต้องการแบบเด็ก ม.ปลาย การที่น้องบอกเราเป็นเรื่องดี เราจะได้จัดหาสิ่งที่น้องชอบให้ได้ ลงมือทำ ถ้าน้องชอบและทำได้ดี ก็สนับสนุน ถ้าน้องไม่ชอบก็จะได้หาสิ่งใหม่ต่อไป การเปิดร้านถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีนะคะ”
“แต่การแข่งขันสูงมาก”
“ใช่ค่ะ เราก็มีคุณบดินทร์คอยเป็นหูเป็นตาให้”
“เอาแบบนั้นเหรอ พ่อเป็นห่วง ถ้าน้องล้มขึ้นมาจะทำยังไง”
“ล้มสิคะ ดีจะตาย น้องจะได้รู้ จะได้ระวังและป้องกันตัวเอง หนูกับบีมมีความฝันนะคะว่า ไหนๆก็จะสานต่อกิจการของครอบครัวแล้ว พวกเราก็อยากจะเป็นกำลังค่อยสนับสนุน และเป็นบ้านทึ่คอยซัพพอตให้น้องๆ เหมือนที่คุณพ่อคุณแม่เป็นอยู่ตอนนี้ไงค่ะ”
คุณพ่อนิ่งไปครู่ใหญ่ ฉันกลัวว่าท่านจะไม่เห็นด้วย
“เอ้า เอาก็เอา ยังไงซะพ่อกับแม่ก็ไม่ได้อยู่กับลูกกตลอดไปเสียหน่อย พ่อเชื่อลูก”
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ”
“แต่…” นั่นไงต้องมีแต่
“อย่าลืมนะว่า บริษัทและเครือของเราอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ หากมีเรื่องเสียหายหรือใครคนใดคนหนึ่งทำเรื่องอื้อฉาว จะมีผลต่อหุ้นของเรา พ่อพูดเสมอว่า ความสำเร็จของลูกๆมีผลต่ออนาคตของธุรกิจของเรา ลูกๆมีกัน 5 คนต้องช่วยเหลือกันนะ ยังไงซะ พ่อสร้างทุกอย่างให้เป็นของเรา ไม่ใช่ของใครคนใด หรือหุ้นส่วนคนไหน ตอนนี้ลูก 2 คนก็ถือหุ้นกันแล้ว ส่วนหุ้นของพ่อกับแม่ไม่นานก็จะเป็นของน้องๆ ลูกเข้าใจใช่ไหม”
“ค่ะคุณพ่อ ขอบคุณค่ะคุณพ่อที่เข้าใจ”
ฉันโผเข้าไปกอดพ่อ ซบหน้ากับอบกว้างที่แสนอบอุ่น นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้กอดท่านแบบนี้
“ทำไงได้ล่ะ ลูกพ่อคนนี้คุมน้องซะอยู่หมัด ถ้าพ่อไปทำอะไรหัวหน้าซะ พ่อก็แย่น่ะสิ สู้ประจบเอาใจไม่ดีกว่าหรือ”
น้ำเสียงของท่านทีเล่นทีจริง หยอกลูกสาว
“ก็หนูเกิดก่อนนี่คะ หนูมีสิทธิ์ก่อนน้องๆ”
เรื่องที่ฉันกับพ่อต้องเคลีย และทำความเข้าใจก็เสร็จแล้ว ที่เหลือก็ลุยเรื่องอนาคตของน้องๆต่อเลย
ตารางเรียนของฉันอาจแปลกจนอาจารย์และเพื่อนๆไม่เข้า เพราะฉันเลือก section ที่เป็นตอนเช้าทั้งหมด เริ่มตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า และเสร็จประมาณบ่ายโมง หลังจากนั้นก็ไปขอให้อาจารย์ที่ปรึกษาจับฉันให้เข้าไปเรียนร่วมกับนักศึกษาภาคค่ำด้วย ฉันลงเรียนจนแน่นร่วม 7 วิชา แต่ถูกตัดเหลือแต่ 5 เท่านั้น
“อยู่นี่เอง” ดาวกับจี ตามหาฉัน วันนี้ฉันเรียนเสร็จตอนแปดสี่สิบ และกำลังจะรอเรียนต่อตอนสิบโมงถึงเที่ยงครึ่ง และอีกทีตอนหัวค่ำ
“ดาว จี มีอะไร”
“ฉันเห็นตารางเรียนของแกแล้ว ทำไมต้องเว้นช่วงบ่ายไว้ด้วย กลัวง่วงหรือไง”
“กลัวง่วงอะไร พ่อให้ฉันไปเรียนงานที่บริษัทอ่ะ อย่างน้อยๆไปเป็นเบ้พี่เค้า จนกว่าจะเรียนจบ”
“โห โหดอ่ะ เป็นลูกคนรวยนี้ก็ลำบากเหมือนกันนะเนี่ย”
“ลองมาเป็นมั้ย ให้ฟรีๆเลย”
ดาวส่ายหน้าดิ๊ก “ไม่เอาอ่ะ ลำบาก ฉันไม่ชอบ สาบานเลยนะ ต่อไปนี้จะไม่คิดอิจฉาลูกคนรวยเด็ดขาด”
“ช่าย เป็นปุถุชน ชนชั้นกลางแบบนี้ดีกว่าสนุกดี ชีวิตผกผันตามแรงเหวี่ยงของเศษรฐกิจ ปวดหัวน้อยกว่าอีก”
“อันนี้จริง จริงสิแกจำคลิปที่ไอ้จิมส่งมาในกลุ่มได้มั้น... มีมือดีเอาไปโพสประจานเว้ย ว่า คลิปฉาวดาวคณะ ม.ชื่อดัง ท่าลมฟ้าหน้าระเบียงเสียงดังราวฟ้าผ่ากลางเมือง นักสืบโซเซียวเก่งนะสืบจนเจอว่าเป็น ดีดี้แฟนเก่าแก เมื่อเช้า หุ้นบริษัทของพ่อมันล่วงลงเหวเลย ดูสิ”
จี มันเป็นนักเทรดหุ้นที่มีรายได้มากพอที่จะส่งตัวเองเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นทั้งไทยและต่างประเทศ จีมันรู้หมด
“อ๋อ ที่มาขอคืนดีเมื่อวานน่าจะเป็นเรื่องนี้แน่ ดีนะแกที่ปฎิเสธไป”
“จริงเหรอ น่าสงสารนะ” ฉันรู้สึกเห็นใจดีดี้ไม่น้อย อาจจะเป็นเพราะฉันไม่ได้คิดกับดีดี้เหมือนเมื่อ 2 ปีก่อนก็ได้
“จะมาสงสารอะไร แค่เรื่องที่แกนอนสิงอยู่โรงพยาบาลไม่มาเยี่ยมสักครั้ง มันก็ยืนยันได้แล้วว่าดีดี้มันไม่ซื่อสัตย์ เลิกเป็นห่วงแฟนเก่าและหาใหม่”
“แกมันฟุ้งซ่าน”
พอมีช่องว่างเพื่อนก็รุมโจมตีจุดอ่อนของฉันเป็นชุดเลยจ้า ยอมแล้วจ้า ยอมแพ้แล้ว
สมุดวาดรูปขาดเล็กถูกเลื่อนมาวางตรงไหน
“อะไร” ข้างในว่างเปล่า และก็มีสำเนาแบบแปรนห้องสมุดที่จะต้องทาสี มันได้ทำเครื่องหมายตำแหน่งที่จะต้องทาไว้พร้อม ด้วยลายมือของดาว แทรงมาด้วย
“ยาแก้ฟุ้งซ่านไง เอาไปทำซะ…ไหนๆก็จะไปค่ายแล้ว แกช่วยคิดรูปที่จะวาดตกแต่งห้องสมุดทีนะ พวกกูไม่ว่างสักคน เพราะต้องหาที่ฝึกงาน”
“จริง พวกฉันวืดหลายที่แล้ว ไหนจะส่งเมล ส่งจดหมายแนะนำตัว อะไรต่อมิอะไรมากมาย ถ้าเลือกสีที่จะทาได้ก็จัดการเลยนะ จะเอาไปทำงบซื้ออุปกรณ์ต่อ”
“โห โยนให้ฉันคนเดียวเนี่ยนะ”
“ใครบอกคนเดียว ยังมีอีกหลายคนนั้นแหละ แต่เจอแกก่อนก็เลยให้แกก่อน หรืออยากจะคิดเมนูอาหารที่จะทำในค่ายเลี้ยงคนทั้งกองทัพเอามั้ย”
ก็จริง วาดรูปง่ายกว่าทำอาหารล่ะ ฉันเห็นป้านวลจัดการกับรายการซื้อวัตถุดิบเข้าตู้เย็นก็แทบจะเป็นลมแทน
“วาดรูปดีกว่าจ้ะ"
“แค่นี่แหละ พวกฉันไปก่อนนะ จะไปหาไอ้วุ้นมัน แม่มันทำร้านอาหารตามสั่ง จะให้มันช่วย โอ้ยพวกนี้ไม่รู้ไปไหนกันหมด มาเรียนก็สาย”
พวกเพื่อนปีสามของฉันมีเรียนเริ่มต้นเก้าโมงเช้า
“ก็ไปรอที่ห้องเรียนสิ แกก็แยกๆไว้ว่าใครทำอะไรก็เท่านั้น” ฉันบอก
“เออๆ พวกฉันไปก่อนนะ … แล้วก็ขอวันจันทร์หน้านะเพื่อน”
เออดีจริง สั่งงานแล้วก็ไป เชื่อมั้ย ฉันคุยกับเพื่อนไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ
งานที่ได้รับมอบหมายจากเพื่อน ทำให้ฉันมึนเหมือนกัน
สีไม้ชุด ​12 สีหัวท้าย ฉันมักจะพกติดตัวเสมอ และดินสอ 2B ก็ทำให้ฉันทำงานได้ทันที ระหว่างนั้นฉันก็เปิดเสียงอาจารย์ที่สอนเมื่อเช้ามาฟังทบทวนไปด้วย
เกือบบ่ายโมงของวันนี้ หลังจากเรียนเสร็จ ฉันกำลังจะเข้าบริษัทระหว่างทางฉันเห็นซีนายกำลังวิ่งเก็บกระดาษที่ปลิวไปทั่วโต๊ะใต้ต้นไม้ของตึกคณะแพทย์ เหมือนยิ่งเก็บกระดาษกองนั้นยิ่งปลิว
เมื่อเพื่อนของน้องชายเจอปัญหา มีหรือที่พี่สาวอย่างฉันจะไม่เข้าไปช่วย
“ซีนาย เกิดอะไรขึ้นคะ” รู้สึกว่าฉันจะพูด “คะ” กับ “ค่ะ” บ่อยขึ้นนะ
“ชีตสรุปอนาโตมีค่ะ พี่รหัสเอามาให้ค่ะ ไอ้บีมมันอยากได้ด้วยเลยจะเอามาถ่ายเอกสาร ตอนนี้ร้านคนเยอะมาก เลยมารอค่ะ แต่อยู่ๆลมมันแรก พัดปลิวเลยค่ะ โอ้ย…ตกน้ำ" มีชีตสองสามแผ่นที่เป็นรูปภาพแช่แน่นิ่งในแอ่งน้ำขัง
ฉันเห็นซีนายหน้านิ่ว คิ้วตีกัน เสียดายที่ซีตภาพที่ถูกวาดด้วยปากกาสีต่างๆที่เต็มไปด้วยรายละเอียดละลาย
“เสียดาย”
ภาพพวกนี้หาในกูเกิ้ลก็ได้นี่ ฉันเห็นมีเยอะมาก
“ทำไมล่ะ พี่เห็นในเว็บออกเยอะแยะ”
“ก็มันเป็นแบบที่วาดมือน่ะค่ะ มีลายมือที่จดเพิ่ม ซีว่ามันช่วยเราจำได้เยอะกว่าที่หาในเน็ต”
“เหรอ แค่เป็นภาพวาดอย่างเดียวใช่มั้ยคะ?” ฉันนึกอะไรดีๆออก อาจจะช่วยน้องซีนายได้
“พี่เมย์ช่วยถือและก็ทับหน่อยค่ะที่โต๊ะนั่ง เดี๋ยวซีเก็บเอง”
ฉันทำตามที่น้องมันบอกอย่างว่าง่าย ฉันมานั่งเท้าคางมองการเคลื่อนไหวที่แสนวุ่นวายวิงเวียนของซีนายเพลินๆ น้องยื่นอะไรมาให้เก็บ ให้ทับไว้ฉันก็รับมาหมด
RRRR….
“สวัสดีค่ะ พี่เลย์"
“คุณเมย์คะ บ่ายนี้จะเข้าออฟฟิตมั้ยคะ?” คุณเลย์เลขาของคุณพ่อ ที่พ่วงตำแหน่งเลขาของฉันโทรตาม นี่ก็เลยเวลาที่จะเข้าไปมาสักพักแล้ว
“ขอโทษค่ะคุณเลย์ คิดว่าไม่เข้าแล้วค่ะ”
“โอเคค่ะ เรื่องโต๊ะที่สั่งไว้ตอนนี้เอกสารมาถึงแล้วนะคะ ทางโน้นเค้าบอกว่าจะมาถึงประมาณวันศุกร์นี้ จะให้ตั้งไว้ที่ออฟฟิตหรือที่บ้านคะ”
“ออฟฟิตค่ะ”
“ได้ค่ะ”
“คุณเลย์ค่ะ อยากให้ช่วยสั่งเพิ่มอีกตัว จะได้มั้ยคะ”
“เดี๋ยวพี่เช็คงบให้ก่อนนะคะว่าได้มั้ย แล้วจำเป็นมั้ยคะที่จะใช้สเป๊คเดิม”
“ไม่ต้องค่ะ เอาเล็กลงมาหน่อยก็ได้ค่ะ เมย์ยังไม่ได้เห็นห้องที่จะวางเลยค่ะ แต่พี่ส่งรายละเอียดเข้ามาได้เลยค่ะ”
“ได้ค่ะ คุณเมย์คะ…” ปลายสายเริ่มหัวข้อใหม่
“คะพี่เลย์?”
“คือวันเสาร์นี้ จะมีวีดีโอคอนเฟอซ์ กับทางดูไบนะคะ คุณประวิทย์อยากให้คุณเมย์บินไปดูไบ ในฐานะเด็กฝึก เดินทางศุกร์สองทุ่มนะคะ และกลับวันอาทิตย์”
“ไหนว่าเป็นวีดีโอคอนเฟอซ์ไงคะ เมย์ทำไมต้องบินไป”
“ทางดูไบเปิดให้มีการศึกษาดูงานค่ะ และจะได้เข้าร่วมประชุมนี้ด้วย”
“อ๋อ ให้เมย์ไปดูการทำงานใช่มั้ยคะ”
“ใช่ค่ะ”
การทำงานแต่ละครั้งมักจะมีปัญหา และข้อจำกัดต่างๆ คุณพ่ออยากจะให้ฉันไปเจอหน้างานจริงเพื่อจะเป็นวัตถุดิบในการทำงานในอนาคต
“เมย์ไปคนเดียวเหรอคะ?”
“ใช่ค่ะ แต่ถ้าคุณๆจะไปด้วยก็ได้ค่ะ (หมายถึงน้องๆของฉัน) แต่ไปได้คนเดียว เพราะตั๋วเครื่องบินตอนแรกบุคไว้ 2ที่ค่ะ แต่คุณประวิทย์จะคอนเฟอร์เรทแทน ไม่ไปแล้ว”
“งั้นคืนนี้เมย์จะเมลให้คำตอบนะคะว่าจะพาใครไปด้วย”
“ได้ค่ะ”
หลังจากวางสาย ฉันก็นั่งเท้าคางมองซีนายต่อ ตอนนี้เจ้าตัวกำลังนั่งเฝ้าให้ซีตเจ้าปัญหาแผ่นนั้นแห้ง แดดแรงกับลมขนาดนี้ อีกเดี๋ยวคงแห้ง
“ซีนายคะ” ระยะที่ฉันนั่งกับซีนายไม่ไกลมากพอจะคุยกันได้
“คะพี่เมย์”
“วันเสาร์นี้มีธุระที่ไหนหรือเปล่าคะ?”
“พี่เมย์จะมาดูร้านเช่าของซีไม่ใช่เหรอคะ?”
ก็จริง เรามีนัดกัน แต่ว่าฉันไปตามนัดไม่ได้แล้ว
“แล้วก็ซีมีตารางอ่านหนังสือค่ะ”
“ขยันจัง พักบ้างก็ได้นะคะ”
“เรามีเวลาให้พักอีกเยอะค่ะ ค่อยพักตอนนั้นก็ได้เหนื่อยไม่กี่ปีเองค่ะ”
ก็จริง คนเรามีเวลาพักผ่อนอีกนาน แต่ถ้าคนเราเคลียดเกินไปมันจะไม่ดี
“ซีนายคะ ห้องเช่ากับห้องของซีนายเหมือนกันมั้ยคะ พี่หมายถึงแบบห้องน่ะค่ะ”
“เหมือนกันค่ะ ห้องขนาดเท่ากันค่ะ แต่ไม่มีเฟอร์นี่เจอร์นะคะ ห้องน้ำข้างในค่ะ”
“ถ้าพี่จะไปดูห้องก่อนจะได้มั้ยคะ”
“ได้ค่ะ พี่เมย์จะไปวันไหนคะ?”
“วันนี้ค่ะ”
ซีนายเงยหน้าขึ้นมามองฉันงงๆ
“ไม่ได้เหรอคะ พี่รบกวนหรือเปล่า?” ฉันเห็นน้องเงียบๆ ชักไม่แน่ใจว่าน้องมันจะยอมให้ฉันไปที่ห้องได้หรือเปล่า
“ได้ค่ะ ไปได้ค่ะ แต่กลัวว่าพี่จะตกใจห้องของซีรกมาก”
นั่นคือเหตุผลที่น้องตอบฉัน
…ห้องสมาคมบ้านเงียบ…
เมษาหน้าร้อน เมยาวีน่า… : ใครจะไปดูไบกับพี่ ต้องการรู้เย็นนี้
เบนด้า ห้าหมื่นห้า : ผมจะไป
บิว บิน กินรวบโต๊ะ : มึงมาต่อยกับกูมาเลย
เทพแบม สุดตรีนนน : ข้ามศพกูไปก่อน
คุณบีม : ผมขอผ่าน ต้องไปดูร้านที่ตึกซีนาย ไอ้เบนกับไอ้แบมต้องไปด้วย
เทพแบม : วืดเฉยๆ
เบนด้า ห้าหมื่นห้า : อะไรวะ แพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเลย
บิว บิน กินรวบโต๊ะ : HAHAHA อะไรกัน ยืนเฉยๆได้ไปวะ
!
และสงครามข้อความอีกมากมายที่เป็นภาษาไทยอันแสนจะสุภาพก็เกิดขึ้น ฉันไม่อ่านต่อและปิดเสียงแจ้งเตือนสำหรับห้องนี้ไปซะ
สรุปคือไปดูไบครั้งนี้ฉันได้เบ้มาหนึ่งคน คือ บิว น้องชายคนกลาง
“จบเมย์ทอล์ก”
จบตอนที่ 3

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา