30 พ.ย. 2021 เวลา 10:12 • การตลาด
จะเกิดอะไรขึ้น !!!
เมื่อเซเว่น อีเลฟเว่น เป็นมากกว่าช่องทางขาย
ว่ากันว่า การเข้ามามีบทบาท และมีอิทธิพลต่อโครงสร้างของตลาดของค้าปลีกคอนวีเนียน สโตร์ โดยเฉพาะกับการทรงอิทธิพลขึ้นมาของเซเว่น อีเลฟเว่น ได้เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างทางการตลาดในบ้านเราอย่างมาก
1
เพราะไม่เพียงแต่ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น จะเข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของผู้บริโภครุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังมีส่วนต่อการเข้ามากำหนดทิศทางการทำตลาดของบรนด์สินค้า แต่ละแบรนด์ ให้มีการปรับเปลี่ยนและเลือกใช้ช่องทางขายนี้ ให้เป็นมากกว่าแค่ช่องทางขาย
โดยเฉพาะกับการสร้างให้เป็นเน็ตเวอร์คหรือเครือข่ายทางการตลาดที่สำคัญ ในการสร้างแต้มต่อในการแข่งขันให้กับตัวเอง
ตัวอย่างในเรื่องนี้ก็คือ เมื่อตลาดค้าปลีกของบ้านเราเข้าสู่การเป็นออมนิชะแนล ที่ผสมผสานช่องทางขายแบบออฟไลน์กับออนไลน์อย่างกลมกลืน เครือข่ายสาขาของเซเว่น อีเลฟเว่น สามารถเข้ามารองรับการทำตลาดในรูปแบบของออมนิชะแนล ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงการทำเดลิเวอรี่ ที่เน็ตเวอร์คของสาขาจะเข้ามามีบทบาทอย่างมาก
ต่อเนื่องดังกล่าวนี้ ทำให้ซีพีออลล์ แทบจะไม่ต้องลงทุนสร้างระบบเดลิเวอรี่เท่าไรนัก เพราะสาขาที่มีอยู่จะเข้ามาเป็นฐานสำคัญในการให้บริการเดลิเวอรี่ในรัศมีประมาณ 1 – 2 กิโลเมตรจากที่ตั้งของสาขา ขณะเดียวกัน ยังถูกใช้เป็นเครือข่ายในการเติมสินค้าเข้าสู่ตู้เวนดิ้งแมชชีนที่มีการขยายออกไป ทำให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการมีเครือข่ายสาขาอยู่ในมือเป็นจำนวนมากได้เป็นอย่างดี
2
ไม่เพียงเท่านั้น ร้านค้าปลีกอย่างเซเว่น อีเลฟเว่น ยังถูกใช้เป็นช่องทางในการทดลองทำตลาดสินค้าที่เปิดตัวใหม่ ก่อนลงมือสร้างแบรนด์ชองเจ้าของแบรนด์สินค้า หรือ ใช้เป็นช่องทางในการทำโปรโมชั่น เพื่อเสริมให้ภาพของกลยุทธ์การสร้างแบรนด์โดดเด่นขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ยังถูกใช้เป็นเครือข่ายในการให้บริการ ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของคนรุ่นใหม่
1
ถ้าดูตามข้อมูลที่ผู้บริหารของเซเว่น อีเลฟเว่น เคยให้ข้อมูลถึงภาพรวมของตลาดคอนวีเนียนสโตร์ในเมืองไทยแล้ว จะพบว่า ตลาดบ้านเรายังมีโอกาสในการขยายตัวได้อีกมาก เพราะถ้าดูจากจำนวนสาขาของผู้เล่นในตลาดนี้ทุกรายแล้ว มีรวมกันไม่ถึง 3 หมื่นสาขา ขณะที่ร้านโชห่วยรายเล็กจะมีอยู่ประมาณ 300,000 ร้าน ทำให้ยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก
ขณะที่เซเว่น อีเลฟเว่นเอง ด้วยจำนวนสาขาที่มีมากกว่ 13,000 สาขาไปแล้ว ซึ่งแม้จะมีสาขาอยู่ในมือมากกว่าคู่แข่งขันรายอื่นๆ ในตลาด แต่ซีพีออลล์ก็ยังคงมีการลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละไม่น้อยกว่า 700 สาขา หรือ มีอัตราการเขยายสาขาใหม่เฉลี่ย 3 วันต่อ 5 สาขา และมีลูกค้าเข้าร้านเฉลี่ยวันละมากกว่า 3.3 ล้านคนต่อวันหรือมากกว่า 1,000 คนต่อสาขา โดยเฉลี่ยลูกค้าเข้าร้าน 5 วันต่อครั้ง จากฐานลูกค้ามากกว่า 15 ล้านทั่วประเทศ ทำให้ เซเว่น – อีเลฟเว่น ในวันนี้ ไม่ใช่เป็นแค่ร้านค้าปลีกในสายตาของนักการตลาด แต่ยังเป็นเครือข่ายที่ทรงพลังในการเข้าถึงผู้บริโภค ความใกล้ชิดนี้ยังไม่นับรวมที่ ซีพีออลล์ เองใช้เป็นตัวต่อยอดธุรกิจมาสู่ไลน์ธุรกิจที่ทำเงินได้เป็นจำวนมหาศาล อย่างธุรกิจรับ จ่ายบิล เป็นต้น
1
การเป็นช่องทางขายที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ค่อนข้างดี ทำให้ร้านเซเว่น – อีเลฟเว่น กลายเป็นช่องทางขายที่ค่อนข้างมีอทธิพต่อการกำหนดเทรนด์ใหม่ๆของตลาดค้าปลีกในบ้านเรา และบางครั้ง การนำสินค้ามาวางขายในร้านนี้ก็เป็นการขายที่แทบจะไม่มีกำไร เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆที่เสียให้กับเซเว่น – อีเลฟเว่น
3
แต่นักการตลาดมองเน็ตเวอร์คนี้ใน “ภาพรวม” มากกว่า เพราะการที่เป็นสินค้าหนึ่งในหลายสินค้าที่วางในร้านนั้น เมื่อหักกลบกับสิ่งที่ได้มาแล้ว ถือว่าค่าใช้จ่ายต่างๆที่เสียไปน่าจะคุ้มค่า ทั้งในเรื่องของการใช้เป็นสื่อ ณ จุดขายที่ปะทะกับสายตาของผู้บริโภค 3.3 ล้านคนต่อวัน ซึ่งการถูกวางไว้เป็นสื่อ ณ จุดขายที่เข้ามาปะทะผู้บริโภคนี้ ถูกพัฒนาจากที่ใช้ตัวสินค้ามาเป็นตัวปะทะสายตาบนเชลฟ์ มาสู่การใช้สื่อส่งเสริมการขายในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการสร้างการทดลองใช้สินค้า และการเป็นช่องทางในการเทสต์สินค้าก่อนจะวางแบบปูพรมในทุกช่องทางขาย
1
นอกจาการมองในเรื่องของการปะทะสายตาผู้บริโภคแล้ว ซัพพลายเออร์หลายรายยังมองถึงการใช้ร้าน เซเว่น – อีเลฟเว่น เป็นส่วนหนึ่งในการครอบคลุมพื้นที่การกระจายสินค้าในเชิงของ Numeric Distribution หรือเปอร์เซ็นต์ของร้านค้าที่วางขายสินค้าในช่วงเวลาหนึ่งสูงที่สุด ซึ่งนคอนวีเนียนสโตร์จะได้เปรียบตรงที่เข้าใกล้ชิดผู้บริโภคมากที่สุดช่องทางหนึ่ง
การเป็นช่องทางขายที่ทรงอิทธิพลของเซเว่น อีเลฟเว่น ทำให้ค้าปลีกรายนี้ เป็นคนกำหนดกฏเกณฑ์ต่างๆ ในการนำสินค้าเข้ามาวางขายในร้านของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น
1
1.การกำหนดราคาสินค้าที่จะขายให้กับลูกค้า เพราะด้วยการมีฐานข้อมูลการซื้อของลูกค้า ทำให้เซเวน อีเลฟเว่น เข้าใจพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าแต่ละคนได้ดี เช่นเดียวกับการรู้ว่า สินค้าประเภทนี้ จะวางขายราคาเท่าไรถึงจะขายได้ หรือสินค้าถูกดึงออกจากเชลฟ์หรือตู้แช่ได้เร็วขึ้น
1
เรื่องดังกล่าวนี้ ทำให้สินค้าบางแบรนด์ที่มีต้นทุนของสินค้าค่อนข้างสูง ไม่เลือกวางขายในเซเว่น อีเลฟเว่น เพราะหลายครั้งที่ราคาขายปลีกหน้าร้านที่เซเว่น อีเลฟเว่น กำหนดมา ไม่สามารถ Cover ต้นทุนของสินค้าได้ จึงเลือกที่จะวางสินค้าในโมเดิร์นเทรดอื่นๆ แทน
2.ต้นทุนในการนำสินค้าเข้าไปขายในเซเว่น อีเลฟเว่น มีค่อนข้างสูง เพราะมีทั้งค่าแรกเข้า ค่ากระจายสินค้า รวมถึงค่าโปรโมชั่น และอื่นๆ อีกจิปาถะ ซึ่งต้องคำนวณให้ดีว่า การนำสินค้าเข้าไปขายจะคุ้มกับต้นทุนมากน้อยแค่ไหน
3.เช่นเดียวกับเรื่องการทำโปรโมชั่น ที่หลายครั้ง จำเป็นต้องลดกำไรของตัวเองลง อย่างการร่วมกับรายการโปรโมชั่นสแตมป์ เป็นต้น ซึ่งแม้จะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ร้านเซเว่น – อีเลฟเว่น ถูกใช้เป็นช่องทางในการทำโปรโมชั่น ที่หวังผลในเรื่องของการสร้างการ Trial หรือทดลองใช้สินค้า โดยเฉพาะสินค้าในหมวดของอาหารและเครื่องดื่ม ที่ต้องสร้างการยอมรับจากการผลักดันให้เกิดการทดลองบริโภคสินค้า ซึ่งไม่มีอะไรดีไปกว่า การใช้โปรโมชั่นที่ดึงดูดใจเข้ามาเป็นตัวช่วยกระตุ้น
ปัจจุบัน เซเว่น – อีเลฟเว่น มีโปรโมชั่นที่ถือเป็น Signature ของตัวเองหลักๆ อยู่ 2 รายการใหญ่คือ โปรโมชั่นแลกซื้อราคาพิเศษ เมื่อซื้อต่อบิล ตามเงื่อนไขที่วางไว้ ส่วนใหญ่ของการแลกซื้อ จะเป็นการขายในรูปแบบของ 2 ชิ้นในราคาพิเศษ
ส่วนโปรโมชั่นที่มาแรงอีกตัวคือ โปรโมชั่นสะสมแสตมป์เซเว่น – อีเลฟเว่น เพื่อแลกของรางวัลซึ่งจะมีการเพิ่มความแรงด้วยการสร้างสีสันผ่านธีมต่างๆ ที่ทำออกมาในแต่ละปี เป็นการทำลอยัลตี้ โปรแกรมที่ค่อนข้างได้ผลมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสินค้าที่ถูกดึงมาร่วมรายการ ยินยอมที่จะจ่ายในเรื่องของแสตมป์ทั้ง 1 บาท และ 3 บาท เพื่อร่วมรายการที่เซเว่น อีเลฟเว่นจัดขึ้น โดยเฉพาะสินค้าใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้าไปวางขาย ส่วนหนึ่งจะถูกผลักดันผ่านการทำแคมเปญดังกล่าว
นอกจากนี้ การถูกใช้เป็นเน็ตเวอร์คทางการตลาดของร้าน เซเว่น – อีเลฟเว่น ยังถูกทำผ่านการทำแคมเปญโปรโมชั่นที่ใช้เพิ่มยอดขายหรือสร้างมาร์เก็ตแชร์ในบางช่วงเวลาด้วย ซึ่งเรามักจะเห็นสินค้าหลายๆประเภททำโปรโมชั่นเฉพาะที่ร้าน เซเว่น – อีเลฟเว่นกับเฉพาะกลุ่มเป้าหมายบ่อยครั้งมากในช่วงที่ผ่านมา
ผลจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคมของบ้านเราทั้งในเรื่องของการเป็นสังคมเมืองมากขึ้น การใช้ชีวิตที่เร่งรีบ ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบ 7 วัน 24 ชั่วโมง หรือแม้แต่เรื่องของขนาดครอบครับที่เล็กลง เหล่านี้ได้กลายมาเป็นปัจจัยสนับสนุนให้คอนวีเนียน สโตร์ เพิ่มบทบาทมากขึ้น แน่นอนว่า ในฐานะผู้นำตลาด เซเว่น อีเลฟเว่น จะได้รับผลจากการเปลี่ยนแปลงนี้ไปเต็มๆ....
#BrandAge
โฆษณา