เรียนออนไลน์ ไม่มีความสุข เสียงสะท้อนจากเด็กนักเรียน
เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย การเรียนออนไลน์ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดการแพร่กระจายของเชื้อโควิด 19 การได้เรียนหนังสืออยู่ที่บ้านดูเหมือนจะเป็นอิสระ เด็กๆ มีเวลาว่างหลังจากเรียนออนไลน์ ได้ใกล้ชิดกับพ่อแม่ แต่ในความเป็นจริงมีผลกระทบต่อสภาพจิตใจเด็กพอสมควร การนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ส่งผลต่อสายตาและความไม่พร้อมของอุปกรณ์ในการเรียน สัญญานอินเตอร์เน็ตไม่ดี ถึงกับต้องออกจากบ้าน เพื่อไปหาสัญญานกลางป่ากลางดอยเหมือนที่เป็นข่าวก็มีไม่น้อย
เรียนออนไลน์ ไม่มีความสุข เสียงสะท้อนจากเด็กนักเรียน
นอกจากการเรียนออนไลน์จะมีผลต่อผู้เรียนแล้วก็มีผลต่อผู้สอนไม่น้อยเช่นเดียวกัน บางคนเป็นคุณครูรุ่นใหม่อาจจะคุ้ยเคยกับเทคโนโลยีมาก แต่สำหรับคนรุ่นเก่าใกล้เกษียณอายุราชการแล้วละก็ เป็นเรื่องอยากเอาการเลยทีเดียว จนนักวิชาการเสนอให้หยุดเรียนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือการเรียนออนไลน์นั้น นักเรียน นักศึกษายังคงจ่ายเงินเต็มจำนวน ทั้งที่แทบไม่ได้ไปโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยเลยด้วยซ้ำ ส่งผลให้รู้สึกว่าถูกเอารัดเอาเปรียบจากสถานบันการศึกษา โดยที่ทางรัฐบาลไม่ได้มาเหลียวแลแต่อย่างใด
เด็กๆ บางคนไม่มีกำลังทรัพยากรเพียงพอที่จะเรียนออนไลน์ บางคนเป็นเด็กยากจน มีเพียงมือถือเครื่องเดียว บ้านอาจไม่มีคอมพิวเตอร์ หรือ อาจจะมีคอมพิวเตอร์แต่ไม่มีการต่ออินตอร์เน็ตก็มีความเป็นไปได้ อีกทั้งสัญญานต่างๆ ก็อาจจะไม่ทั่วถึงทำให้เด็กบางคนขาดโอกาสในการศึกษา นอกจากนี้เมื่อมีการทดสอบ หรือสอบ การทุจริตก็สามารถทำได้ง่าย ทางแก้คือให้นักเรียนนักศึกษา ตั้งกล้องเพื่อถ่ายทอดสดวีดีโอขณะที่ตนกำลังทำข้อสอบ ดูจะเป็นการย้อนแย้งในตัวเองเกี่ยวกับความป้องกันการทุจริตในการสอบอีกต่างหาก
แม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์ต่างๆ จะเริ่มคลี่คลายออกไปมากแล้ว โดยหลายๆ โรงเรียนได้เปิดการเรียนการสอน เป็นในรูป new normal โดยจัดให้นักเรียน นักศึกษานั่งห่างกัน เว้นระยะ หรือแม้แต่สลับการมาเรียน
อาจจะแก้ปัญหาได้ส่วนหนึ่งแต่ก็มีปัญหาอื่นตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตารางเรียนที่ผู้สอนต้องออกแบบให้นักเรียนทุกคนได้เรียนทั้งที่ต้องสลับกันมาเรียนวันเว้นวัน หรือการตรวจคัดกรองโควิดก่อนเข้าเรียน ซึ่งทำให้นักเรียนต้องแยงจมูกบ่อยๆ ปัจจุบันเด็กนักเรียนนักศึกษาได้ฉีดวัคซีนกันมากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมเพียงพอ
อีกทั้งไวรัสตัวนี้ก็มีการกลายพันธุ์บ่อย และง่ายมากขึ้น วัคซีนที่เราฉีดอาจไม่เพียงพอต่อการต่อกรกับไวรัสตัวใหม่ๆ เพราะอย่าลืมว่าไวรัสเองก็เป็นสิ่งมีชีวิต มันต้องพัฒนาตนเองเพื่อให้พวกมันอยู่รอดบนโลกนี้เช่นกัน เป็นไปตามหลักธรรมชาติ
เราเองต้องคำนึงถึงส่วนของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ในกระบวนการคัดกรองซึ่งเงินส่วนนี้อาจตกเป็นภาระให้กับผู้ปกครองในการจ่ายเงินเพื่อซื้อชุดทดสอบ ซึ่งหากต้องการส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนตามปกติ ก็ต้องซื้อชุดทดสอบมาทดสอบ แล้วส่งหลักฐานให้ทางโรงเรียน เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าชุดทดสอบนั้นมีประสิทธิภาพ ไม่เกิดผลลบปลอมหรือ ผลบวกปลอมออกมา
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
