1 ธ.ค. 2021 เวลา 07:04 • การตลาด
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกครั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์ กำลังจะมาถึงในไม่ช้า หลังจากยุคของรถยนต์ไฟฟ้าได้เกิดขึ้นแล้วและกำลังจะเข้ามาแทนรถเครื่องยนต์สันดาปภายในทั้งหมด ในอีกไม่เกิน 20 ปี
ยางรถยนต์ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดอีกปัจจัยหนึ่งของรถยนต์ ที่ไม่สามารถแยกจากกันได้ตราบใดที่รถยนต์ยังต้องใช้ล้อเพื่อวิ่งบนพื้นไม่ได้ลอยเหนือพื้นเหมือนรถยนต์ในภาพยนตร์ Star Wars ก็กำลังจะเข้าสู่ยุคใหม่ของนวัตกรรมยางรถยนต์ที่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเช่นกัน
นั่นคือถึงยุคของยางรถยนต์ที่เรียกว่า Airless Tires ยางรถยนต์ไร้ลม (ไม่ต้องเติมลม) ที่กำลังจะมาถึงในอีกประมาณสามปีข้างหน้า
ยาง Airless Tires จะเป็นก้าวที่น่ายินดีสำหรับผู้บริโภคและอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะมีข้อดีหลายประการ เช่น ไม่ต้องกังวลว่ายางจะรั่ว ยางแบน เมื่อขับรถยนต์ทับของมีคมบนท้องถนน, และเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องยางแบนจึงไม่ต้องเปลี่ยนยางบ่อย ๆ, ไม่ต้องใช้บริการร้านปะยาง ประหยัดค่าใช้จ่าย, ไม่ต้องคอยเติมลมยาง, รวมทั้งไม่ต้องพกยางอะไหล่ติดรถยนต์ลดน้ำหนักของรถและเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาะในรถ, มีแรงต้านทานขณะล้อหมุนลดลงทำให้ประหยัดพลังงาน ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์สำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน, สามารถใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตยาง Airless Tires ทำให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีส่วนใดของยางที่ต้องทิ้งลงในถังขยะ ฯลฯ
2
และ 3 ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยางรถยนต์ของโลก Bridgestone, Goodyear, Michelin ก็กำลังจะพร้อมลงชิงชัยในสมรภูมิยางรถยนต์ Airless Tires นี้
Bridgestone เปิดตัวแนวคิดยาง Airless Tires ตั้งแต่ปี 2011 และพัฒนาอย่างจริงจังต่อเนื่อง Bridgestone ต้องการเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์รายแรกที่เปิดตัวยาง Airless Tires สู่ตลาด ซึ่งเมื่อแรกตั้งเป้าเจาะตลาดรถใช้งานเชิงพาณิชย์ที่รวมถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ ตามด้วยการจะบุกเข้าสู่ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลด้วยเช่นกัน
1
ยาง Airless Tires ของ Bridgestone ซี่ล้อของยาง ใช้พลาสติกพิเศษที่มีทั้งความยืดหยุ่นและแข็งแรงสูงรองรับน้ำหนักได้สูง ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล
ปัจจุบัน Bridgestone กำลังก้าวหน้าในการพัฒนายาง Airless Tires เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีเป้าหมายที่จะนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ในยานพาหนะประเภทต่างๆ โดยเร็วที่สุด
Goodyear ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยางรถยนต์ของโลกอีกราย ก็มีความก้าวหน้าที่น่าสนใจในการพัฒนายาง Airless Tires ของตน ล่าสุดได้มีการทดสอบยางกับรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 และยังทำการทดสอบกับรถโดยสารไร้คนขับ (Autonomous Passenger Shuttles).อีกด้วย
Goodyear ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนายางรถยนต์ Airless Tires อย่างจริงจังมาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 2000
เป้าหมายในการวางตลาดยางรถยนต์ Airless Tires ของ Goodyear คือในปี 2030
1
ขณะที่ Michelin ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยางรถยนต์ของโลกอีกราย ดูจะมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ Airless Tires ที่น่าสนใจที่สุดในบรรดายักษ์ยางรถยนต์ทั้ง 3 ราย
Michelin มีแผนงานที่ชัดเจนที่จะเปิดตัววางตลาดยางรถยนต์ Airless Tires ที่ใช้ชื่อว่า Uptis ในปี 2024 ซึ่งเร็วกว่า Goodyear ถึงหกปี แต่ไม่แน่ใจว่าจะเร็วหรือช้ากว่า Bridgestone เนื่องจากยังไม่เปิดเผยกำหนดเวลาวางตลาด
ชื่อ Uptis สำหรับยางรถยนต์ Airless Tires ของ Michelin ย่อมาจาก Unique Puncture-Proof Tire System (ระบบยางที่เป็นเอกลักษณ์ป้องกันการถูกทำให้รั่วและทำให้แฟ่บ)
จุดเริ่มความคิดของ Michelin ที่นำมาสู่การพัฒนายาง Airless Tires Michelin Uptis คือ การใช้ยางรถยนต์แบบเติมลมนั้นในแต่ละปีจะมียางรถหมดอายุการใช้งานถึง 200 ล้านเส้นต่อปี สาเหตุมาจากการมีปัญหาที่แรงดันลมของยาง หรือไม่ก็ยางมีรอยรั่วจนซ่อมแซมไม่ได้ จึงทำให้ Michelin มุ่งพัฒนายางรถที่ไม่ต้องเติมลม Airless Tires อย่างจริงจัง Michelin ใช้เวลาพัฒนา Uptis ยางรถยนต์ Airless Tires นานถึง 10 ปี
2
เมื่อเร็ว ๆ นี้ Michelin ได้สาธิตยางรถยนต์ Michelin Uptis ยาง Airless Tires ของตนกับรถยนต์ไฟฟ้า Mini Cooper SE และมีการทดสอบบนถนนในเมือง ได้ผลตอบรับค่อนข้างดี YouTuber Mr JWW ที่เป็นผู้ขับทดสอระบุว่า การควบคุมรถนั้นดูเฉียบคมกว่ายางทั่วไป จากข้อมูลของ Michelin ยังระบุว่า ประสิทธิภาพของยาง Uptis ที่ไม่มีลมภายในยาง ทำให้ง่ายต่อการจัดการเมื่อถึงขีดจำกัด JWW ยังสังเกตเห็นว่าพวงมาลัยของรถที่ใช้ทดสอบยาง Uptis รุ่นต้นแบบมีปัญหาน้อยลง
และนี่ทำให้ Michelin มองว่า ยางรถยนต์ Airless Tires ที่ไม่ต้องมีการเติมลมนั้น เป็นตัวเลือกในอนาคตสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูง
เป้าหมายทางการตลาดของยาง Uptis ของ Michelin มุ่งเป้าไปที่ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจนถึงรถใช้งานเชิงพาณิชย์
กำหนดการในการเปิดตัวยางรถยนต์ Uptis ยาง Airless Tires ของ Michelin สู่ตลาดในปี 2024 นั้น นับเวลาจากปัจจุบันก็อีกเพียง 3 ปีเท่านั้น นี่อาจจะสร้างความกดดันต่อคู่แข่งทั้ง Bridgestone และ Goodyear ศึกนี้คงไม่มีใครยอมใครแน่นอน สามปีไม่นับว่านาน ไม่ช้าเราก็จะรู้ว่าใครจะเป็นแบรนด์แรกที่จะเปลี่ยนตลาดยางรถยนต์อย่างสิ้นเชิง ด้วยการเปิดตลาดยางรถยนต์ Airless Tires
2
โฆษณา