4 ธ.ค. 2021 เวลา 06:12 • ข่าวรอบโลก
- หนึ่งในบิ๊กเนมวงการเทคอย่าง “Jack Dorsey” หลังลาออกจาก Twitter … เขาไปทำอะไรต่อ? -
Jack Dorsey ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ Twitter เพิ่งประกาศลาออกไปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2021 บิ๊กเนมวงการเทคอย่างเขาย่อมมีโปรเจกต์ให้คุมต่อ โดย Dorsey จะมุ่งความสนใจไปที่ ‘Block’ อีกธุรกิจหนึ่งของเขาที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก และคาดกันว่าบริษัทนี้จะเริ่มกรุยทางไปสู่ธุรกิจ “บล็อกเชน” และ “คริปโต”
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2021 “Jack Dorsey” ซีอีโอและผู้ก่อตั้งของ Twitter แจ้งการลาออกของเขาต่อสาธารณะ และเป็นการลาออกทั้งในตำแหน่งบริหารและลาออกจากบอร์ดคณะกรรมการบริษัทด้วย
1
ส่วนผู้ที่จะขึ้นมาแทนที่ตำแหน่งซีอีโอของเขาไม่ใช่ใครอื่นไกล “Parag Agrawal” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี (ซีทีโอ) วัย 37 ปี จะได้เลื่อนขั้นขึ้นมากุมบังเหียน
Dorsey ก่อตั้ง Twitter ขึ้นเมื่อปี 2006 จากนั้นต้องออกจากบริษัทไประยะหนึ่งก่อนจะกลับมาในฐานะประธานกรรมการเมื่อปี 2011 และเป็นซีอีโอในปี 2015
ช่วงปี 2009 ที่ Dorsey ยังอยู่นอกบริษัท เขาก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาในชื่อ “Square” และนั่งตำแหน่งเป็นซีอีโอ เมื่อกลับมา Twitter ทำให้เขาควบตำแหน่งซีอีโอสองบริษัท และดูเหมือนเขาจะบริหารแบบ ‘ปล่อยๆ’ และ ‘อินดี้’ กับ Twitter ทำให้นักลงทุนของบริษัทบางส่วนไม่พอใจเท่าไหร่นัก
ไม่มีการแจ้งเหตุที่ชัดเจนของการลาออก แต่คาดกันว่าความไม่พอใจของนักลงทุนคือแรงขับสำคัญ เพราะ Twitter เป็นโซเชียลมีเดียที่สร้างผลประกอบการด้อยกว่าโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อื่นๆ รวมถึงตัว Dorsey เองก็น่าจะอยากไปลุยเรื่องแพสชันใหม่ของตนเองคือเรื่อง “บล็อกเชน” และ “คริปโต” มากกว่าแล้ว
[[ จาก Square สู่ Block ]]
ดังที่เกริ่นไปว่าแพสชันของ Dorsey ไปอยู่กับสิ่งอื่นแล้ว สิ่งนั้นคือบริษัทที่เขาก่อตั้งอีกแห่งหนึ่งนั่นคือ “Square”
เพียงไม่กี่วันหลังเขาลาออกจาก Twitter บริษัท Square ก็แจ้งเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Block” เพื่อสะท้อนวิสัยทัศน์การขยายน่านน้ำการทำธุรกิจออกไป เหมือนๆ กับที่ Facebook เปลี่ยนเป็น Meta หรือก่อนหน้านี้หลายปีที่ Google เปลี่ยนเป็น Alphabet
1
โลโก้บริษัท Block
Square มีธุรกิจหลักคือพัฒนาโซลูชันการเงินและการจัดการให้กับผู้ขาย ข้อมูลตามหน้าเว็บไซต์ของ Square ระบุว่าบริษัทบริการให้ได้ตั้งแต่ระบบการขาย ระบบชำระเงิน ช่วยการหาแหล่งเงินกู้ธุรกิจ ระบบการตลาด ระบบ CRM
1
ทั้งหมดทำได้ทั้งหน้าร้านออฟไลน์และออนไลน์ และทำระบบให้เข้ากับหลายธุรกิจโดยเฉพาะ เช่น ร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ คลาวด์คิทเช่น ธุรกิจความงาม ฟิตเนส ซ่อมบ้าน เป็นต้น
นอกจากนี้ Square มีโปรดักส์สำหรับคนทั่วไปคือ Cash App เป็นแอปฯ โมบายล์เพย์เมนต์และการลงทุน ให้บริการในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร
บริษัท Square ยังเข้าไปลงทุนใน ‘Tidal’ แอปฯ สตรีมมิ่งเพลงชื่อดังด้วย โดยแอปฯ นี้มีจุดขายในตลาดคือให้คุณภาพเสียงสูงสุด ซึ่งมาในราคาพรีเมียม
1
ปัจจุบัน Square มีมาร์เก็ตแคป ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2021 อยู่ที่กว่า 8.86 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ชื่อบริษัทจะเปลี่ยนเป็น Block ราววันที่ 10 ธันวาคมนี้ แต่สัญลักษณ์ในตลาดหุ้นจะยังเป็น SQ เหมือนเดิมไปก่อน)
[[ Block = บล็อกเชน? ]]
ในระยะหลังจะเห็นได้ว่า Dorsey เริ่มนำ Square เข้าไปศึกษาธุรกิจใหม่ โดยการตั้งแผนก Square Crypto ขึ้นมาเพื่อ “อุทิศให้กับการต่อยอดบิทคอยน์” ปัจจุบันแผนกนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Spiral และตัว Dorsey เองแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาเป็นหนึ่งในนักลงทุนตัวเอ้และผู้สนับสนุนคริปโต
ลูกเล่นสนุกๆ ของทีมบริหาร Block จับภาพโปรไฟล์ใส่ ‘ลูกบาศก์’ ล้อไปกับโลโก้ของบริษัท
เมื่อชื่อบริษัทเปลี่ยนเป็น Block บริษัทออกแถลงการณ์ให้คำนิยามชื่อ Block ว่ามาจากอะไร ดังนี้
“Block เป็นการอ้างถึงบล็อกในแต่ละย่านที่เราสามารถพบเจอผู้ขายของเราได้ บล็อกเชน บล็อกจัดปาร์ตี้ที่มีเสียงดนตรีอยู่เต็ม อุปสรรคที่เราต้องเอาชนะ โค้ดดิ้งหนึ่งกลุ่ม อิฐบล็อกก่อสร้าง และแน่นอน หมายถึงลูกบาศก์ทังสเตนด้วย”
1
(–หมายเหตุจากผู้เขียน: ลูกบาศก์ทังสเตนเป็นเรื่องตลกวงในของกลุ่มนักเทรดคริปโต ระยะหลังกลุ่มนักเทรดคริปโตนิยมซื้อลูกบาศก์ที่ผลิตจากทังสเตนมาสะสมจนของขาดตลาด ทังสเตนนั้นเป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่มีมวลหนักที่สุด ลูกบาศก์ทังสเตนขนาด 4×4 นิ้วซึ่งสามารถวางไว้บนมือได้พอดีจะหนักถึง 18.6 กิโลกรัม เมื่อคนเราหยิบวัตถุแบบนี้ขึ้นมาจึงรู้สึกว่ามันขัดหลักฟิสิกส์เพราะมันหนักกว่าที่คาดคิด ซึ่งทำให้ลูกบาศก์ทังสเตนกลายเป็นของ ‘เก๋ๆ’ ของเล่นใหม่ของเศรษฐีคริปโต)
2
ส่วนคำแถลงโดยตรงจาก Jack Dorsey กล่าวว่า “Block เป็นชื่อใหม่ก็จริง แต่วัตถุประสงค์ของเราที่ต้องการจะเพิ่มอำนาจทางเศรษฐกิจยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าเราจะเติบโตหรือเปลี่ยนไปอย่างไร เราจะยังคงสร้างเครื่องมือเพื่อช่วยให้คนเข้าถึงระบบเศรษฐกิจได้ต่อไป”
ตอนนี้ Block ยังบอกเราแค่กว้างๆ ว่าจะทำอะไร แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าธุรกิจใหม่จะต้องเกี่ยวกับบล็อกเชนและคริปโตอย่างแน่นอน!
ที่มา: BBC, Wired, Forbes, Yahoo Finance
#JackDorsey #Twitter #Block #คริปโต #บล็อกเชน #Positioningmag
ติดตามข่าวอื่นๆ ได้ที่ positioningmag.com
โฆษณา