10 ธ.ค. 2021 เวลา 06:46
นิวซีแลนด์...แดนไร้ควัน
หนึ่งในนโยบายสาธารณะสุขที่เป็นที่ถกเถียงกันมานมนาน คือนโยบายเกี่ยวกับยาสูบ เนื่องจากการควบคุมการสูบบุหรี่มักถูกมองว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในหลายๆประเทศรวมถึงประเทศไทย ยังไม่นับการสูญเสียรายได้ที่มาจากกรมสรรพสามิตและสหภาพแรงงานของการยาสูบแห่งประเทศไทยก็ส่งผลต่อการตัดสินใจและการขับเคลื่อนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์เลิกสูบบุหรี่
ในช่วงหลายปีหลังมานี้เราพบว่ารายได้ของการยาสูบแห่งประเทศไทยลดลงมากทุกๆปี แม้ว่าปัจจุบันการยาสูบแห่งประเทศไทยจะครองมาเก็ตแชร์ถึงกว่า 50% นอกจากนั้นจะเป็นบุหรี่นำเข้าทั้งหมด แม้ว่าภาษีสรรพสามิตบุหรี่จะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้รัฐได้รายได้ของการขายบุหรี่ของการยาสูบฯดีขึ้น เนื่องจากบริษัทต่างชาติได้ลดราคาบุหรี่ลงเพื่อลดค่าใช้จ่ายจากโครงสร้างภาษีแบบใหม่ที่เก็บบุหรี่แพงกว่า 60 บาทในอัตราสูงกว่าบุหรี่ราคาต่ำกว่า 60 บาท ทำให้การยาสูบฯเสียมาเก็ตแชร์ไปบางส่วนให้กับบุหรี่นอกที่ลดราคาลงมาสู้
สิ่งที่แปลกคือการขึ้นภาษีของรัฐนี้มีผลต่อการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ไม่มากเท่าที่หวังเพราะผู้เล่นในอุตสาหกรรมทั้งผู้ขายและผู้บริโภคต่างก็รับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี (ยกเว้นการยาสูบฯ..) ซึ่งทำให้เรากลับมามองว่าหรือจริงๆแล้วการขึ้นภาษีสรรพสามิตและการปรับโครงสร้างภาษีอาจไม่ใช่ทางออกของการรณรงค์งดสูบบุหรี่ในบ้านเรา
2
เร็วๆนี้นิวซีแลนด์ได้ประกาศว่าเค้าจะห้ามเด็ดขาดที่จะไม่ให้เยาวชนที่เกิดหลังจากปี 2008 สามารถซื้อบุหรี่ได้ตลอดชีวิต ย้ำว่าตลอดชีวิต!! และตั้งเป้าว่าในปี 2027 จะเกิด “Smoke Free Generation” ส่วนคนที่เกิดหลังปี 2008 ที่ติดบุหรี่ไปแล้วจะถูกจำกัดปริมาณสารนิโคตินลงจากบุหรี่ภายในปี 2025 รวมถึงจะลดร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่จาก 8000 ร้านทั่วประเทศให้เหลือต่ำกว่า 500 ร้านให้ได้
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ลมปาก ถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้เริ่มตั้งเป้า “Smoke Free”ครั้งแรก โดยที่จะลดจำนวนนักสูบให้ได้น้อยกว่า 5%ภายในปี 2025 ซึ่งปัจจุบันสามารถลดไปได้แล้วเหลือ 13% จาก 18% เรียกได้ว่ายังมีลุ้นได้ตามเป้าอยู่ และเป็นประเทศแรกๆที่บังคับให้ซองบุหรี่ต้องไม่มีโลโก้และต้องเป็นกล่องสีน้ำตาลหรือเขียวล้วนเท่านั้น ยังไม่พอภาษีสรรพสามิตบุหรี่ก็ถูกปรับขึ้นอย่างหนักหน่วงโดยไม่แคร์ไคร พร้อมกับส่งเสริมการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอย่างถูกกฎหมาย
Dr. Ayesha Verrall รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขแกบอกว่า “เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีนักสูบหน้าใหม่ ต้องห้ามขายให้เยาวชนอย่างเด็ดขาด” แต่ปรากฏว่าประเทศที่สิทธิเสรีภาพมาก่อนอย่างนิวซีแลนด์โดนต่อต้านอย่างหนักเพราะถือเป็นการเลือกปฏิบัติโดยเหตุแห่งวัย ( Aged-based Discrimination )
ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในไทยเลยค่ะ เราไม่ให้ขายบุหรี่ให้เยาวชนนานแล้วและการผ่านกฎหมายเป็นไปอย่างราบรื่นเพราะไม่มีไครสนในเรื่องสิทธิเยาวชนในการสูบบุหรี่อยู่แล้ว เป็นข้อดีของประเทศที่ไม่เน้นเรื่องสิทธิ์สินะ555++ แต่ทำไมยังมีนักสูบหน้าใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ดอกเบี้ยสีทองเลยมองไปที่จิตสำนึกล้วนๆที่ทำให้นโยบายพวกนี้ไม่ได้รับการบังคับใช้อย่างทั่วถึง เรายังมีร้านเถื่อน ตลาดมืด โชห่วยมากมายที่ขายบุหรี่ให้เยาวชน หรือหนักกว่านั้นถ้าเซเว่นห้ามขายเด็ก ก็ฝากคนแก่กว่าไปซื้อเอา ก็ได้แต่ลุ้นเอาว่านิวซีแลนด์จะใช้มาตรการนี้จำกัดนักสูบหน้าใหม่ได้สำเร็จหรือไม่ หรือจะตามรอยไทย เพื่อจะได้มองย้อนกลับมาหาทางให้ประเทศเราไร้ควันบุหรี่บ้างนะคะ
โฆษณา