11 ธ.ค. 2021 เวลา 02:30 • ครอบครัว & เด็ก
ตายแล้วสมบัติไปไหน
ในช่วงเวลาที่ทาร่ารู้สึกว่าชีวิตนี้ช่างเปราะบางเหลือเกิน ข่าวการจากลาของใครต่อใคร ทั้งใกล้ตัว และไกลตัว กลายเป็นเรื่องปกติไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ทุกวันนี้แค่ได้ตื่นมาแล้วมีชีวิตนี่ก็ขอบคุณพระเจ้ามากแล้ว สุขภาพ ครอบครัว เงิน งาน เพื่อนฝูง นับเป็นโบนัสดีๆ ที่มีมาทุกวัน
1
ว่าแล้วก็คิดถึงบทความเก่าของตัวเองอันนึง เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2018 โน่นนน…ตอนนี้พยายามหาข้อมูลอัพเดท แต่ในเนตก็มีน้อยมาก นี่ยิ่งตอกย้ำให้ทาร่ายิ่งต้องเอากลับมาเล่าใหม่เลยค่ะ
เพื่อนๆ เคยสงสัยมั้ยคะว่า…. ในวันที่เราจากโลกนี้ไปแล้ว สมบัติของเราจะถูกแบ่งไปยังไง ใครได้มากกว่าใคร และใครที่จะไม่ได้อะไรเลย
ทาร่าได้ข้อมูลนี้มาจากห้องเรียน financial planner ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียนะคะ แต่ทาร่าเชื่อว่าคอนเซปน่าจะไม่ต่างจากที่ประเทศไทยมาก และหากใครที่อ่านจนถึงบรรทัดสุดท้ายแล้วก็จะได้รับบทสรุปเดียวกัน ไม่น่าจะพลาดจากประเด็นที่ทาร่าอยากบอกไปได้
หลังจากที่เราไม่อยู่แล้ว สมบัติของเราจะแบ่งไปตามนี้ค่ะ
1. สมบัติที่อยู่ในรูปแบบ joint ownership อย่างเช่น บัญชีร่วม บ้านร่วม ธุรกิจร่วม ในกรณีที่ใครคนใดคนหนึ่งไม่อยู่แล้ว สมบัติที่เหลือจะตกเป็นของอีกคนที่เหลืออยู่โดยอัตโนมัติ เราไม่สามารถที่จะยกสมบัตินี้ให้คนอื่นได้ในทุกกรณี
แต่ถ้าธุรกิจที่ทำอยู่ในรูปแบบ company (หรือจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด) หุ้นของเราก็จะถูกส่งต่อไปให้ผู้รับมรดกของเราต่อไป
2. สมบัติที่นอกเหนือจากในข้อ 1 จะถูกเอามารวมกันและแบ่งไปตามพินัยกรรม
3 . ในกรณีที่เราไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ สมบัติจะถูกแบ่งไปในได้ 2 กรณี คือ
3.1 ถ้าไม่มีลูก: สมบัติจะถูกยกให้คู่สมรสทั้งหมด
3.2 ถ้ามีลูก: สมบัติจะถูกแบ่งระหว่างคู่สมรสปัจจุบันและลูกๆทั้งหมด ตามข้อกำหนดของแต่ละรัฐ
เช่น สำหรับรัฐนิวเซ้าท์เวลล์ สมบัติมูลค่า $200,000 แรกจะตกเป็นของคู่สมรสก่อน ส่วนสมบัติที่เหลือจาก $200,000 จะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน และแบ่งให้คู่สมรสหนึ่งส่วน และอีกหนึ่งส่วนจะแบ่งให้ลูกทั้งหมดของผู้ตายในจำนวนเท่าๆ กัน
หรือถ้าเป็นรัฐวิคตอเรีย ก็จะยกสมบัติ $100,000 แรกให้แก่คู่สมรส และแบ่งสมบัติที่เหลือออกเป็น 3 ส่วน และแบ่งหนึ่งส่วนให้คู่สมรส และอีกสองส่วนให้ลูกทั้งหมดของผู้ตายในจำนวนเท่าๆ กัน
ส่วนรัฐอื่นๆ เค้าก็มีวิธีแบ่งของเค้าที่วนเวียนอยู่ระหว่างลูกกับคู่สมรสของเรานี่แหละ ลูกเยอะบ้าง คู่สมรสเยอะบ้าง สุดท้ายแล้วสมบัติเราจะแบ่งไปยังไงก็ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดที่มาจากใครก็ไม่รู้
บางคนอาจจะคิดว่าพ่อลูกเหลือกันอยู่แค่ 2 คน 3 คน ใครจะได้เยอะ ได้น้อย ก็ไม่เป็นไรหรอก สุดท้าย เดี๋ยวพ่อเค้าก็ต้องให้ลูกเค้าอยู่ดีแหละ
แหม.. มันก็ไม่เสมอไปมั้ยคุณขา เกิดเค้าแต่งงานใหม่ไปล่ะ?? เกิดมีลูกเพิ่มล่ะ?? หรือเกิดเค้าตายไปโดยที่ไม่ได้เขียนพินัยกรรมไว้อีกคนอ่ะ??? (คู่สมรสใหม่ คปด หมดเลยนะนั่น) หรือถ้าเรามีเงินไม่ถึง $200,000 อ่ะ?? ( 4.8 ล้านบาทเลยนะนั่น!! )
แล้วในกรณีที่เราไม่ได้อยากยกสมบัติเราให้แค่คู่สมรสกับลูกล่ะ??
ในกรณีที่เรามีพ่อแก่แม่เฒ่าที่ต้องดูแล เรามีพี่สาวที่มีบุญคุณกับเรามากๆ หรือเรามีลูกคนนึงที่ต้องการการดูแลมากกว่าลูกอีกคนนึงล่ะ หรือจะเหตุผลง่ายๆ แค่คู่สมรสเราไม่ดี ทำไมต้องให้ (มัน) ด้วย ?!?!?
ทำพินัยกรรมไว้ค่ะ!!!
พินัยกรรมไม่ใช่เรื่องของความไม่ไว้ใจกัน
พินัยกรรมไม่ใช่เรื่องของคนรวย และก็ไม่ได้มีแต่ลูกคนรวยเท่านั้นที่แย่งสมบัติกัน
จะเงินเยอะ เงินน้อย ก็เงินเราค่ะ อุตส่าห์เก็บหอมรอมริบไว้เพื่อความสบายในภายภาคหน้า
แต่ถ้าภายชาติหน้าบังเอิญมาถึงก่อน อย่างน้อยเราก็ควรที่จะเลือกได้ว่าเราอยากที่จะส่งต่อให้ใคร
❤️🧡💛💚💙
ระหว่างที่ภายชาติหน้ายังมาไม่ถึง เราก็ต้องทำภายชาตินี้ให้ดีที่สุดเนอะ
1
ใครที่ยังไม่รู้จัก Vision Board เครื่องมือมหัศจรรย์ในการเปลี่ยนทุกความฝันให้กลายมาเป็นความจริง
ทาร่าแนะนำเลยค่ะ เล่มนี้คือดีจริงๆ อ่านง่าย ทำง่าย ได้ผลจริงๆ
📙📙📙
หนังสือ "Power of Vision Board เปลี่ยนชีวิตให้เป๊ะปังด้วยพลังจากรูปภาพ" โดย Tara Thow
แบบเล่มที่ Se-ed https://bit.ly/3mJ7fNl
E-book ที่ Meb: https://bit.ly/3Bljwh0E
ที่ Ookbee: https://bit.ly/3Bn43Nj
IG: tarathow
Blockdit 1: มนุษย์แม่ลูกสองจากเมืองซิดนีย์ By Tara Thow
Blockdit 2: เทคนิคเพี้ยนๆที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง by Tara Thow
ติดต่องาน: ไลน์ไอดี tara.thow
โฆษณา