[Zero Covid Thailand] ## ประเทศต่างๆ ทั่วโลกพากันยกระดับมาตรการเพื่อสะกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่เร็วเป็นพิเศษ ## นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันเสาร์ (18 ธันวาคม 2564) ว

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

21 ธ.ค. 2021 เวลา 16:51 • สุขภาพ

## ประเทศต่างๆ ทั่วโลกพากันยกระดับมาตรการเพื่อสะกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่เร็วเป็นพิเศษ ##

นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันเสาร์ (18 ธันวาคม 2564) ว่าญี่ปุ่นจะยังปิดประเทศ ไม่ต้อนรับชาวต่างชาติไปจนถึงต้นปีหน้า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการระบุชัดๆ ว่ามาตรการเข้มข้นจะขยายไปถึงเมื่อไหร่ จากเดิมที่ประกาศปิดประเทศถึงสิ้นปีนี้ ส่วนระหว่างนี้ ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่มีที่พำนักในญี่ปุ่นแล้วกลับมาจากต่างประเทศจะต้องเข้ากักตัวในสถานที่ที่รัฐเตรียมไว้

ไม่เพียงแต่ญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ตอนนี้ประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงเกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ ในยุโรปก็พากันยกระดับมาตรการเพื่อสะกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิดกันอย่างยกใหญ่

╔═══════════╗

ZERO COVID THAILAND เพจสำหรับแชร์ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อช่วยยุติการแพร่กระจายของโควิด-19ในไทย

#กดไลค์และติดตามเพจ Zero C Thailand รวมพลังไทยลดยอดติดเชื้อ ให้เหลือ “0” เพื่อรับแนวทางป้องกันโควิด-19 อย่างทันท่วงที งานวิจัย และ ข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์แบบเข้มข้น

╚═══════════╝

## เกาหลีใต้ ##

เกาหลีใต้ใช้เคอร์ฟิวสำหรับการรับประทานอาหารนอกบ้าน

ประชากรผู้ใหญ่ของเกาหลีใต้ 94% ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว แต่ภายหลังจากการผ่อนคลายมาตรการเมื่อเดือนที่แล้ว มีตัวเลขติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่าและมีผู้ป่วยอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า

ดังนั้น นับตั้งแต่วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคมปีนี้ ถึงวันที่ 2 มกราคมปีหน้า เกาหลีใต้จำกัดจำนวนการรวมตัวกันไว้ที่ 4 คน ... ย้ำ "4 คน" และเป็น 4 คน"ซึ่งได้รับวัคซีนโควิดแล้ว"

ร้านอาหาร คาเฟ่และสถานบันเทิงต่างๆ จะปิดภายใน 21.00 น. และโรงหนังกับอินเทอร์เน็ตคาเฟ่จะปิดภายใน 22.00 น.

คนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ต้องรับประทานอาหารคนเดียวหรือซื้อกลับบ้านเท่านั้น

นายกรัฐมนตรี คิม บู-คยอม ของเกาหลีใต้ บอกว่ารัฐบาลกำลังเพิ่มทั้งทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและรณรงค์ให้คนไปฉีดวัคซีน แต่สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลา "เราจะผ่านวิกฤตินี้ไปได้ก็ด้วยการเอาชนะการแพร่ระบาดนี้ให้เร็วที่สุดเท่านั้น ด้วยการใช้การเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มข้น"

แน่นอนว่าฝ่ายภาคธุรกิจไม่พอใจ แต่รัฐบาลเกาหลีใต้บอกว่า แล้วจะชดเชยเงินให้ "มากกว่า[ที่เรียกร้อง]ด้วย"

เกาหลีใต้มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่รายวันเกิน 7,000 คนซึ่งทำสถิติใหม่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ไอซียูในโซลรับคนไข้ไว้ 87% แล้ว ส่วนที่อื่นก็รับไว้ 81% แล้วทั่วประเทศ

## กลุ่มประเทศ G7 ##

เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีสาธารณสุขของกลุ่มประเทศ G7 (กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา) พูดถึงเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron อ่านว่าโอไมครอนก็ได้) ว่าเป็น "การคุกคามที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน" ในด้านการสาธารณสุขของโลก โดยเร่งรัดว่าจะต้องมีความร่วมมือในระดับโลกเพื่อวิจัยและวินิจฉัยในเรื่องที่เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อสะกัดกั้นการแพร่เชื้อโควิดโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ความร่วมมือจะหมายถึงทุกๆ ด้าน รวมถึงเรื่องวัคซีนและมาตรการอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับยาด้วย

## สหรัฐฯ ##

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตือนว่ายอดผู้ติดเชื้อโอมิครอนอาจพุ่งปรี๊ดในเดือนมกราคมและโรงพยาบาลอาจจะรับไม่ไหว ซึ่งตอนนี้เพียงรับมือกับเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าก็อ่วมจะแย่แล้ว

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ มียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 50 ล้านคน มีผู้เสียชีวิตจากโควิดสะสมเกิน 800,000 คน และโควิดได้คร่าชีวิตชาวอเมริกันที่อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปแล้วถึงร้อยละ 10

ล่าสุด ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention – CDC) ได้ประกาศว่า ขณะนี้ โอมิครอนได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่กระจายในสหรัฐฯ ด้วยอัตรา 73% อันเพิ่มจากตัวเลข 3% ในระยะเวลาเพียงสัปดาห์เดียว

หลายมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ได้ประกาศปรับการเรียนการสอนและสอบไฟนอลเป็นแบบออนไลน์ รวมถึงบอกว่าให้นักศึกษากลับบ้านโดยเร็วที่สุด

ที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน หากต้องมีการรวมตัวกันในอาคาร ทุกคนต้องสวมหน้ากาก กิจกรรมไหนที่สวมหน้ากากไม่ได้ต้องยกเลิกหรือเลื่อนออกไปหลังวันที่ 7 มกราคมปีหน้า

มหาวิทยาลัยนิวยอร์กให้ยกเลิกกิจกรรมการรวมตัวกันที่ไม่จำเป็นหรือไม่เกี่ยวกับวิชาการทั้งหมด มหาวิทยาลัยคอร์แนลมีนักศึกษาติดโควิด 903 คนในช่วง 7-13 ธันวาคม และมีจำนวนมากทีเดียวที่ติดโควิดสายพันธุ์โอมิครอนทั้งๆ ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว

## เนเธอร์แลนด์และยุโรป ##

เนเธอร์แลนด์ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคมถึงวันที่ 14 มกราคมปีหน้า ร้านรวงต่างๆ ที่ไม่จำเป็นรวมถึงร้านอาหารจะต้องปิดทั้งหมด แต่ละบ้านจะรับแขกได้เพียงคราวละ 2 คน ยกเว้นวันคริสต์มาสและปีใหม่ที่อนุญาตเพิ่มเป็น 4 คน

ในฝรั่งเศส งานดอกไม้ไฟและการเฉลิมฉลองที่ถนน Champs-Élyséesในคืนสิ้นปีได้ถูกยกเลิกแล้ว และฝรั่งเศสประกาศไม่รับคนที่เดินทางมาจากอังกฤษ ส่วนในเยอรมนีก็ถือว่าฝรั่งเศส นอร์เวย์ และเดนมาร์ก อยู่ในประเทศเสี่ยงสูงด้วย ในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ร้านอาหาร ผับ โรงหนัง โรงละคร จะต้องปิดเวลา 2 ทุ่ม สนามกีฬารับคนได้แค่ 50% และงานแต่งงานต้องมีคนร่วมงานไม่เกิน 100 คน ส่วนการรวมตัวที่บ้านก็อนุญาตให้รวมได้ไม่เกิน 4 ครอบครัวเท่านั้น

ณ ตอนนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ใช้มาตรการเหล่านี้ถึงสิ้นเดือนมกราคม แต่ก็อาจมีการทบทวนเรื่องระยะเวลาอีกครั้ง

ยุโรปมียอดผู้ติดเชื้อโควิดสะสมมากกว่า 89 ล้านคน เสียชีวิต 1.5 ล้านรายแล้ว

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา อิตาลี กรีซ และโปรตุเกสกำหนดให้เข้าประเทศได้เฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากประเทศในกลุ่มอียูและแสดงผลตรวจโควิดว่ามีผลเป็นลบ แม้ว่าจะฉีดวัคซีนมาแล้วก็ตาม

## อังกฤษ ##

พื้นที่ต่างๆ ในสหราชอาณาจักรได้ยกระดับมาตรการมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว เช่น บังคับให้คนใส่หน้ากากในสถานที่สาธารณะ เว้นระยะห่าง และแสดงผลการตรวจโควิดและ/หรือการฉีดวัคซีน รวมถึงการตรวจด้วยชุดตรวจแบบเร็วก่อนออกจากบ้าน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่สัมผัสผู้ติดเชื้อ

ในแคว้นเวลส์ ไนท์คลับจะปิดตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคมเป็นต้นไป และมีแนวโน้มว่ามาตรการต่างๆ จะเข้มงวดขึ้นกว่านี้อีก

สหราชอาณาจักร มีสถิติยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดทำสถิติใหม่ 3 วันติด โดยตัวเลขที่ประกาศเมื่อวันศุกร์คือ 93,045 คน ในวันเสาร์ตัวเลขลดลงเล็กน้อยแต่ต่อมามีการเปิดเผยว่ามีคนติดเชื้อโอมิครอนกว่า 25,000 คนแล้วในอังกฤษ และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้แล้ว 14 คน

Sadiq Khan นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ได้ประกาศว่าขณะนี้สถานการณ์เข้าขั้นรายแรง ทั้งนี้ โรงเรียนในสหราชอาณาจักรต่างก็เตรียมแผน 1 แผน 2 เผื่อกันไว้แล้ว หากจำเป็นจะต้องใช้วิธีเรียนออนไลน์ มีการติดต่อครูที่เกษียณไปแล้วให้กลับมาช่วยทำงานด้วยเพราะอาจต้องใช้บุคลากรเพิ่มขึ้น

จริงๆ แล้วผู้คนในอังกฤษก็ตื่นตัวกันมากขึ้น ถนนต่างๆ และร้านรวงเงียบเหงาลงอย่างเห็นได้ชัด และในสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อในอังกฤษรายงานข่าวความปั่นป่วนเมื่อผู้คนหาชุดตรวจโควิดแบบเร็ว (Lateral Flow Kits หรือ Rapid Lateral Flow Tests) หรือที่ในบ้านเราคุ้นกันในชื่อ ATK (Rapid Antigen Test Kits) ได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ

นั่นก็เพราะรัฐบาลออกกฎใหม่ว่าใครที่อยู่ในกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจะต้องตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจแบบเร็วนี้ทุกวันต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วันแม้ว่าจะได้รับวัคซีน 2 เข็มแล้วก็ตาม

นี่เป็นการเปลี่ยนจากที่เคยบอกให้กักตัวรอดูอาการ 10 วัน ก่อนการมาถึงของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน

แม้กระทั่งสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ก็ยังยกเลิกงานฉลองก่อนคริสต์มาสสำหรับหมู่พระญาติ ซึ่งเคยจัดมาเป็นประเพณี เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของโควิด

แหล่งข่าวบอกแก่เดอะ การ์เดียนว่า เดิมทีงานนี้จะมีแขกประมาณ 50 พระองค์/คน แต่เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ท่านก็ทรงเห็นด้วยว่าการจัดงานนี้จะเป็นการ "ไม่รับผิดชอบ" เกินไป

เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมีการเปิดเผยผลการศึกษาของ Imperial College London ซึ่งติดตามผู้ติดเชื้อโควิดในอังกฤษในช่วง 29 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม ระบุว่า โอมิครอนมีอัตราการกลับมาติดเชื้อใหม่มากกว่าเดลตา 5.4 เท่า และไม่มีหลักฐานที่บอกว่าเชื้อจะอ่อนกว่าเดลตาแต่อย่างใด ในทางกลับกัน เชื้อสามารถหลบภูมิคุ้มกันจากการที่คนคนนั้นเคยได้รับเชื้อโควิดมาแล้ว หรือฉีดวัคซีน 2 เข็มมาแล้วได้เป็นอย่างดี

## เรื่องมันจำเป็น ##

Leo Varadkar รองนายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ กล่าวว่า ไม่เคยอยากให้ธุรกิจต้องหยุดชะงัก "แต่ถ้าจำเป็นที่จะต้องเข้มงวดเพื่อปกป้องชีวิต ปกป้องการสาธารณสุขและรักษาระบบบริการทางสาธารณสุขไม่ให้งานล้นมือจนเกินรับได้ นั่นก็เป็นสิ่งที่เราจะต้องทำ เพราะนั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง"

เขากล่าวว่าไอร์แลนด์อยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าอังกฤษเล็กน้อยเมื่อต้องรับมือกับโอมิครอน "นั่นก็เพราะเรามีข้อจำกัดที่เข้มงวดกว่าเขาเล็กน้อย ไม่อย่างนั้นล่ะแย่เลย" รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐไอร์แลนด์ กล่าว และยังบอกอีกว่า ถ้าโอมิครอนจะแพร่เร็วขนาดนี้ ต่อให้เชื้อรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้าสักครึ่งหนึ่งก็สร้างความเสียหายให้อย่างใหญ่หลวงอยู่ดี

เห็นด้วยกับท่านไหมล่ะคะ ว่าการปกป้องสุขภาพและชีวิตของผู้คนน่ะเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่เราต้องทำ และเราจะประมาทเชื้อโควิดไม่ได้เลย

สำหรับในบ้านเรา คงไม่ต้องรอให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นเหมือนในยุโรป แต่เราทุกคนควร #ยกการ์ดขึ้นสู่ระดับสูงสุดอยู่เสมอ เพราะหนทางที่ดีที่สุดที่จะต่อกรกับเชื้อโควิดอาจมีเพียงการปกป้องตัวเองและคนรอบข้างจากการรับและแพร่เชื้อ และเดินหน้าตรวจเชิงรุกเพื่อแซงหน้าและหยุดเจ้าไวรัสให้ได้เท่านั้น

และไม่ว่าเชื้อจะกลายพันธุ์ไปอย่างไร หน้ากากป้องกันละอองลอยคุณภาพดีก็ยังจะเป็นเกราะป้องกันอันแน่นหนาสำหรับเราทุกคนซึ่งเจ้าไวรัสยังไม่สามารถเอาชนะฝ่าด่านนี้เข้ามาได้ ในขณะที่ #โควิดแพร่ทางอากาศ เป็นหลัก

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่ทุกคนทำได้เพื่อหยุดการระบาดของโควิดคือการปกป้องตัวเองอย่างดีที่สุด สวม #หน้ากากป้องกันละอองลอย เช่น หน้ากาก N95 KF94 หรือหน้ากากที่มีคุณภาพที่ดีกว่าให้มิดชิด เว้นระยะห่างทางสังคมและอยู่ในที่ที่มีการระบายอากาศที่ดี รวมถึงใช้ชุดตรวจโควิดแบบเร็ว (#ATK) ตรวจหาเชื้ออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

แล้วเราจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกันนะคะ

ติดตามเราได้ที่

Twitter : twitter.com/zerocovidthai

Website : www.zerocovidthai.org/

Facebook : www.facebook.com/zerocovidthailand

Blockdit : www.blockdit.com/zerocovidthai

อ้างอิง

Japan's tight entry rules over Omicron variant to last into next year

https://english.kyodonews.net/news/2021/12/d4e564e42c0d-japans-tight-entry-rules-over-omicron-variant-to-last-into-next-year.html

Record COVID surge forces South Korea to reverse reopening

https://asia.nikkei.com/Spotlight/Coronavirus/Record-COVID-surge-forces-South-Korea-to-reverse-reopening

G7 calls Omicron ‘biggest threat’ to global health, Biden warns of spread in US