25 ธ.ค. 2021 เวลา 16:23 • หนังสือ
📚วรรณกรรมแปล
หนังสือเล่มหนึ่งซึ่งไม่มีวางขาย
君と会えたから ...
หนังสือเล่มหนึ่งซึ่งไม่มีวางขาย
“ ยังไงชีวิตนี้ก็มีชีวิตเดียว ไม่ต้องสนใจว่าทำได้หรือไม่ เขียนให้เต็มที่เลยว่าก่อนตายอยากทำอะไรบ้าง “
🍀🍀🍀
“ แต่ละคนแตกต่างกัน แต่เรากลับทุกข์ทรมานเพราะพยายามใช้ชีวิตให้เหมือนใครสักคนจริง ๆ ด้วยแฮะ เวลาเราตัดสินใจเลือกสิ่งที่อยากทำในอนาคตหนึ่งอย่าง นั่นก็เหมือนเลือกใช้ชีวิตตามรอยใครสักคนสินะ “ (บทเรียนที่ 1)
“ ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จต่างรู้ดีว่า กว่าจะได้มาซึ่งความสำเร็จ ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากคนมากมากมายสินะ
ใช่แล้ว เพราะแบบนี้ไง คนที่ประสบความสำเร็จเลยรู้ดีว่าการรับฟังคนอื่นสำคัญแค่ไหน “ (บทเรียนที่ 2)
“ แต่คนส่วนใหญ่กลับตัดสินว่าตัวเองจะทำไม่ได้ไปตลอดชีวิตเพียงเพราะจนถึงเมื่อวานยังทำไม่ได้ ความจริงว่าเมื่อวานทำไม่ได้ ไม่ใช่เหตุผลที่บอกว่าวันนี้จะทำไม่ได้สักหน่อย ห้ามทำแบบนั้นเด็ดขาด มนุษย์เราเติบโตและเปลี่ยนแปลงทุกวัน พ่อสอนฉันไว้น่ะ “ (บทเรียนที่ 6)
นับว่าเป็นวรรณกรรมแปลที่อ่านแล้วรู้สึกซ่อมแซมส่วนที่ขาดหาย ยังไม่พบเจอ หรือกระทั่งการหลงทาง ตามที่หน้าปกของเล่มโปรยเอาไว้ว่า “หนังสือสักเล่ม หรือใครสักคน ที่ทำให้เราเลิกหลงทาง” และให้ลงมือทำอะไรสักอย่าง พร้อมทั้งเห็นคุณค่าของใครสักคน เพราะพรุ่งนี้อาจไม่มีวันมาเยือน
ในหนังสือเป็นเรื่องเป็นราวของเด็กหนุ่มอายุ 17 คนหนึ่ง ‘โยสุเกะ’ ใช้ชีวิตของเขาไปโดยไม่มีแก่นสาร ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปทั้งอย่างนั้น ประกอบกับที่บ้านเปิดร้านขายหนังสือ จึงเป็นข้ออ้างที่ว่าค้องเฝ้าร้านให้กับพ่อของเขาและไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั้น
กระทั่งวันหนึ่ง เด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน ‘ฮารุกะ’ ย่างเท้าเข้ามาในร้านแห่งนี้ ชีวิตของพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ นั่นทำให้ชีวิตเขาได้เปลี่ยนไปตลอดกาล…
君と会えたから ... by Yasushi Kitakawa
เด็กสาวผู้สวยสะดุดตาคนนั้น ได้พาเขาออกไปท่องโลกซึ่งก็คือหนังสือที่ไม่มีวางขายเล่มนั้น แต่ละวันที่พบกัน ก็เปรียบเหมือนบทเรียนบทใหญ่หนึ่งบทสำหรับวันนั้น เป็นการเดตที่ไม่ธรรมดาที่เดียวเชียว ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นและอ่อนโยนที่คนคนนึงสามารถมีให้กับคนนึงได้
และเพราะโยสุเกะได้พบกับเธอ เขาจึงมีความคิดที่ว่า “อยากคบหาผู้คนโดยทำให้ทุกคนรู้สึกว่าโชคดีจังที่ได้รู้จักกับผม” และนั่นเป็นสิ่งที่เธอปรารถนาเช่นกัน
ข้อคิดที่ได้จากหนังสือเล่มที่ไม่มีวางขาย สามารถแบ่งออกเป็นหมวด ดังนี้ (หนังสือของฮารุกะที่มอบให้โยสุเกะ)
บทเรียนที่ 1 รู้ว่าจริง ๆ แล้วผมต้องการอะไร
  • ทำโดยการเขียนไลฟ์ลิสต์แผ่นแรก ว่าอยากทำอะไรให้ประสบความสำเร็จหรือต้องการอะไร เขียนลงไปให้เยอะ ๆ เพราะเราไม่ได้มีสิ่งที่อยากทำเพียงแค่อันเดียว
บทเรียนที่ 2 รู้วิธีทำให้ฝันเป็นจริง
  • ทำอะไรใน ‘วันนี้’ ได้บ้าง ไม่ใช่ใน ‘สักวันหนึ่ง’ และการให้น้ำหนักกับวันนี้เป็นอันดับแรก และทำอะไรรายรอบทางบ้างไหมเพื่อที่จะไต่เต้าไปหาความสำเร็จนั้น
บทเรียนที่ 3 รู้ความจริงเกี่ยวกับความสำเร็จในแง่ความมั่งคั่ง
  • การไปซื้อหรือรับบริการอะไรบางอย่าง เราไม่ได้จ่ายเงินเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ แต่เพื่อ ‘ส่งคำขอบคุณ’ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง
บทเรียนที่ 4 เป็นคนเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์
  • ถึงแม้คนเราตะมีความผิดพลาด มีช่องโหว่ แต่ถ้าจุดไฟเพื่อเพิ่มความสว่างจากด้านใน นั่นก็จะขับเอกลักษณ์ของเราออกมา
บทเรียนที่ 5 ไม่นำวิธีการมาเป็นเป้าหมาย
  • เราไม่ควรยกอาชีพให้เป็นเป้าหมายหรือความฝัน ไม่ยึดมั่นถือมั่นว่าเพียงอาชีพเดียวคือหนทางเดียวที่จะประสบความสำเร็จ เพียงแค่มันเป็นเพียงหนทางหนึ่งเท่านั้น ทางนี้ไม่รอด ก็ลองไปทางใหม่ ชีวิตยังไม่สิ้น
บทเรียนที่ 6 ละทิ้งอคติที่ว่าเราทำไม่ได้
  • เมื่อวานทำไม่ได้ไม่สำเร็จ ใช่ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้จะทำไม่ได้ เมื่อวานไม่ใช่เหตุผล เพราะมนุษย์เติบโตและเปลี่ยนแปลงทุก ๆ วัน
บทเรียนที่ 7 ไม่มีอะไรในชีวิตนี้ที่เราทำไม่ได้
  • ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แต่ในขณะที่ดำรงชีวิตอยู่นั้น ความสำเร็จจะยอดเยี่ยมเพียงใด มันก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของตัวเราเอง
นักเขียนอยากส่งสารที่ว่าคนรอบตัวได้พูดให้เขาฟังในแบบฉบับนิยาย ว่า “เพราะตอนนี้คุณยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นไม่ว่าอะไรคุณก็สามารถทำได้สำเร็จ” กระนั้นสัจธรรมของชีวิตคือความแน่นอนที่ทุกคนต้องพานพบ และเลี่ยงไม่ได้ แต่ไม่ได้จบเพียงแค่ทิ้งความเศร้าเสียใจไว้แค่นั้น ทว่าในขณะที่มีชีวิตอยู่การเดินเข้าไปในชีวิตของคนคนหนึ่ง กลับสร้างแรงกระเพื่อมเพื่อส่งมอบสิ่งที่มีคุณค่าให้กับอีกชีวิตหนึ่ง จะเป็นอย่างไร…
จะรีวิวหนังสือเล่มนี้ได้ ต้องขอขอบคุณ
นักเขียน : ยาสึชิ คิตากาวะ
นักแปล : หนึ่งฤทัย ปราดเปรียว
สำนักพิมพ์ : พิคโคโล พับลิชชิ่ง (Piccolo Publishing)
โฆษณา