เรื่องของความโชคดี กับ โชคร้าย
ย้อนกลับไปเมื่อ 100 กว่าปีก่อน
บริษัทเดินเรือได้สร้างเรือลำใหญ่อลังการ
ที่มีลักษณะเหมือนกันขึ้นมา 3 ลำ
ผู้คนต่างเรียกเรือทั้ง 3 ว่าเป็นเรือพี่น้องกัน
Cr : Wikipedia
เรืออาร์เอ็มเอส โอลิมปิก คือ เรือพี่ใหญ่ลำแรกที่เปิดตัวในปี 1910 ด้วยความที่เป็นเรือลำใหญ่หรูหราอลังการที่ไม่เคยมีมาก่อน คนมากมายจึงต่างอยากมีโอกาสได้ลงเรือลำนี้
Cr : Wikipedia
ไวโอเล็ต เจสช็อป คือ หญิงสาวผู้หนึ่งที่อยากลงเรือลำนี้ เธอสมัครเป็นบริกรบนเรือ จนได้ลงเรืออาร์เอ็มเอส โอลิมปิกสมใจ เจสช็อป รู้สึกตัวเองโชคดีมากที่มีโอกาสได้ลงเรือหรูหราขนาดนี้ได้
แต่แค่การเดินทางของเจสช็อปบนเรืออาร์เอ็มเอส โอลิปิกในครั้งแรกก็ต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เมื่อเรืออาร์เอ็มเอส โอลิมปิกถูกหัวเรือขนาดใหญ่ของเอชเอ็มเอส ฮอว์ก ที่เป็นเรือลาดตระเวนของกองทัพเรือชนเข้าเต็มแรง ทำให้ตัวเรือใต้ผิวน้ำของเรือโอลิมปิกฉีกขาดเป็นรูขนาดใหญ่ น้ำทะเลได้ไหลบ่าเข้าไปในเรือโอลิมปิกจนเรือเอียงไปข้างหนึ่งเกือบจม
แต่ลูกเรือได้ช่วยกันแก้ไขสถานการณ์พาเรือโอลิมปิกกลับเข้าท่าได้สำเร็จ เจสช็อปรู้สึกโชคดีที่เธอรอดชีวิตจากการประสบเหตุเรือชนกันในครั้งนี้
หลังจากนั้นไม่นาน เจสช็อป ก็ได้รับข้อเสนอให้ทำงานบนเรือ พี่น้องโอลิมปิกอีกลำ เรือลำนี้ใหม่และหรูหราอลังการยิ่งกว่าเรือโอลิมปิกลำแรกเสียอีก
เรือลำนี้มีชื่อว่า อาร์เอ็มเอส ไททานิก
Cr : Wikipedia
เจสช็อป รู้สึกโชคดีอีกครั้งที่เธอมีโอกาสได้ทำงานบนเรือลำใหม่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เรือที่ใคร ๆ ต่างก็อยากได้มีโอกาสมาโดยสาร
เรือ อาร์เอ็มเอส ไททานิก ออกจากท่าเรือเซาท์แทมป์ตัน เมื่อวันที่ 10 เมษายน ปี 1912 แต่ภายหลังการเดินเรือได้ 4 วัน เรือไททานิกก็ชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งและจมลง
ในช่วงเวลาที่เรือกำลังจะจมลงนั้น เจสช็อป ได้ช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งและได้พาลงเรือชูชีพไปด้วยกัน
เธอกับเด็กคนนั้นได้รับการช่วยเหลือจากเรืออีกลำ
เหตุการณ์เรือไททานิกจมนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,500 คน เจสช็อป รู้สึกตัวเองโชคดีที่เป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตของเหตุการณ์ในครั้งนี้
หลังจากนั้นในปี 1915
บริษัทไวท์ สตาร์ไลน์ ก็ได้เปิดตัวเรือลำใหม่ล่าสุดในตระกูลโอลิมปิก อันเป็นเรือลำสุดท้ายในเรือพี่น้อง 3 ลำ เรือลำนี้มีชื่อว่า เรือเอชเอ็มเอชเอส บริแทนนิก
Cr : Wikipedia
ในช่วงเวลานั้นสงครามโลกครั้งที่ 1 ได้เพิ่งเริ่มต้นขึ้น
ทำให้เรือบริแทนนิกได้ถูกดัดแปลงเป็นเรือพยาบาล
ซึ่งเจสช็อปก็ได้ทำงานเป็นนางพยาบาลบนเรือลำนี้
ในปี 1916 เรือบริแทนนิกได้ชนเข้ากับทุ่นระเบิด ทำให้ บริเวณตัวเรือด้านข้างฉีกขาดเป็นรูรั่วขนาดใหญ่ ส่งผลให้เรือบริแทนนิกจมลงทันที
เจสช็อปได้ลงเรือชูชีพทัน แต่ด้วยใบพัดขนาดใหญ่ของเรือบริแทนนิก ได้หมุนดูดทุกสิ่งเข้าไปหามันและบดขยี้ไม่เหลือซากซึ่งเรือชูชีพก็ได้ถูกดูดเข้าไปด้วย
เสี้ยววินาทีความเป็นความตายนั้น เจสช็อปตัดสินใจกระโดดลงจากเรือชูชีพก่อนที่จะถูกใบพัดบดขยี้
หัวของเธอไปกระแทกเข้ากับตัวเรือที่เป็นเหล็กกล้าเข้าอย่างจังจนทำให้กะโหลกศรีษะของเธอร้าว
แต่มันก็ทำให้เธอรอดชีวิตออกมาได้
เจสช็อป ได้ประสบเหตุบนเรือพี่น้องลำใหญ่ทั้ง 3 ลำ
ในสายตาคนทั่วไปต่างมองว่าเธอช่างโชคร้ายเหลือเกินที่ต้องมาพบเหตุการณ์เรืออับปางซ้ำ ๆ กันในเวลาห่างกันไม่นาน
Cr : Wikipedia
แต่ในมุมมองของ เจสช็อป กลับเห็นเป็นอีกอย่าง เธอรู้สึกว่าเธอโชคดีมากที่เธอสามารถรอดชีวิตจากเหตุการณ์มาได้ทั้ง 3 ครั้ง
เรื่องราวจากคน ๆ เดียวกัน เหตุการณ์เหมือนกัน ผลลัพธ์เหมือนกัน
แต่มุมมองแต่ละคนที่มองต่างกัน
บางทีความโชคดี หรือ โชคร้าย มันก็อาจอยู่ที่มุมมองความคิดเราเองว่าจะมองมันยังไง
ถ้ามองให้เป็นกำลังใจกับเราก็อาจมองว่าเราโชคดี แต่ถ้ามองว่าทำไมเราต้องเจอเหตุการณ์เช่นนี้ก็อาจคิดว่าทำไมเราถึงโชคร้าย
ความโชคดี กับ โชคร้ายจึงอาจไม่มีอะไรตายตัว
ไม่ว่าจะมองว่าชีวิตของเจสช็อปเธอจะ โชคดี หรือ โชคร้าย มากน้อยอย่างไร
แต่ที่แน่ ๆ สิ่งที่ทำให้เธอรอดชีวิตมาได้ทั้ง 3 เหตุการณ์ก็คือ สติ ที่อยู่กับเหตุการณ์ตรงหน้า
ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีสติกันครับ
อ้างอิงเนื้อหาจากและรูปจาก
หนังสือ Creative Blindness By Dave Trott
Wikipedia
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
