เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เมืองนิวยอร์คได้ออกกฎหมายใหม่ที่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่ได้ถือสัญชาติอเมริกันสามารถลงคะแนนในการเลือกตั้งของเมืองนิวยอร์คได้ โดยนายเอริค อดัมส์ (Eric Adams) นายกเทศมนตรีนิวยอร์ค ตัดสินใจที่จะไม่ใช้สิทธิยับยั้งร่างกฎหมายดังกล่าว
ภายใต้กฎหมายใหม่นี้ ประชาชนอีกราว 800,000 คน เช่น ผู้ที่ถือกรีนคาร์ด ชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในสหรัฐฯ และกลุ่ม Dreamer (ผู้ที่เข้าอเมริกามาอย่างผิดกฎหมายตั้งแต่เด็ก) จะใช้สิทธิออกเสียงในการเลือกตั้งระดับเทศบาลได้ (แต่จะไม่มีสิทธิเลือกตั้งในระดับรัฐและระดับ Federal) โดยสิทธินี้จะเริ่มขึ้นในปี 2023
นายอดัมส์ นายกเทศมนตรีคนใหม่ ได้อธิบายว่าเขาต้องการให้ชาวนิวยอร์คจำนวนมากขึ้นมีสิทธิมีเสียงในการบริหารเมืองของตน และเขากล่าวว่า ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะมีความกังวลอยู่บ้างเกี่ยวกับร่างกฎหมายนี้ แต่สุดท้ายแล้วการพูดคุยกับผู้ร่วมงานในเทศบาลนิวยอร์คก็ไ้ด้คลายความกังวลเขา และเขาก็เชื่อว่าการอนุญาตให้ร่างกฎหมายนี้ผ่านเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม การให้สิทธิเช่นนี้ของนิวยอร์คก็ได้ก่อให้เกิดกระแสคัดค้านเป็นอย่างมาก โดยพรรครีพับลิกันได้ตัดสินใจฟ้องร้องต่อศาลว่ากฎหมายนี้ขัดกับรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ระหว่างที่รัฐอื่น ๆ เช่น ฟลอริดา ก็ได้ออกกฎหมายตั้งแต่ปีที่แล้วว่า มีเพียงพลเมืองอเมริกันเท่านั้นที่มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่ว่าจะในระดับใดก็ตาม
กฎหมายใหม่ของนิวยอร์คสะท้อนแนวโน้มที่แตกต่างกันในรัฐเดโมแครตและรัฐรีพับลิกัน ระหว่างที่รัฐรีพับลิกันพยายามลดจำนวนคนที่จะสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งมากขึ้น รัฐเดโมแครตก็ได้สนับสนุนให้แม้กระทั่งกลุ่มที่ไม่ได้ถือสัญชาติอเมริกันเข้ามามีส่วนได้ส่วนเสียในระบบประชาธิปไตย
ศาสตราจารย์กิตติคุณ Eric Foner แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ได้ชี้ให้เห็นว่า การเพิ่มหรือลดจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในประวัติศาสตร์ เมื่อเป็นประโยชน์กับผู้มีอำนาจ ยกตัวอย่างเช่น ในอดีตนักการเมืองอเมริกันก็ไม่อนุญาตให้ชนกลุ่มน้อยมีสิทธิเลือกตั้ง
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจคือ แท้ที่จริงแล้ว การให้สิทธิเลือกตั้งกับชาวต่างด้าวไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับอเมริกา โดยศาสตราจารย์ Ron Hayduk แห่งมหาวิทยาลัย San Francisco State University ได้กล่าวในรายการวิทยุ NPR ว่า ระหว่างปี ค.ศ. 1776 ถึง 1926 มีถึง 40 รัฐที่อนุญาตให้ผู้อพยพใช้สิทธิเลือกตั้ง ในบางกรณีอาจลงรับสมัครเลือกตั้งได้ด้วย
ในวันนี้ สิทธินี้ถูกรื้อฟื้นแล้วในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา จึงทำให้ต้องจับตากันต่อว่า เมืองอื่น ๆ จะขยับตามหรือไม่
[ติดตามข่าวและประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกา กับเพจ 'รัฐศาสตร์สหรัฐฯ': https://www.blockdit.com/pages/61d59e9d8379cbc767578a87']
