13 ม.ค. 2022 เวลา 00:34 • ความคิดเห็น
ถ้าเล่าปี่มีวาทะศิลป์เป็นเลิศ
โจโฉก็มีปัญญายอดเยี่ยม
2
ครั้งหนึ่งโจโฉเดินทางไปหาซุนเกี๋ยน
เพื่อขอม้าของซุนเกี๋ยนไปต่อสู้กับตั๋งโต๊ะ
ทุกคนรู้กันว่าสิ่งที่ต้องทำมี 2 อย่าง
คือยึดเมืองหลวงกลับมาและกำจัดตั๋งโต๊ะ
จึงตกลงกันว่าหากใครเข้าเมืองได้ก่อน
ก็รับตำแหน่งจอมทัพไปเลย
โจโฉอาสากำจัดตั๋งโต๊ะเอง
และให้ซุนเกี๋ยนเคลื่อนพลเข้ายึดเมืองหลวงกลับมา
โจโฉจึงขอยืมม้าจากซุนเกี๋ยนเพื่อไปกำจัดตั๋งโต๊ะ ซุนเกี๋ยนคิดว่ายังไงตัวเองเข้าเมืองหลวงคงไม่ต้องใช้กำลังมาก หากให้โจโฉตามตั๋งโต๊ะไปก็หมดคู่แข่งไปคนและตนจะได้เป็นจอมทัพตามโดยไม่ยากก็ยินดีมอบม้าของฝ่ายตนจำนวนหนึ่งให้แก่โจโฉอย่างง่ายดาย
จุดที่น่าสนใจคือแต่แรกที่ทั้งสองมีกำลังไม่ต่างกัน เมื่อโจโฉได้ม้าของซุนเกี๋ยนมาย่อมมีกำลังเพิ่มขึ้น กลับกันซุนเกี๋ยนกลับตัดกำลังตัวเอง
ดูเผิน ๆ อาจเหมือนโจโฉช่วยสนับสนุนซุนเกี๋ยน แต่ที่จริงแล้วคนฉลาดอย่างโจโฉย่อมรู้ดีว่าการได้เมืองหลวงมาก็ไม่ต่างกับการเอาซากปรักหักพังมาเป็นภาระ
แต่การไปช่วยเหลือฮ่องเต้จากตั๋งโต๊ะต่างหากที่จะเป็นจุดเปลี่ยนให้แก่ตัวเองได้ เพราะการมีฮ่องเต้ย่อมหมายถึงมีอำนาจสั่งการทุกสิ่ง และยังอวยยศให้ตัวเองได้อีกด้วย
จากตอนนี้ตอนเดียวแสดงให้เห็นถึงสติปัญญาของโจโฉมากนัก ทั้งวางเหยื่อต่อซุนเกี๋ยน วางตัวอย่างสุขุม และวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน
4
ในชีวิตจริงเราก็ควรระวังคนที่แสร้งพูดดีว่าห่วงใยและเสนอเหยื่อตัวโตให้เรา
ซึ่งหากดูไม่ดี เราก็อาจติดเบ็ดจนแกะไม่ออกได้
3
จากสามก๊ก 2010
จะเล่าอะไรให้ฟัง
13 ม.ค.65
1
โฆษณา