13 ม.ค. 2022 เวลา 11:35 • ธุรกิจ
ความขัดแย้ง การเจรจาต่อรองที่นำมาซึ่งความขัดแย้ง คือ
การมองว่าคู่เจรจาเป็นศัตรู,การมองว่าชัยชนะ เป็นสัตถุประสงค์ที่สำคัญที่สุดในการเจรจา ,ไม่ไว้วางใจคู่เจรจา ,ใช้ท่าทีแข็งกร้าวต่อคู่เจรจาและประเด็นในการเจรจา เคร่งขรึม
- การเจรจาข้ามวัฒนธรรม หรือข้ามประเทศ โดยไม่ทำการศึกษาวัฒนธรรมหรือคู่เจรจาต่อรองก่อนทำการเจรจา เช่น การการะทำของเราไปขัดกับหลักความเชื่อ หลักศาสนาของเค้ามั้ย เป็นต้น ทั้งนี้การศึกษาคู่เจรจาก็จำเป็นกับการเจรจามนประเทศเช่นกัน เพราะต่างองค์กร ต่างคน ต่างการทำงาน ต้องศึกษาและปรับตัว
-ข้อตกลงของทั้งสองฝ่ายไม่เป็นที่น่าพอใจ ทั้งเรา และเค้าไม่ได้สิ่งที่ต้องการจากการเจรจาครั้งนี้
- หากได้รับประโยชน์ก็ไม่คุ้มค่า เช่น win-lose , lose-lose เป็นต้น เพราะทั้งเราและคู่เจรจาต่างมีขอบเขตที่แตกต่างกัน เช่นความต้องการ ความสนใจ อำนาจการตัดสินใจ การยอมรับความเสี่ยงที่ต่างกัน ขอบเขตเวลา ความจำเป็นในข้อตกลง ปัจจัยหลายๆอย่างเหล่านี้ต่างกัน หากไม่มีการหาทางร่วมมือกัน ก็ไม่สามารถจบสวยได้
การจัดการความจัดแย้ง
- รูปแบบของนักเจรจาเชิงสร้างสรรค์
จะมองว่าตู่เจรจาเป็นผู้ช่วยแก้ปัญหา , มองวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้และยังสมารถรัหษาความสัมพันธ์ระหว่างเราละคู่เจรจาได้ , มีการและเปลี่ยนและให้ความร่วมมือด้านข้อมูลต่างๆกับคู่เจรจา (ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ให้ข้อมูลที่ไม่ป็นผลกระทบต่อตัวเรามากนัก) , ให้เกียรติผู้เจรจา อ่อนน้อมแต่ก็แข็งกร้าวในประเด็นต่างๆของการเจรจา
- และเรายังสามารถศึกษาคู่เจรจา คาดเดาความต้องการของเค้า ความกังวลของเค้า และนำมาเตรียมตัวและวางแผนล่วงหน้า เพื่แนำเสนอางที่เค้าต้องการโดยเราได้สิ่งที่เราต้องการด้วย หรือไม่ก็หาข้อเสนออื่นๆเตรียมไว้ เผื่อการเจรจาไม่เป็นไปตามที่คาดคิด และการที่เรามีการวางแผน A,B ไว้ก่อนจะทำให้ลดความขัดแย้งได้เพราะเราจะได้ไม่อารมณ์เสียเมื่อคู่เจรจาปัดข้อเสนอของเรา เพราะเราได้มีการวางแผนไว้ชัดเจนและรอบด้านแล้ว และทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายไม่เสียหายด้วย เนื่องจากเราได้เข้าใจปัญหาและความต้องการของคู่เจรจาและทำมาประกอบในแผนการเจรจาแล้วด้วย
ตัวอย่าง
กรณีสั่งซื้อวัคซีน Moderna ในช่วง2-3วันที่ผ่านมา ผมได้ดูข่าวเรื่องการสั่งวัคซีนล่าช้าของบริษัทนำเข้าวัคซีนแห่งหนึ่ง ผมจำรายละเอียดได้ไม่แม่นยำนัก แต่ก็พอสรุปได้ว่า คุณอนุทิน มาแถลงข่าวเรื่อง วัคซีนล่าช้า ทั้งๆที่ตัวรพ.เอกชน ได้ทำตามข้อตกลงของบริษัทจัดส่งวัคซีนครบทุกจ้อการตกลงแล้ว เช่น การจ่ายเงินก่อน การมียอดการสั่งซื้อที่ชัดเจน เป็นต้น และตัว บริษัทนี้ก็ได้ออกมาบอกว่าจะส่งวัคซีนให้ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 ซึ่งตอนแรกบอกว่าจะมาถึงเดือนพฤศจิกายนแต่ความเป็นจริงแล้ววัคซีนยังส่งไม่มาถึงและตัววัคซีนบริจาคที่รัฐบาลจะถามอากลับมาถึงก่อนคุณอนุทิน
เลยมีข้อสงสัยว่าทำไมวัคซีนที่บริจาคมาถึงก่อนและวัคซีนที่สั่งซื้อไปในช่วงเวลาหลายเดือนมากแล้วยังไม่มาถึง คุณอนุทิน เลยบอกว่าการกระทำแบบนี้เป็นการกระทำที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลงในสัญญาและในอนาคต หากมีการ ทำธุรกิจระหว่างรัฐบาลกับบริษัทแห่งนี้ก็คงจะไม่เป็นการที่จะสะดวกมากนักเพราะการกระทำที่ผ่านมาไม่มีเวลาพอสัญญาและเป็นการผิดสัญญาซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เหตุการณ์นี้ถ้าบริษัทคู่สัญญาจัดส่งวัคซีนได้ตรงตาม Timeline ที่กำหนดไว้เลยได้ตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้จะไม่เกิดข้อปัญหาด้านนี้เลย
และ หากมีปัญหาในการผลิตหรือการจัดส่งจริงๆก็ควรจะออกมาแถลงข่าวขอโทษประชาชนและโรงพยาบาลต่างๆที่ทำการสั่งจองวัคซีนและจ่ายเงินไปแล้วเพื่อทำให้สถานการณ์ ความตึงเครียดลดลง เนื่องจากความผิดดังกล่าวเป็นความผิดที่บริษัทจัดส่งวัคซีนต้องรับผิดชอบ โดยหักออกมาขอโทษและมาหารือร่วมกันว่าจะ ทำยังไงให้วัคซีนมาถึงเร็วหรือหาทางออกร่วมกันโดยบริษัทนี้ก็จะ สามารถทำธุรกิจต่อกับโรงบาลเอกชนต่างๆหรือประชาชนหรือตัวรัฐบาลเองได้ อาจจะไม่ได้ ไม่ได้ความเชื่อใจ 100% แต่อย่างน้อยๆก็ ได้แสดงความรับผิดชอบ และมีการพยายามที่จะทำให้ข้อตกลงในสัญญาเกิดขึ้น จะเป็นการดีกว่าในปัจจุบันที่ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย
Crรูปภาพ 2 : https://pin.it/6D1SbCh
#อ่านดีกว่าไม่อ่าน
#ฝากกดไลค์ กดแชร์ แสดงความคิดเห็นและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ ขอบคุณครับผม😊
โฆษณา