14 ม.ค. 2022 เวลา 05:37 • หุ้น & เศรษฐกิจ
BREAKING !! : All Time High ! ล่าสุดตัวเลขส่งออกของจีนประจำเดือนธันวาคมได้ทำระดับสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ โดยมีแรงหนุนจาก Demand สินค้าทั่วโลก แนวโน้มการค้าในปีนี้จะเป็นอย่างไร ? มาดูกัน
2
ถือเป็นความสำเร็จท่ามกลางยุคโควิดเลยทีเดียว ! หลังจากตัวเลขส่งออกของจีนประกาศออกมาทำ All Time High ใหม่อีกครั้งในเดือนธันวาคม โดยมูลค่าส่งออกทั้งหมดอยู่ที่ 3.405 แสนล้านดอลลาร์ และทำให้ปริมาณการส่งออกตลอดปี 2021 ของจีนสูงถึง 3.36 ล้านล้านดอลลาร์
ส่วนการนำเข้าในเดือนธันวาคมมีมูลค่ารวม 2.46 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ตัวเลขรวมตลอดปีอยู่ที่ 2.69 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อหักลบกับตัวเลขส่งออกแล้ว จึงทำให้จีนเกินดุลการค้าอยู่ที่ 9.45 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม และ 6.76 แสนล้านดอลลาร์ตลอดปี 2021
ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าความต้องการสินค้าของจีนเพิ่มขึ้นในทุกประเภทสินค้านับตั้งแต่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์สวน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าตัวเลขการเติบโตทางการค้าของจีนจะอ่อนแอลงในปี 2022 นี้เนื่องจาก Demand สินค้าในภาคเทคโนโลยี, อุปกรณ์ Work from Home และอุปกรณ์ทางด้านสุขภาพ ได้ชะลอตัวลง
Demand ที่ชะลอตัวลงเกิดจากการที่เศรษฐกิจเริ่มกลับมาเปิดกว้าง ซึ่งทำให้เงินไหลจากภาคส่วนเหล่านี้ไปยังภาคบริการมากขึ้น ขณะที่หลายประเทศต่าง ๆ เริ่มวางกลยุทธ์ในการอยู่ร่วมกับ COVID-19 โดยมองว่าในอนาคตอันใกล้นี้โควิดจะกลายเป็นโรคประจำถิ่นเช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่
Ding Shuang หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ฝ่าย Greater China และ North Asia จากบริษัท Standard Chartered Plc ให้ความเห็นในประเด็นนี้เอาไว้ว่า
1
“การเติบโต 30% ในปีที่แล้ว ถือเป็นเรื่องยากที่จะรักษาไว้ได้ ดังนั้นการเติบโตของการส่งออกในปีนี้จะลดลงอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเติบโตทั่วโลกมีแนวโน้มชะลอตัว ข้อจำกัดภายในประเทศและการล็อกดาวน์ของจีนซึ่งมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส อาจทำให้เกิดความล่าช้าขึ้นบ้าง แต่กุญแจสำคัญยังคงอยู่ที่ว่า Demand ภายนอกประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร”
1
(Last year’s growth of 30% is clearly hard to sustain. So export growth this year will decline sharply, Partly because global growth is likely to slow down, China’s domestic restrictions and lockdowns aimed at containing virus outbreaks may also cause some delays, but “the key remains how external demand may evolve.)
ตอนนี้การระบาดของ Omicron ทำให้จีนต้องสั่งปิดหลายพื้นที่มากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อ Supply Chain ทั่วโลก เพราะแม้ว่าผลผลิตในภาคอุตสาหกรรมและการค้าจะไม่ได้รับผลกระทบในวงกว้าง แต่โรงงานบางแห่งก็ต้องปิดตัวลงชั่วคราวอีกครั้ง หรือบางแห่งก็ต้องชะลอการผลิตลง ขณะที่กำลังการผลิต(กำลังขนส่ง)ที่ท่าเรือในหนิงโป เซินเจิ้น เทียนจิน และเซี่ยงไฮ้ ต่างก็ได้รับผลกระทบจากการปิดพื้นที่
1
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ของ Bloomberg ให้ความเห็นเอาไว้ว่าการค้าของจีนจะยังคงแข็งแกร่งแม้อยู่ท่ามกลางการระบาดของ Omicron
“การจัดส่งสินค้าแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ และตราบใดที่ Demand จากภายนอกยังคงมีอยู่ท่ามกลางการระบาดของโอไมครอน บทบาทของจีนในฐานะศูนย์กลางการผลิตของโลกก็มีแนวโน้มจะสนับสนุนการส่งออกต่อไป”
(Shipments were stronger than expected for a fifth month in a row, rising to a fresh record. So long as external demand holds up in the face of omicron outbreaks, China’s role as a global manufacturing center should continue to support export.)
ทางฝั่งรัฐบาลจีน Li Kuiwen โฆษกของกรมศุลกากร ได้กล่าวในแถลงการณ์ว่าเศรษฐกิจของจีนในปี 2022 จะเผชิญปัจจัยของความไม่แน่นอน ความไม่เสถียร และความไม่สมดุลต่าง ๆ มากขึ้น โดยเฉพาะการค้ากับต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม Kuiwen กล่าวเสริมว่าแม้จะมีแรงกดดันเหล่านี้เกิดขึ้น แต่ปัจจัยพื้นฐานเชิงบวกในระยะยาวสำหรับการค้าของจีนจะไม่เปลี่ยนแปลงไป
ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ คือประเทศต่าง ๆ อาจลดการพึ่งพาสินค้าจากจีนได้ หากประเทศใน SEA เริ่มฟื้นตัวจากการระบาด เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ อาจเปลี่ยนเส้นทางคำสั่งซื้อกลับไปยังภูมิภาค SEA หลังจากที่ต้องย้ายคำสั่งซื้อไปยังประเทศจีนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
โดยสรุปก็คือ เศรษฐกิจและการค้าของจีนจะเผชิญปัจจัยกดดันในระยะสั้นได้มากขึ้นในปีนี้ แต่โดยรวมแล้วคาดว่าตัวเลขการค้าจะยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่ง เนื่องจากหลายประเทศยังต้องพึ่งพาสินค้าจากจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ทันโลก ทันเหตุการณ์ ทันข่าวสารที่แท้จริงไปกับ World Maker
🙏 ขอบคุณทุกท่าน 🙏 ที่ติดตาม World Maker ฝากกด Like และ Share เพื่อเป็นกำลังใจและให้นักลงทุนท่านอื่นได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เหล่านี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 😊
References :
โฆษณา