มันต้องมี ทั้งสองอย่าง คู่กันไป ทำคนละหน้าที่ ป่าเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่ต้องรักษาเอาไว้ เพื่อความสมดุลทางธรรมชาติ ไม่มีป่า ก็ไม่มีสิ่งมีชีวิต เพราะป่าเป็นต้นกำเนิดทุกอย่าง
สวนสัตว์ก็ต้องมีเอาไว้ให้มนุษย์ได้เรียนรู้ธรรมชาติและสัตว์ในรูปแบบจำลอง คงไม่มีพ่อแม่คนไหน อยากให้ลูกรู้จักเสือ โดยพาลูกไปดูเสือในป่า เพราะมันไม่ปลอดภัย หรือพาลูกไปดูจรเข้ในลุ่มน้ำจริงๆ เพราะอาจถูกมันฆ่าตายได้ แต่ถ้าเรากลัวไม่พาเด็กไปรู้จักสัตว์ป่า ดูแต่รูปในหนังสือ เห็นภาพในหนัง จะรู้จักมันจริงๆได้ยังไง ถ้าไม่ได้ไปเจอของจริง
ถ้าเราไม่ได้ไปเที่ยวสวนสัตว์ เราก็คงไม่รู้ว่า ขนแกะมันหยาบ และถ้าไม่เคยสัมผัสขน อัลปากา ก็ไม่รู้ว่าขนมันนุ่มเพียงใด และเวลาสัตว์ป่วย ถ้าไม่มีสวนสัตว์ให้สัตวแพทย์ได้เรียนรู้ ศึกษา เวลาเจอสัตว์ป่าถูกทำร้าย ก็คงช่วยไม่เป็น
อย่ามองแค่สัตว์ถูกขัง ขาดเสรีภาพ เพราะการนำสัตว์มาเลี้ยง ถ้าไม่รักจริง สัตว์ก็คงตายไปแล้ว ค่าเลี้ยงหมาแมวยังแพงเลย ค่าเลี้ยงหมี เสือ ยีราฟ แกะ ก็ไม่ถูกเช่นกัน มีภาระค่าใช้จ่ายเยอะ ทั้งค่าอาหาร ค่าคนดูแล ทำความสะอาด ค่าหมอ ค่าจัดการสิ่งแวดล้อม รายจ่ายมหาศาลนะ ยิ่งช่วงโควิด ยิ่งน่าสงสารสวนสัตว์ เพราะขาดรายได้ แต่ สิงโต ช้าง ม้า แพนด้า ต้องกินทุกวัน คนเลี้ยงอดได้ แต่สัตว์มันอดไม่เป็น ต้องเห็นใจคนเลี้ยงด้วย หนี้ท่วมหัวแล้ว
คำตอบอื่น
- ป่าง่ายๆๆสั้นๆ สวนสัตว์มันทดแทนได้ด้วยป่า เช่น พวกอุทธยานแห่งชาติ ก็คล้ายสวนสัตว์ แต่ให้น้องๆๆเค้าอยู่แบบธรรมชาติกันเอง เราอยากดูก็ไปดู
- ป่า สำคัญกว่าค่ะเพราะป่า มีทั้งป่าไม้ พืชพรรณ และสัตว์ มีธรรมชาติที่สมดุลแม้ว่าปัจจุบันนี้ป่าไม้ จะไม่สมบูรณ์ สมดุลเมื่อเก่า แต่ป่าก็คือป่าและคือกรงอันไร้ขอบเขตของสัตว์
- โดยส่วนตัวไม่เคยชอบสวนสัตว์ ไม่ชอบที่สัตว์ถูกเอามากักขัง ไม่อยากให้มีเลย แต่สังคมมนุษย์อะนะ ของแบบนี้มันก็ต้องมีนั่นแหละจะไปห้ามคงยาก ก็เหมือนกับที่ผมไม่ยากให้มีบ่อนมีซ่อง ไม่อยากให้มีโรงเหล้าโรงยา ไม่อยากให้มีการเอารัดเอาเปรียบกัน ฯลฯ แต่มันห้ามไม่ได้หรอก ได้แต่ทำใจว่ามันต้องมี แต่เราไม่ชอบเราก็อย่าไปยุ่งกับมัน ก็แค่น...
