15 ม.ค. 2022 เวลา 02:50 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ขุมพลังของเศรษฐกิจเยอรมนี ที่เรียกว่า Mittelstand
1
ดินสอสี Faber-Castell
เรือยอช์ต Lürssen
กล้องเอนโดสโคป และเครื่องมือแพทย์ Karl Storz
ไปจนถึง ตู้กระจกจาก Glasbau Hahn ที่ครอบมัมมี่ของฟาโรห์ตุตันคามุน
ที่กล่าวมาทั้งหมด ล้วนเป็นบริษัทสัญชาติเยอรมัน ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ทั้งในเรื่องของคุณภาพสินค้า และความเฉพาะทางในการผลิตสินค้าที่หาจากที่ไหนไม่ได้
สิ่งที่น่าสนใจของบริษัทเหล่านี้คือ ส่วนใหญ่แล้วไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
แต่ก็เป็นส่วนสำคัญมากของเศรษฐกิจเยอรมนี เพราะคิดเป็นร้อยละ 99 ของบริษัททั้งหมดในประเทศ และจ้างงานราวร้อยละ 61 ของการจ้างงานทั้งหมดในเยอรมนี
บริษัทเหล่านี้ถูกเรียกว่า “Mittelstand” (มิทเทิลชตันท์)
Mittelstand คืออะไร แล้วทำไมถึงเป็น ขุมพลังทางเศรษฐกิจของเยอรมนี ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เยอรมนีเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้ามากเป็นอันดับ 3 ของโลก
สิ่งที่น่าสนใจคือ สินค้าส่งออกของเยอรมนี ไม่ใช่พลังงาน แร่ธาตุ หรือสินค้าเกษตรกรรม
แต่เป็นสินค้าอุตสาหกรรม ทั้งยานยนต์ เครื่องจักร เคมีภัณฑ์ และยารักษาโรค
ภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีแข็งแกร่ง ส่วนหนึ่งก็เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้น ที่ผลิตสินค้าคุณภาพสูง ส่งออกไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นยานยนต์อย่าง Volkswagen, BMW, Daimler
เคมีภัณฑ์อย่าง BASF, Bayer หรือแม้แต่วัคซีนของ BioNtech
1
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีบริษัทสัญชาติเยอรมันอีกไม่น้อย ที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหุ้น แต่ก็ผลิตสินค้าคุณภาพสูง
ส่งออกไปขายทั่วโลกเช่นเดียวกัน และยังเป็นส่วนสำคัญที่สร้าง GDP กว่า 55% ของเศรษฐกิจเยอรมนี
บริษัทเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME และถูกเรียกว่า “Mittelstand” ที่มีความหมายว่า “สถานประกอบการขนาดกลาง”
ตามคำจำกัดความ ของกระทรวงเศรษฐกิจและพลังงานของเยอรมนี บริษัทที่จะเป็น Mittelstand ได้นั้น จะต้องมีจำนวนพนักงานน้อยกว่า 500 คน และมีผลประกอบการไม่เกิน 50 ล้านยูโร หรือราว 1,900 ล้านบาทต่อปี
1
แต่อย่างไรก็ตาม คำว่า Mittelstand ถูกนิยามได้กว้างกว่านั้น อาจหมายถึงบริษัทที่เป็นธุรกิจครอบครัว ทำธุรกิจผลิตสินค้าแบบเดิม สืบทอดกันมานานหลายชั่วอายุคน และขยายกิจการใหญ่โต จนบางบริษัทก็มีจำนวนพนักงาน และรายได้เกินคำจำกัดความไปแล้ว
ตัวอย่างเช่น บริษัท Faber-Castell ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1761 เริ่มจากธุรกิจผลิตดินสอคุณภาพสูง
ก่อนขยายธุรกิจไปยังเครื่องเขียนประเภทอื่น ทั้งสีไม้ ยางลบ และปากกา จนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ผลิต
และขายอุปกรณ์เครื่องเขียนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
1
ปัจจุบันบริษัทนี้ มีอายุกว่า 260 ปี และสมาชิกในตระกูลผู้ก่อตั้ง ก็ยังคงเป็นหนึ่งในบุคลากรหลักขององค์กร คือ Countess Mary von Faber-Castell
บริษัท Lürssen บริษัทผู้ผลิตเรือ ที่ก่อตั้งในปี 1875 เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือ เป็นที่ยอมรับ ทั้งจากอุตสาหกรรมต่อเรือทางพาณิชย์ และทางทหาร โดยเฉพาะเรือยอช์ตขนาดใหญ่
เพราะวัสดุอุปกรณ์ และชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ Lürssen เลือกใช้มาประกอบ และสร้างเรือแต่ละลำนั้น ถือได้ว่าเป็นวัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ปัจจุบันบริษัท Lürssen มีอายุ 146 ปี และ CEO ของบริษัทคนปัจจุบันคือ คุณ Peter Lürssen
ก็ยังคงเป็นบุคคลในตระกูลของผู้ก่อตั้ง
1
ซึ่งความโดดเด่นของการเป็นบริษัทแบบธุรกิจครอบครัว คือการวางยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจในแบบระยะยาว เพื่อส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น แตกต่างจากบริษัทที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบนี้ ที่ CEO อาจวางแผนธุรกิจในระยะ 5-10 ปีข้างหน้า
4
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัท Mittelstand สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยาวนาน และสามารถขายไปได้ทั่วโลก ไม่ได้มีแค่เพียงการวางแผนระยะยาวแบบธุรกิจครอบครัวเท่านั้น
แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายประการ ประกอบไปด้วย
ประการที่ 1 : การมีนวัตกรรมเฉพาะทาง และการวางแผนการตลาดระดับโลก
1
บริษัท Mittelstand หลายแห่งที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาสินค้าเฉพาะทาง
โดยให้ความสำคัญไปกับการวิจัยและพัฒนาอย่างสูง เพื่อผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง
1
ด้วยความที่สินค้ามีความเฉพาะเจาะจง ทำให้ลูกค้าของบริษัทเหล่านี้ ก็เป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือ Niche Market ถึงแม้จะทำให้มีลูกค้าไม่มากนัก แต่ลูกค้าก็มีกำลังซื้อสูง และบริษัทไม่ต้องเสียงบประมาณมากมายสำหรับการตลาด เพื่อใช้โฆษณาให้เข้าถึงตลาดมวลชน
3
ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และฐานลูกค้าที่มีไม่มาก ทำให้ตลาดต่างประเทศ คือเป้าหมายสำคัญของบริษัท Mittelstand และด้วยสินค้าที่มีคุณภาพสูง ทำให้บริษัทเหล่านี้ สามารถขายสินค้าไปได้ทั่วโลก
เช่น บริษัท Glasbau Hahn บริษัททำกระจกที่ก่อตั้งในปี 1829 เชี่ยวชาญการทำกระจกคุณภาพสูง ที่ใช้ในพิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์จากทั่วทุกมุมโลก
หนึ่งในนั้นคือ สุสานฟาโรห์ตุตันคามุน ในเมืองลักซอร์ ประเทศอียิปต์ ที่ใช้ตู้กระจกจาก Glasbau Hahn ด้วยคุณภาพที่เชื่อถือได้ ทำให้ทางพิพิธภัณฑ์มั่นใจว่า จะไม่มีฝุ่นหรืออากาศภายนอก เข้ามาปะปน และมัมมี่ของฟาโรห์ที่ถูกรักษาด้วยก๊าซไนโตรเจนจะคงสภาพเดิมไปอย่างน้อยอีก 1,000 ปี
ประการที่ 2 : ระบบการฝึกงาน
1
เยอรมนีถือได้ว่าเป็นประเทศที่ระบบการศึกษาแข็งแกร่ง และมีความเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมอย่างเหนียวแน่น ทำให้ภาคธุรกิจท้องถิ่นของเยอรมนี สามารถนำองค์ความรู้จากภาควิชาการ มาต่อยอดเป็นนวัตกรรมในโลกธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ หลักสูตรสายอาชีพ หรือ Ausbildung ที่เป็นหลักสูตรที่เน้นการฝึกงานในภาคส่วนธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ผู้เรียน มีความเชี่ยวชาญอย่างสูงในด้านนั้น ๆ และจบมากลายเป็นแรงงานที่มีทักษะสูง
ในขณะเดียวกัน การฝึกงานก็ทำให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะบริษัท Mittelstand สามารถเข้าถึงแรงงานที่มีทักษะ และพัฒนาต่อยอดให้แรงงานมีทักษะเพิ่มขึ้นไปอีก และชักจูงนักศึกษาฝึกงานที่มีศักยภาพเหล่านี้ให้มาร่วมงาน และกลายเป็นพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญในที่สุด
ประการที่ 3 : การขนส่งที่มีประสิทธิภาพ
เยอรมนีตั้งอยู่ใจกลางทวีปยุโรป เชื่อมระหว่างยุโรปตะวันตกกับตะวันออก และยุโรปเหนือกับทางตอนใต้ โยงใยด้วยระบบทางหลวง “เอาโทบาห์น” ที่มีประสิทธิภาพ และทางรถไฟที่มีความยาวกว่า 40,625 กิโลเมตร เชื่อมเมืองน้อยใหญ่ทั่วประเทศเข้าไว้ด้วยกัน เชื่อมต่อการขนส่งสินค้าทั่วประเทศ และเชื่อมต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั่วยุโรป
รวมถึงการมีบริษัทขนส่งระดับโลกอย่าง DHL ที่มีบริการขนส่งทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศทั่วทุกมุมโลก ทำให้สินค้าจากบริษัท Mittelstand สามารถขนส่งไปถึงมือลูกค้าได้อย่างปลอดภัย และสะดวกสบาย ไม่ว่าจะตั้งอยู่ส่วนไหนของประเทศ..
ด้วยความเฉพาะทางของสินค้าที่มีคุณภาพสูง แรงงานที่มีทักษะความเชี่ยวชาญ
และการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัท Mittelstand สามารถขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างมั่นคง
และผลักดันให้เยอรมนี กลายเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก
หลายคนอาจสงสัย
ว่าทำไมสินค้าเยอรมนีหลายชนิด ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดโลก
และบริษัทเยอรมนีมากมาย ก็ยังคงดำเนินกิจการมาอย่างยาวนาน
โดยไม่ล้มหายไปตามกาลเวลา
คำตอบสำคัญอยู่ที่ การมีขุมพลังอันแข็งแกร่ง ที่เรียกว่า “Mittelstand” ซึ่งมีระบบนิเวศทุกอย่างที่ลงตัวที่ทำให้เศรษฐกิจเยอรมนีแข็งแกร่งเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกจนถึงทุกวันนี้..
1
References
โฆษณา