15 ม.ค. 2022 เวลา 01:08 • กีฬา
▪️เวลาเราไม่เท่ากัน
---
• ผมมานั่งนึกย้อนถึง “ช็อตติดตา” มาร์คัส แรชฟอร์ด เหมือนไม่เต็ม 100% จะกระหายล่าบอลจังหวะรับกระฉอกของ เอมี มาร์ติเนซ ในเกมเอฟเอ คัพ แมนฯยูฯ ชนะ วิลล่า 1-0 กับช็อตยิงข้ามคาน เตะ 3 แต้มขึ้นสแตนด์ “เดอะ ค็อป” โดย ทาคูมิ มินามิโนะ เกม 0-0 ลีก คัพ เซมิไฟนอล นัดแรกกับอาร์เซนอล ที่ต่างให้ความรู้สึกเหมือนกัน
• เหมือนกันว่า หากมีความดีมาก ดีน้อย หรือไม่ดีเลยก็แล้วแต่ ทว่า “ช็อตติดตา” ลักษณะนี้ได้ตัดสินนักเตะคนนั้น ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว
• แรชฟอร์ด โดนกล่าวหาทันทีทั้งจากคนที่ดูเกมจริง ๆ หรือไม่ได้ดูเลยแต่ “ตามน้ำ” เอากับเขาด้วยว่า ไม่มีใจ
• ข่าวตามมามีมากมาย คลิปฉายซ้ำก็มีให้เห็น หรือกระทั่ง อลัน เชียเรอร์ ยังมีชื่อถูกนำไปเป็นที่ปรึกษาเจ้าหนูแรชฟอร์ด ที่ก็ไม่ใช่หนูน้อยแล้ว เพราะ 24 ปีแล้ว
• หรืออื่น ๆ อีกมากมายกระทั่งให้ย้ายทีมหนีไปเล่นสโมสรอื่น
• กรณี ทาคิ ที่ยิงโล่ง ๆ ข้ามคานไปเยอะก็เช่นกันที่โดนวิจารณ์หนักหน่วง นำโดยเจมี คาราเกอร์ กับมุมมองว่า แทบไม่เคยทำประโยชน์อะไรให้ทีมเลย
• ช็อตดังกล่าว ถูกนำไปเปรียบเทียบกับเด็ก 17 ขวบ เคด กอร์ดอน ที่ยิงชรูว์สบิวรี วันก่อนอย่างเยือกเย็นว่า “ต่างกัน”
• มันเจ็บปวดมากนะครับ การเป็นนักบอล แล้วต้องโดนแบบที่แรชฟอร์ด หรือมินามิโนะโดน
• อย่างไรก็ดี นั่นคือ “ราคา” (แพง) ที่คุณต้องจ่ายกับการเป็นนักฟุตบอลระดับนี้ที่คุณได้แบกความฝันเด็กผู้ชายทั่วโลก ชายกลางคนอย่างผม หรือผู้ชายทุกคนนั่นแหละที่ล้วนอยากเป็นนักเตะอาชีพ
• ได้เงินดี ได้เล่นบอลที่รัก สุดกว่านี้ไม่มีแล้วล่ะครับ
• ดังนั้นการตัดสินใจ “ไม่เอา” ของแรชฟอร์ด ที่หากใครไม่ตามน้ำวิจารณ์นักคงจะต้องมีสัก 30-40% ที่มองได้ว่า ต่อให้วิ่งเข้าไปหาบอลที่ยิงโดย เมสัน กรีนวู้ด ช่วงนาทีที่ 75 แล้วมาร์ติเนซรับหลุดออกมาก่อนจะตามมาตะครุบรับในอีกจังหวะ ลูกนั้นไม่น่าจะซ้ำได้ทัน
• แต่ประเด็นนั้นอยู่ที่ไหน?
• body language ครับ หรือ “ภาษากาย” ที่ไม่เอาอะไรใด ๆ
• ไม่เอาโลก ไม่เอาทีม ไม่เอาเกม โดยภาษากายดังกล่าวมีให้เห็นหลายครั้งในเกมนี้เกมเดียว
• ฉะนั้น ส่วนตัวผมสงสัย และพุ่งเป้าไปที่กิริยาท่าทางมากกว่าจะ “ชี้นิ้ว” ไปที่ทำไมไม่เอาในจังหวะซ้ำดังกล่าว
• แต่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็โดนพิพากษาไปแล้ว!!!
• ส่วนมินามิโนะ คงต้องพูดก่อนว่า ภาพรวมไม่ใช่กองหน้าที่จะยิงเลข 2 หลักอยู่แล้ว
• ออฟชั่นที่เลือกยิง หรือเทคนิคที่ใช้กับโอกาสประมาณ 6 ครั้งในเกมนี้ที่ได้เล่นเป็น 1 ใน 3 กองหน้าร่วมกับ บ๊อบบี้ เฟียร์มิโน และดิโอโก โชตา ตอบชัดเจน
• และ “ชัดแจ้ง” แดงแจ๋ในช็อตท้ายเกมช็อตนั้นที่นับจากนี้ไป ผมดูไม่ออก (แม้เอาใจช่วยเสมอ) ว่า ทาคิ จะคัมแบ็กกลับมาได้อย่างไร?
• สำหรับมนุษย์เดินดินอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ การได้รับโอกาสแม้เพียงครั้งเดียว บางทีมันก็เพียงพอ
• จะ 2 หรือ 3 ครั้งก็สามารถเป็นได้หากโชคดีได้รับโอกาส หรือมีโอกาสได้แก้ตัว
• ช็อตพลาดแบบมินามิโนะเป็นช็อตที่ภาษาบ้าน ๆ เรียกว่า “ช็อตนอนไม่หลับ”
1
• รับรองได้ว่า มันหลอนทั้งคืน หรือจะหลับแล้วยังมี “สะดุ้ง” แน่ ๆ แม้แต่คนไม่แคร์โลกก็รับรองได้ว่า ช็อตนี้มันจะ “คาใจ” ดาวเตะญี่ปุ่นไปอีกนาน
• พอ ๆ กับ “ฝังใจ” แฟนบอลเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
• แน่นอน เสียงโค้ชคีย์บอร์ดอย่างพวกเราพูดเป็นเสียงเดียวกันเกิน 90% ว่า ไม่ต้องยิงแรงก็ได้ แปเบา ๆ เน้นทิศทาง หรือจับก่อนยังอาจจะได้
• แต่ ณ จุดนั้น “เวลา” ของคน ๆ หนึ่งมันมีไม่เท่ากับอีกคน
• จับหนึ่ง, สอง และสามยิง ของ เคด กอร์ดอน ท่ามกลางการจราจรแน่นหนาในกรอบ 18 หลา แต่กอร์ดอน ทำประหนึ่งตนเองมี “เวลา” ยาวนานราวกับโลกหยุดหมุนให้กับเขา
1
• ทว่า กับอีกคนอย่าง ทาคิ ทำไมจึงเร่งกับเวลาถึงเพียงนั้น เราไม่รู้...
☕ณัฐวุฒิ ประเทืองศิลป์
📷: thisisanfield
#ไข่มุกดำ
#KMDCoffeeBreak
#มินามิโนะ
#ลิเวอร์พูล
#คาราบาวคัพ
โฆษณา