15 ม.ค. 2022 เวลา 01:46 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
นักวิทย์ถอดรหัสดีเอ็นเอตามหาอดัม
บรรพบุรุษแห่งโครโมโซมวาย
(เรียบเรียงโดย สัมโมทิก สวิชญาน)
1
ความรู้พื้นฐานที่เราเรียนกันในห้องเรียนในวิชาชีววิทยา คือ มนุษย์เรามีโครโมโซม 23 คู่ หนึ่งในนั้นเป็นคู่ที่เรียกว่า “โครโมโซมเพศ” โครโมโซมเพศมีสองแบบ นักวิทยาศาสตร์ตั้งชื่อไว้ง่ายๆ ว่า “โครโมโซม X” กับ “โครโมโซม Y” ถ้าเป็นผู้หญิง คู่โครโมโซมเพศคือ XX ส่วนถ้าเป็นผู้ชาย คู่โครโมโซมเพศคือ XY
1
เซลล์สเปิร์มของผู้ชาย และเซลล์ไข่ของผู้หญิงนั้น มีโครโมโซมแค่ครึ่งเดียวของเซลล์ปกติ เซลล์ไข่มีโครโมโซมเพศได้แบบเดียวคือโครโมโซม X ส่วนเซลล์สเปิร์มอาจจะมีโครโมโซมเพศเป็น X หรือ Y ก็ได้ ถ้าสเปิร์ม X มาปฏิสนธิกับไข่ จะได้ลูกสาว แต่ถ้าสเปิร์ม Y มาปฏิสนธิกับไข่ จะได้ลูกชาย
โครโมโซมเพศ ที่มา : The Conversation
ดังนั้น แปลว่า ถ้าเราเป็นผู้ชาย เราจะมีโครโมโซม Y อันเดียวกับของพ่อ ซึ่งเป็นอันเดียวกับของปู่ และเป็นอันเดียวกับของปู่ทวด ต่อเนื่องย้อนขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งหมายความว่า ถ้าสืบย้อนขึ้นไปมากพอ ผู้ชายทุกคนบนโลก จะมีเชื้อสายยาวอย่างไม่ขาดตอนขึ้นไปบรรจบกับผู้ชายคนหนึ่งที่เป็น “บรรพบุรุษ” โครโมโซม Y ของทุกคน!
สมมุติเล่นๆ ว่าเขาชื่อ อาดัม (Adam)
อาดัมเองก็ต้องได้โครโมโซม Y มาจากพ่อเขาเหมือนกัน ดังนั้นแปลว่า พ่อเขาก็ต้องถือว่าเป็นบรรพบุรุษยิ่งกว่า แล้วปู่ของเขาก็คือยิ่งกว่าไปอีกขั้น ฯลฯ แต่อาดัมมีความพิเศษตรงที่เป็นบรรพบุรุษลำดับสุดท้าย ที่มีชีวิตอยู่ใกล้เคียงกับเวลาปัจจุบันมากที่สุด
การสืบหา"บรรพบุรุษ” โครโมโซม Y Adam โดย Cruciani และคณะ ในปี 2011 เทียบกับ Karafet และคณะในปี 2008 ที่มา : Wikipedia
ภาษาอังกฤษเรียกว่า Most Recent Common Ancestor (MRCA) ซึ่งแปลตรงตัวเลยก็คือ บรรพบุรุษร่วมกันของทุกคน (common ancestor) ที่มีชีวิตอยู่ใกล้เคียงกับเวลาปัจจุบันมากที่สุด (most recent) และอาดัมเองมีชื่อทางวิชาการเรียกว่า Y-Chromosomal MRCA เนื่องจากเป็น MRCA “สายพ่อ” (patrilineal) ซึ่งมีโคตรเหง้าสืบต่อกันมาตามโครโมโซม Y
ถ้าลองนึกดูดีๆ ตอนที่อาดัมยังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องมีผู้ชายคนอื่นๆ อยู่บนโลกด้วยเหมือนกัน ที่อาจจะเป็นบรรพบุรุษของสายโลหิตสักสาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ สายโลหิตเหล่านี้ ไม่ได้อยู่รอดส่งต่อโครโมโซม Y มาได้ถึงปัจจุบันนั่นเอง
ที่มา : https://scitechdaily.com/the-male-y-chromosome-does-more-than-we-thought-could-explain-why-men-suffer-differently-from-covid-19/
อย่างไรก็ดี โครโมโซม Y ของคุณผู้อ่านที่เป็นผู้ชาย ก็ไม่ได้เหมือนกับของอาดัมเป๊ะๆ และไม่ได้เหมือนกับเพื่อนร่วมโลกคนอื่นๆ ที่เป็นผู้ชายเป๊ะๆ เนื่องจากว่า DNA ในโครโมโซมมีการเปลี่ยนแปลงได้นิดหน่อยจากปัจจัยหลายๆ อย่าง ที่เรียกรวมๆ ว่าการกลายพันธุ์
2
สมมุติว่าอาดัมมีบุตรเจ็ดคน บางคนอาจจะตัวเล็ก บางคนอาจจะตัวใหญ่ บางคนอาจจะมี Y เหมือนอาดัมเป๊ะๆ (สมมุติเล่นๆ ตั้งชื่อว่า นายสมชาย) บางคนอาจจะเกิดจากสเปิร์มอาดัมที่มี Y กลายพันธุ์ไปนิดหน่อย (สมมุติเล่นๆ ตั้งชื่อว่า นายสมศักดิ์) สมชายและสมศักดิ์ก็จะเป็นต้นสายคนละสายย่อย สมชายเป็นสายเหมือนเป๊ะ สมศักดิ์เป็นสายกลายพันธุ์ เป็นต้น
แล้วแต่ละสาย ก็มีลูกมีหลานแตกย่อยและกลายพันธุ์สุ่มๆ มาเรื่อยๆ จนมาถึงปัจจุบัน
ฉะนั้น ถ้านักวิทยาศาสตร์ไปสุ่มตัวอย่างประชากรผู้ชายทั่วโลกมาศึกษาโครโมโซม Y ก็จะสามารถจัดกลุ่มตามความคล้ายกันได้ กลุ่มนี้มีศัพท์วิชาการเรียกว่า haplogroup เวลาเปรียบเทียบสองกลุ่ม ถ้ากลุ่มไหนคล้ายกัน แปลว่ามีต้นสายที่เพิ่งแตกมาได้ไม่นาน แต่ถ้ากลุ่มไหนต่างกันมาก แปลว่าต้องย้อนต้นสายไปนานมากๆ
1
Haplogroup ของโครโมโซม Y กลุ่มต่างๆ ทั่วโลก ที่มา : https://www.didyouknowdna.com/ancestry/y-dna-haplogroup/
แน่นอนว่า นักวิทยาศาสตร์คงไม่สามารถไปเก็บตัวอย่างจากผู้ชายทุกคนมาได้ ดังนั้น ถ้าเกิดว่านักวิทยาศาสตร์บังเอิญไปเจอ haplogroup ที่ต่างกับทุกกลุ่มที่เคยมีอยู่ แปลว่านายอาดัมตัวจริงก็ต้องย้อนขึ้นไปอีก
เมื่อตอนก่อนปี ค.ศ. 2013 นักวิทยาศาสตร์ประมาณไว้ว่า นายอาดัมน่าจะมีชีวิตอยู่ราวๆ 140,000 ปีก่อน แต่วันดีคืนดี ญาติผู้หญิงของชายผิวดำชาวอเมริกันคนหนึ่งนาม Albert Perry ส่ง DNA เขาไปวิเคราะห์ดูโคตรเหง้า (ปัจจุบันมีหลายบริษัทให้บริการแบบนี้) แล้วก็พบว่า โครโมโซม Y ของเขาไม่เหมือน haplogroup ใดๆ ที่เคยค้นพบมาก่อน!
ที่มา : https://theconversation.com/albert-and-adam-rewrite-the-story-of-human-origins-15835
การค้นพบนี้แปลว่า Y ของ Perry สืบเชื้อสายมาจากสายแยกต่างหาก ที่ไม่เหมือนกับสายใดๆ บนโลก ดังนั้น บรรพบุรุษร่วมกันระหว่าง haplogroup ใหม่ที่ค้นพบ และ haplogroup อื่นๆ ที่ค้นพบมาแล้ว ต้องย้อนไปมากกว่า 140,000 ปี นักวิทยาศาสตร์จึงประมาณใหม่ว่า นายอาดัมตัวจริง มีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 270,000 ปีก่อน
สำหรับชายชาวไทย ส่วนใหญ่อยู่ใน haplogroup ที่ชื่อว่า haplogroup O ซึ่งเป็นของกลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่ๆ ที่กระจุกในโซนเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าใครสนใจอยากอ่านรายละเอียดกลุ่มย่อยมากขึ้น ขอแนะนำให้ติดตามจากงานวิจัยของ อ. วิภู กุตะนันท์ แห่งมหาวิทยาลัยขอนแก่น
ความหนาแน่นของประชากรเพศชายที่มี Haplogroup O ที่มา : Wikipedia
สำหรับ MRCA “สายแม่” (matrilineal) สามารถติดตามได้ในตอนต่อไป
อ้างอิง
โฆษณา