ไม่เห็นด้วยเลยกับการประกาศไม่รับเข้าทำงานหากไม่เข้ารับปริญญาเพราะเป็นเรื่องที่ละเมิสิทธิ
ที่มา ประชาไท Prachatai.com |
ก็ยังเป็นประเด็นอย่างต่อเนื่องกรณีการต่อต้านไม่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ของนักศึกษากลุ่มหนึ่งของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และก็ยังมีการร่วมสนับสนุนความคิดนี้จากบุคคลกลุ่มอื่นๆอีก
“ยุคใหม่ฯ” เคยนำเสนอเรื่องการไม่เข้ารับพระราชทานปริญญาว่า ถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมของบุคคลนั้นๆ เขาอาจจะติดขัดอะไรบางอย่าง เช่น ต้องเดินทางในวันนั้น ไม่สะดวก ค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอ รวมถึงไม่เต็มใจที่จะเข้าร่วม ด้วยเหตุผลว่าเป็นเรื่องของศักดินา เป็นต้น
ในส่วนของการเห็นว่าการร่วมพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรว่าเป็นเรื่องของศักดินา ต้องขอบอกว่าเป็นเรื่องจริง เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องการการยอมรับ การที่คน ๆ นั้นต้องการมีฐานะความเป็นอยู่เหนือความคนส่วนมากก็ไม่ใช่เรื่องแปลก สังคมไหน ๆก็มี ใคร ๆ ก็อยากจะเป็น
ที่มา ประวัติศาสตร์โลก
แม้แต่ประเทศที่เหล่านักศึกษาเหล่านี้ยกย่องก็มีเรื่องของศักดินาทั้งนั้น เรื่องนี้หากจะเอามาพูดถือว่าเป็นข้ออ้างที่ไร้สาระหาแก่นสารไม่ได้เลย นอกจากจะเอามาเป็นสาเหตุของการลุกขึ้นต่อต้าน บอกได้เลยว่าไม่มีน้ำหนักหรอกเรื่องนี้ เพราะเป็นการฝืนกฎธรรมชาติ แม้แต่ลิงยังต้องมีจ่าฝูงคอยดูแล และจ่าฝูงก็สามารถเลือกอะไรได้ก่อน อันนี้ก็ถือว่าเป็นศักดินาด้วยนะ ทำไมไม่ไปห้ามหล่ะ
การไม่เขารับปริญญาจะด้วยสาเหตุอะไรก็เป็นสิทธิของคน ๆ นั้นอยู่แล้ว ไม่เคยมีการห้ามมาก่อนเลยตั้งแต่เริ่มมีพิธีนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย แล้วทำไมจู่ ๆนักศึกษากลุ่มนี้นำเรื่องนี้มาเป็นเหตุผลในการลุกขึ้นต่อต้าน ยิ่งเฉพาะเรื่องศักดินายิ่งไร้สาระใหญ่ ไม่ต่างกับการออกมาต่อต้านให้โลกหยุดหมุน เพราะละเมิดสิทธิตนเองที่อยากจะมีช่วงเวลากลางวันเท่านั้น
บอกตรง ๆว่ามองดีไม่ออกเลยกับเจตนาของเรื่องนี้ แค่เพียงไม่เห็นด้วยไม่เข้าร่วมพิธี ไม่เห็นต้องออกมาพีโพยตีพายหรือเรียกร้องหรือละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น ที่สำคัญความเชื่อของใครของมันเราไม่มีสิทธิไปเปลี่ยนใครได้ เพราะใครก็ไม่สามารถมาเปลี่ยนเราได้เช่นกัน
ที่มา LINE TODAY
ลองนึกดูว่าครอบครัวที่อยู่ห่างไกล ที่มีลูกชายหรือลูกสาวสามารถสอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ เขาเหล่านั้นต่างรอคอยเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของลูกหลานเขา ด้วยความเชื่อของเขาที่เคารพเชื้อพระวงศ์ ซี่งอาจจะเป็นครั้งเดียวในชีวิตของคนบางคน แล้ววันหนึ่งนักศึกษากลุ่มนี้ทำให้คนกลุ่มนี้ไม่ได้ร่วมกิจกรรมอย่างที่ตั้งใจไว้ ถือเป็นความสำเร็จหรือเป็นตราบาปกันแน่
การมีประกาศห้ามรับนักศึกษาที่ไม่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร “ยุคใหม่ฯ” ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่ใช่เป็นการย้อนแย้งแน่นอน เพราะที่ไม่เห็นด้วยเนื่องมาจากเป็นการละเมิดสิทธิของที่ผู้ที่ไม่เข้าร่วมกิจกรรมนี้
ที่จริงแล้วไม่มีความจำเป็นเลยว่าต้องประกาศหรือให้ข่าว หากว่าผู้ที่ไม่เห็นด้วยออกมาประท้วงหรือละเมิดสิทธิผู้อื่นไม่ให้เข้าร่วมพิธีอย่างตนเอง คนไม่เห็นด้วยคือคนผิดคือคนชั่วร้าย คนที่ยอมถูกกดขี่ข่มเหง โดยไม่สนใจเหตุผลผู้อื่น
หากคนเหล่านี้ยังไม่เปลี่ยนวิธีคิด ยังไงการสัมภาษณ์ก็ไม่ผ่านอยู่แล้ว เพราะผู้สัมภาษณ์จะรู้ได้เองว่า คน ๆ นี้เป็นคนที่ไม่สนใจไม่รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ไม่รับฟังใคร ข้าถูกเสมอคนอื่นผิดตลอด ด้วยชุดภาษาที่เขาพูดออกมา เพราะรูปแบบการใช้ภาษาจะออกมาเป็นการกล่าวโทษผู้อื่น กล่าวโทษสังคม กล่าวโทษครูบาอาจารย์ หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ รวมความง่าย ๆ ก็คือ “ข้าคือศูนย์กลางของจักรวาล” นั่นเอง
เท่านี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องรับเข้าทำงานอยู่แล้ว เพราะบริษัทเอกชนหรือแม้แต่หน่วยงานของราชการ เขามีสิทธิ์เลือกคนเข้าทำงาน เลือกคนที่จะมาช่วยให้งานให้ดีขึ้น ไม่ใช่มาสร้างความแตกแยก
ที่มา คิดเป็นชีวิตเปลี่ยน | Facebook
คนกลุ่มนี้เขาก็มีสิทธิเลือกเหมือนกันว่าจะเข้าทำงานองค์กรไหน แต่จากประสบการณ์ทำงานมานานกว่าอายุของนักศึกษากลุ่มนี้ มั่นใจได้เลยว่าแม้หน่วยงานที่ให้สนับสนุนเขาอยู่ในขณะนี้ก็ไม่อยากรับเข้าทำงานหรอก ใครจะไปหาเรื่องใส่ตัว รับคนที่ไม่สนใจความรู้สึกผู้อื่น ไม่ฟังเหตุผลของผู้อื่น ใครไม่เห็นด้วยคือคนผิด
ทุกคนมีสิทธิคิดต่างนะครับ แต่ทุกคนไม่มีสิทธิละเมิดความคิดหรือวิธีคิดของใคร
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
