📈 อีกหนึ่งวิธีในการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนไปตามเทรนด์การเติบโตของสินทรัพย์ Digital และเทคโนโลยี Blockchain ทั่วโลกได้ โดยไม่ต้องถือเหรียญดิจิทัลโดยตรง !
กองทุน ASP-DIGIBLOC ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน Asset Plus (ที่จะเปิด IPO วันที่ 18-26 มกราคมนี้) จะช่วยให้นักลงทุนไทยสามารถเข้าไปลงทุนในกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ Digital และเทคโนโลยี Blockchain มากมายได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนั้นทาง Asset Plus ยังได้เปิดกองทุนที่เป็น RMF และ SSF เพื่อให้นักลงทุนสามารถลงทุนระยะยาวและ "ลดหย่อนภาษี" ไปได้ด้วยในเวลาเดียวกันได้อีกด้วย ! ทำให้เหมาะสมกับนักลงทุนที่เชื่อมั่นใน Megatrend ระยะยาวของสินทรัพย์ Digital และเทคโนโลยี Blockchain อย่างยิ่ง
-------------------------
📌 ความเห็นส่วนตัวของแอดนั้นมองว่ากองทุน ASP-DIGIBLOC มีความน่าสนใจมากมายดังนี้
1️⃣ การลงทุนในกองทุน ASP-DIGIBLOC นั้น เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ Digital ที่ช่วยการกระจายความเสี่ยงออกจากการถือเหรียญคริปโตฯ สกุลต่างๆโดยตรงได้ และช่วยลดความผันผวนของพอร์ตลงทุน
เพราะอย่างที่เห็นกันมาในอดีตว่าราคาเหรียญคริปโตฯ บางเหรียญอาจมีความผันผวนที่สูงมาก แต่การลงทุนในกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ Digital และเทคโนโลยี Blockchain นั้น จะเป็นการลงทุนในผลประกอบการณ์โดยรวมของกลุ่มธุรกิจนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาเหรียญคริปโตสกุลใดสกุลหนึ่ง จึงถือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดีอีกทางนึง
2️⃣ การซื้อหุ้นหรือเป็นเจ้าของบริษัทที่ทำธุรกิจด้านสินทรัพย์ Digital และเทคโนโลยี Blockchain อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าสำหรับนักลงทุนที่ยังไม่คุ้นชินในการถือสินทรัพย์ Digital โดยตรง
เพราะนักลงทุนไม่จำเป็นต้องเก็บสินทรัพย์ Digital ด้วยตัวเองให้ยุ่งยาก แต่ยังสามารถสร้างผลตอบแทนไปตามการเติบโตของบริษัทในกลุ่มธุรกิจนี้ได้ผ่านการเป็นเจ้าของธุรกิจ
3️⃣ บริษัทที่กองทุน ASP-DIGIBLOC เลือกที่จะลงทุนนั้น เป็นบริษัทใหญ่ระดับโลกที่ถูกคัดสรรมาอย่างดีแล้ว
ทำให้นักลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกหลอกลวงไปลงทุนในโปรเจคสินทรัพย์ Digital ที่เชื่อถือไม่ได้ หรือในโปรเจคสินทรัพย์ Digital ที่้อาจเกิดการถูก Rug Pull และมีการหลอกเอาเงินลงทุนหนีไปตามที่อาจได้ยินในข่าวกัน
4️⃣ ราคาสินทรัพย์ Digital อาจมีความผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวหากธุรกิจมีการเติบโตไปตาม Megatrend ก็จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้
การลงทุนในกองทุน RMF และ SSF นอกจากจะสามารถลดหย่อนภาษีได้แล้ว ยังเป็นการสนับสนุนให้นักลงทุนเน้นการลงทุนระยะยาวมากกว่าการเก็งกำไรระยะสั้นอีกด้วย ถึงว่าได้ประโยชน์ x2 ไปในตัว
📌 กองทุน ASP-DIGIBLOC นี้จะแบ่งการลงทุนออกเป็น 2 สัดส่วน
1️⃣ สัดส่วน 75% ของกองทุนนั้นจะลงทุนใน VanEck Digital Transformation ETF
VanEck Digital Transformation ETF คือกองทุน ETF ระดับโลกที่เน้นการลงทุนในกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ Digital และเทคโนโลยี Blockchain โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้าน Payment Gateways, Hardware, Software, Miners, Exchanges และอื่นๆอีกมากมาย และมีการบริหารจัดการสัดส่วนการลงทุนโดยผู้จัดการกองทุนระดับโลก
2️⃣ ในสัดส่วนอีก 25% ของกองทุนนั้น ทางทีมผู้จัดการกองทุนของ Asset Plus จะนำไปลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain และ Digital Asset โดยตรงเพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมอีก
[สัดส่วนการลงทุนดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้โดยขึ้นอยู่กับสภาวะการลงทุน ณ ขณะนั้น และ/หรือ
ดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน]
📌 ทำให้การลงทุนในกองทุน ASP-DIGIBLOC กองเดียวนี้ ผู้ลงทุนจะได้ลงทุนและเป็นเจ้าของในธุรกิจชื่อดังมากมายเหล่านี้
1️⃣ MicroStrategy - บริษัท Software ของ Michael Saylor ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น "King of Bitcoin"
ที่ปัจจุบันเป็นบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐที่ถือครอง Bitcoin อยู่มากที่สุดในโลกที่ 124,391 BTC หรือนับเป็นมูลค่ารวมกว่า 2 แสนล้านบาทเลยทีเดียว และทางบริษัทก็ประกาศชัดเจนว่าจะทยอยซื้อ Bitcoin เก็บแทนเงินสดที่ได้กำไรจากธุรกิจ Software ของบริษัทไปอย่างต่อเนื่อง
2️⃣ Coinbase – บริษัทกระดานซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล (ที่อยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐ) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หากเปรียบเทียบปริมาณซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลรายวันนั้น ทาง Coinbase มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก เป็นรองเพียง Binance (ที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหุ้น) เท่านั้น
บริษัท Coinbase เป็นหนึ่งในบริษัทที่ Cathie Wood ผู้ก่อตั้ง ARK Invest เชื่อมั่นว่าจะเป็นบริษัทที่สามารถทำกำไรจากการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิทัลได้มากที่สุดรายนึง และกองทุนหลักของ ARK ก็ถือหุ้น Coinbase เป็นอันดับ Top5 ของกองมาโดยตลอด
3️⃣ Block (Square) - เป็นบริษัทให้บริการด้านการเงินของ Jack Dorsey ที่เขาเพิ่งตัดสินใจลาออกจากการเป็น CEO ของ Twitter เพื่อที่จะได้สามารถมานั่งเป็น CEO ของบริษัท Block นี้ได้อย่างเต็มตัว
Jack Dorsey นั้นเป็นผู้ที่เชื่อมั่นในอนาคตของสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยี Blockchain เป็นอย่างมาก และเขาก็ตั้งใจที่จะใช้บริษัท Block นี้เป็นบริษัทที่จะเก็บเกี่ยวกำไรจากการเติบโตของธุรกิจเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด เพียงไม่กี่วันหลังจากที่ Jack Dorsey มาคุมบริษัท Square เต็มตัว เขาก็ได้สั่งรีแบรนด์ชื่อบริษัทเป็น Block ทันที เพื่อแสดงความตั้งใจว่าทางบริษัทจะเข้ามาโฟกัสด้านเทคโนโลยี Blockchain ให้มากขึ้นเพื่อขยายขอบเขตการให้บริการด้านการเงิน และจะไม่ได้เป็นแค่ผู้ให้บริการด้านการเงินดั้งเดิมเพียงอย่างเดียว (คล้ายกับที่ Facebook รีแบรนด์เป็น Meta)
4️⃣ Nvidia - บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ราคาพุ่งขึ้น +150% ในปี 2021 หรือให้ผลตอบแทนมากกว่าราคา Bitcoin ถึงเกือบ 5 เท่าในปีที่ผ่านมา !
Nvidia เป็นบริษัทที่มีความสำคัญมากต่อวงการคริปโต เพราะได้ชื่อว่าเป็นบริษัทผู้ผลิตการ์ดจอสำหรับขุดสกุลเงินดิจิทัลที่ดีที่สุดในโลก หากเทรนด์การเติบโตของสกุลเงินดิจิทัลยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง บริษัท Nvidia ก็พร้อมที่จะทำกำไรจากการรองรับการเติบโตนี้อย่างแน่นอน
5️⃣ กลุ่มบริษัท Mining หรือเหมืองขุดสกุลเงินดิจิทัลระดับโลกอย่าง Marathon Digital , Riot Blockchain, Hive Blockchain และอื่นๆอีกมากมาย
ทำไมปู่ Warren Buffett นักลงทุนระดับตำนานของโลกผู้ไม่ชอบถือทองคำ แต่เขากลับลงทุนในบริษัทเหมืองทอง ?
เพราะการลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดทองนั้นสามารถสร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่องได้ ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการลงทุนในเหมืองขุดสกุลเงินดิจิทัล ที่จะช่วยมากระจายความเสี่ยงให้นักลงทุนจากการถือสกุลเงินดิจิทัลเพียงอย่างเดียว มาสร้างกระแสเงินสดจากธุรกิจการขุดเหมืองที่จะเติบโตไปพร้อมกับขนาดของตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก
และนี่ก็เป็นเพียงตัวอย่างของบริษัทหลักๆที่กองทุน ASP-DIGIBLOC นี้ จะเข้าไปลงทุน
-------------------------
📌 สรุปแล้ว - การลงทุนในกองทุน ASP-DIGIBLOC นั้นจะทำให้นักลงทุนไทยสามารถออกไปลงทุนในกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ Digital และเทคโนโลยี Blockchain ในบริษัทชั้นนำระดับโลกได้อย่างครบเครื่องได้ในที่เดียว โดยไม่ต้องเหนื่อยในการพยายามกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปในแต่ละประเภทธุรกิจด้วยตัวเอง
📊 นักลงทุนที่สนใจลงทุนกองทุนเปิดที่น่าสนใจอย่างแอสเซทพลัส ดิจิทัล บล็อกเชน (ASP-DIGIBLOC) สามารถเปิดบัญชีออนไลน์ได้ที่ Application ASP FUND หรือ Asset Customer Care
โทร. 02-672-1111 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง www.assetfund.co.th
🙏 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share เพื่อให้นักลงทุนท่านอื่นได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เหล่านี้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ 👍😊
#ทันโลกกับTraderKP
ที่มา: www.assetfund.co.th
ผู้ลงทุน "โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุน SSF RMF ก่อนตัดสินใจลงทุน"
ตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด ทั้งนี้ หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับ พร้อมชำระเงินเพิ่มและเบี้ยปรับตามที่ระบุในประมวลรัษฎากร
กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม Information Technology จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
กองทุน มีนโยบายป้องกันความเสี่ยง จากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุน อาจขาดทุน หรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืน ต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
เนื่องจากกองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารทุนของบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัล ที่มีความผันผวนของราคาสูง โดยอาจปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหรือลดลงจนต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนเริ่มต้น และอาจทำให้ขาดทุนได้
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
