19 ม.ค. 2022 เวลา 03:25 • ความคิดเห็น
บทสรุปข้อเดียวจากหนังสือคิดแล้วรวย Think and Grow Rich
วันนี้ปุ๋ยอยากเสนอบทสรุปจากหนังสือเล่มหนึ่งที่ได้รับการกล่าวขานและแนะนำจากเหล่าบรรดานักเขียน นักพูดสร้างแรงบันดาลใจและผู้ประสบความสำเร็จทั้งหลาย ได้แก่ ลุงบ๊อบ พรอคเตอร์ (Bob Proctor), โทนี่ ร็อบบินส์ (Tony Robbins) , โรเบิร์ต คิโยซากิ (Robert Kiyosaki) หรือแม้แต่อาจารย์ที่มีชื่อเสียงในไทยอย่าง อาจารย์บัณฑิต อึ้งรังษี ได้กล่าวไว้ว่า หากใครอยากประสบความสำเร็จก็ไม่ควรพลาดหนังสือเล่มนี้เป็นอันขาด
หนังสือที่ว่านี้คือ หนังสือคิดแล้วรวย (Think and Grow Rich) เขียนโดยท่านนโปเลียน ฮิลล์ ผู้ได้รับยกย่องให้เป็นบิดาแห่งวรรณกรรมสร้างแรงจูงใจ โดยใช้เวลาเขียนอยู่ประมาณ 30 ปี เหตุที่ใช้เวลานานก็เป็นเพราะว่าท่านผู้เขียนต้องสัมภาษณ์ผู้ที่ประสบความสำเร็จหรือคนรวยในยุคนั้น มากกว่า 500 คน แล้วเรียบเรียงเป็นหนังสือที่เป็นแบบอย่างหรือแนวทางให้กับผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จ ตัวอย่างบุคคลที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือเล่มนี้ ได้แก่ แอนดรูว์ คาร์เนกี้ , เฮนรี่ ฟอร์ด และโทมัส เอดิสัน เป็นต้น
ท่านนโปเลียน ฮิลล์ ผู้แต่งหนังสือคิดแล้วรวย
แต่ละคนที่ได้อ่านหรือได้ยินเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ ย่อมมีความคิดเห็นหรือมุมมองที่แตกต่างกัน ส่วนตัวปุ๋ยเองขอสรุปออกมาเพียงข้อเดียวที่ได้ว่า “ตัวแปรสำคัญของความสำเร็จคือความคิด”
ความคิดของคนเราจะมีด้วยกัน 2 ส่วน คือ ความคิดที่เรียกว่า “จิตสำนึก” และ “จิตใต้สำนึก” ส่วนที่มีผลต่อความสำเร็จมากที่สุดคือความคิดที่อยู่ใน “จิตใต้สำนึก”
แล้ว 2 ส่วนนี้ต่างกันอย่างไร ?
จิตสำนึก คือความคิดที่เกิดจากกระบวนการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง และกายสัมผัส รวมไปถึงสติปัญญา ความจำ เหตุผล สัญชาตญาณก็อยู่ในส่วนนี้
จิตใต้สำนึก คือส่วนที่รับรู้ผ่านทางความนึกคิดและความรู้สึกเท่านั้น
เราสามารถใช้ประโยชน์จากจิตใต้สำนึกและตั้งโปรแกรมเพื่อให้จิตใต้สำนึกทำงานให้ตรงกับเป้าหมายของเราได้
โดยธรรมชาติ การตั้งโปรแกรมจิตใต้สำนึกไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ โดยหนังสือคิดแล้วรวย ได้รวบรวมความเข้าใจในการตั้งโปรแกรมไว้ให้ศึกษาทั้งหมดแล้ว
ก่อนจะเรียนรู้วิธีตั้งโปรแกรม เรามาทำความเข้าใจการทำงานของจิตใต้สำนึกกันก่อน
โดยปุ๋ยขอแบ่งออกเป็น 3 ข้อหลักๆ ดังนี้
1. จิตใต้สำนึกมีพลังและอิทธิพลต่อเป้าหมายของเรามากกว่าจิตสำนึก แต่มันก็ถูกควบคุมโดยจิตสำนึกอยู่ดี ถ้าเปรียบเทียบง่ายๆ คือ จิตใต้สำนึกเปรียบเสมือนพื้นที่โล่งๆหรือสวน ส่วนจิตสำนึกก็เปรียบเสมือนชาวสวนนั้นเอง ไม่ว่าเราจะปลูกอะไรลงไปเราก็จะได้อย่างนั้น ถ้าเราดูแลสวนดีๆ ด้วยการรดน้ำ พรวนดินอยู่เสมอ จิตใต้สำนึกก็จะให้ผลผลิตททางความคิดที่ดีเช่นกัน
จิตใต้สำนึกถูกควบคุมโดยจิตสำนึก
2. เราต้องเข้าใจว่า จิตใต้สำนึกทำงานได้ผลเสมอ และคนส่วนมากมักจะทำให้มันมีผลตรงข้ามกับความต้องการ นั่นก็เป็นเพราะว่า ความคิดและความรู้สึกที่เรามีต่อสถานการณ์ต่างๆ มันขัดแย้งกับสิ่งที่เราต้องการมันจริงๆ เช่น คิดแต่สิ่งที่ไม่ชอบ พูดแต่สิ่งที่ไม่ดี มันก็จะดึงดูดสิ่งนั้นที่เราไม่ต้องการแต่เรากลับป้อนมันเข้าไปในจิตใต้สำนึก
หากเราไม่วางแผนในการใส่ความคิดหรือความรู้สึกให้กับจิตใต้สำนึก มันก็จะทำงานแบบไม่มีจุดมุ่งหมาย เรื่อยเปื่อย ไร้ประโยชน์
3. รู้ไว้ว่า จิตใต้สำนึกไม่สามารถแยกแยะถูกหรือผิด ดีหรือร้าย บวกหรือลบ มันจะทำงานตามความคิดและความรู้สึกของเราเสมอ ไม่ว่าสิ่งนั้นเราจะต้องการมันหรือไม่ มันจะตอบสนองแบบอัตโนมัติ เพราะฉะนั้น ฝึกควบคุมจิตใต้สำนึกเพื่อให้มันทำงานตอบสนองต่อเป้าหมายที่เราต้องการเท่านั้น คิดเฉพาะสิ่งที่เราอยากได้หรืออยากเป็นให้มากที่สุด
จิตสำนึกเลือกข้อมูลที่จะใส่ในหัวได้ แต่จิตใต้สำนึกเลือกไม่ได้
ไว้ครั้งหน้าปุ๋ยจะมาเล่าวิธีการตั้งโปรแกรมจิตใต้สำนึก ตามคำแนะนำในหนังสือคิดแล้วรวย ฝากเพื่อนๆติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
“มีแต่คนซึ่งรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรในชีวิตเท่านั้นที่จะสามารถไขว่คว้าสิ่งที่ต้องการได้” นโปเลียน ฮิลล์
โฆษณา