20 ม.ค. 2022 เวลา 13:13 • หนังสือ
เพราะการมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งที่ควรขอบคุณที่สุด
คำโปรยจากหนังสือที่เป็นเข็มทิศชีวิต
ที่มีชื่อว่า 'จงอย่าใช้ชีวิตวันนี้ด้วยความรู้สึกของเมื่อวาน'
1
หนังสือเล่มนี้บอกเล่าถึง
ชีวิตหลังเกษียณของคุณอีกึนฮู
จิตแพทย์ที่ทำงานมากว่า 50 ปี
มีคำถามมากมายเกี่ยวกับคำว่า ‘อายุมากขึ้นแล้วดีอย่างไร’
และมีความกังวลในชีวิจมากมายที่ถูกถาม
แม้เกษียณแล้ว แต่ยังมีคนเชิญชวนคุณหมอไปทำงานด้วย
แต่คุณหมอกลับเลือกทำสิ่งที่ ‘สนุก’ และ ‘อยากทำ’ เท่านั้น
ทั้งการเรียนจบปริญญาเพิ่มอีกใบตอนอายุ 76
มีข้อคิดมากมายภายในเล่ม
ถูกเรียบเรียงและนำมาสู่ชื่อหนังสือที่มีชื่อว่า
‘จงอย่าใช้ชีวิตวันนี้ด้วยความรู้สึกของเมื่อวาน’
1
ซึ่งผมสรุปข้อคิดได้ดังนี้ครับ
โดยเล่มนี้จะแบ่งออกเป็น 5 พาร์ท ได้ข้อคิดแต่ละพาร์ทดังนี้
Chapter 1: อยากมีชีวิตสนุกจนวันสุดท้าย
> ความเหงาไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพียงเราไปหา
ส่งข้อความ โทรไปหาคนที่คิดถึง
มนุษย์เราแค่ได้ยินเสียง ก็ช่วยปลอบโยนหัวใจได้มากแล้ว
3
> การเป็นผู้ใหญ่คือการที่เรามีวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ ที่กำลังเผชิญอยู่
เรียนรู้รอบด้านและใช้วิธีที่เหมาะสม
1
> ลงมือทำ เชื่อมั่นว่าเราจะประสบความสำเร็จ
แล้วชีวิตจะนำเราไปสู่เส้นทางที่เราปรารถนาอย่างช้าๆ
1
> การมีชีวิตอยู่สมวัย คือ
การที่มีสุขภาพจิตที่ดี มีความคิดที่สนุกและปรับความคิดให้สมดุล
1
Chapter 2: อย่าเป็นแบบนี้เมื่ออายุเยอะขึ้น
> เมื่อมีสัญญาณของการเสื่อมถอยของร่างกาย
หากเราใช้เวลาทุ่มกับการดูแลตนเองให้อ่อนวัยมากไป
อาจจะส่งผลเสียกับชีวิตในแง่อื่นๆได้
1
> การพึ่งพาลูกไม่ใช่การฝากและตาดหวังทุกอย่างไว้กับลูก
แต่คือการยกย่องและไว้ใจครับ
1
> ไม่ว่ายุดสมัยใด หนุ่มสาวล้วนเผชิญหน้ากับประสบการณ์การยากลำบากมากันทั้งนั้น
> ยุคสมัยมีการเปลี่ยนแปลง ยิ่งเราอายุมากขึ้น
ยิ่งต้องปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลง
ไม่ใช่ดื้อดึงว่าประสบการณ์และความทรงจำของเรานั้นยังถูกต้องอยู่
2
> จงอย่าใช้ชีวิตด้วยความรู้สึกของเมื่อวาน
ให้ถามว่า วันนี้เราจะทำอะไรที่สำคัญมากในวันนั้นดี
4
Chapter 3: สิ่งที่ควรรู้ตอนอายุ 40
> มนุษย์เรามักเสียดายในสิ่งที่ไม่ได้ทำ มากกว่าทำพลาด
แต่เมื่อไม่ได้ทำก็ไม่เป็นไร
เพราะเราล้วนได้ใช้ชีวิตมาในแบบที่ตัวเองต้องการ
1
> ถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นใคร เก่งอะไร
ก็ไม่จำเป็นต้องไปแข่ง ไปเปรียบเทียบกับใคร
> หากหยุดคววามคิดเรื่อแข่งขันกับผู้อื่นลงได้
สิ่งที่เราได้มา คือเพื่อนร่วมทางที่ต่างทำงานด้วยแนวคิดของตนเอง
และคอยส่งมอบความรู้สึกดีให้แก่กัน
3
> กระดุมเม็ดแรกในการออกจากความเศร้า คือการยอมรับว่าเศร้าอยู่
2
> สิ่งที่จิตแพทย์ทำได้คือ ให้แรงจูงใจในพ้นจากการซึมเศร้า
แต่คนไข้จะลุกขึ้นหรือไม่ คือกับความตั้งใจของคนไข้คนนั้นด้วย
1
Chapter 4: เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร
> การแก้ปัญหาภายในครอบครัวไม่ควรหลบเลี่ยง
มีเพียงการหันหน้าคุยทีละนิด จึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ทีละนิดๆได้
1
> จงเพลิดเพลินที่จะค้นพบความสนุกในความแตกต่างของช่วงวัย
บางที เจะได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆที่เราไม่เคยรู้ได้ด้วยครับ
3
> วิธีสร้างชีวิตให้มีค่าเพิ่มขึ้น คือ
การเรียนรู้สิ่งใดมา และเราเรียนรู้ที่จะแบ่งปันสิ่งนั้นไปให้ผู้อื่น
2
Chapter 5: สำหรับคุณผู้ยืนอยู่ในจุดออกตัวใหม่ของชีวิต
> ทุกช่วงเวลาของชีวิตเป็นเวลาทอง และเป็นช่วงที่มีความสุขที่สุด
เมื่อเราจริงใจต่อทุกสิ่งที่เราทำ หาความสนุกกับสิ่ที่เราทำไปตลอด
1
> ใช้ความสามารถและความสนใจทำงานสิ่งใหม่ๆออกมา
ตัดความคิดที่จะทำได้ดีด้วยตนเอง
อาจจะลองขอความช่วยเหลือจากคนอื่นบ้าง
3
> หากอยากทำอะไร ให้หาเวลาแล้วทำเลย ไม่ต้องรอ
> ความขัดแย้งระหว่างคู่รัก เวลาและความอดทนแก้ไขอะไรไม่ได้
มีแต่ต้องช่วยลงมือแก้ปัญหามันด้วยตนเอง
1
> เรา ‘เปลี่ยนไป’ และ ‘เปลี่ยนแปลง’ ตามช่วงเวลาของชีวิต
การค้นหา ‘ประโยชน์’ ของตนเองซึ่งเปลี่ยนไปตามกาลเวลาจะเป็นการใช้ชีวิตได้สมวัย
2
อีกึนฮู ผู้เขียน
วิทิยา จันทร์พันธ์ แปล
ความคิดเห็นหลังอ่าน
เล่มนี้บอกเล่าชีวิตหลังเกษียณได้ดีเลยครับ
ตั้งแต่การไม่หยุดอยู่เฉยๆ การเลือกทำสิ่งที่รัก
การเลี้ยงลูก การทำงานอาสา การเป็นอาจารย์และกลับมาเป็นลูกศิษย์อีกครั้ง
ได้ข้อคิดดีๆแปลกใหม่มากมายครับ ด้วยความที่ผู้เขียนเป็นจิตแพทย์อยู่แล้ว
แถมเป็นคนบุกเบิกจิตแพทย์ในเกาหลีในขณะนั้นด้วย
ใครได้อ่านเล่มนี้ได้มุมมองการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น ได้มุมมองใหม่ๆในการดำรงชีวิตครับ
เล่มนี้จะเน้นไปในแนว บอกเล่าประสบการณ์ชีวิตของผู้ใหญ่ที่ผ่านมาก่อน
อ่านแล้วมีขิ้คิดดีๆไปปรับใช้ในชีวิตเลยครับ
ใครคิดเห็นอย่างไรบอกกันได้ครับ
ขอบคุณสำหรับการรับชมครับ
โฆษณา