21 ม.ค. 2022 เวลา 01:11 • ท่องเที่ยว
อเมซซิ่งภูลมโล .. ในวันที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่ง
ฉันเชื่อว่า "ชีวิต" มักจะมีที่ทางและคำตอบของมันเสมอ ... และเชื่อเสมอว่า "การเดินทาง" คือการได้เปิดโลกทัศน์ เปิดทัศนคติใหม่ๆสำหรับผู้คน วัฒนธรรม และธรรมชาติรอบๆตัว ที่เราอาจจะไม่เคยได้รับรู้ ได้สัมผัส
ป่าเหนือ และลมหนาว … ช่างยั่วเย้าให้หัวใจใครต่อใครในยามนี้ที่รู้สึก “อยากหนาว อยากหนาว อยากใส่เสื้อกันหนาว” … และเพียงคลื่นความกดอากาศสูงจากแผ่นดินใหญ่แผ่มาปกคลุมบางๆถึงเจ้าพระยา ก็ทำให้ละห้อยหา คะนึงถึงสายลมหนาวบนภูเขาสูง จนอยากไปเอนกายในอ้อมกอดของ “เขา” เลยทีเดียว
ฉันเคยไปเยือน "อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า" มาแล้ว แต่ก็ว่างเว้นไปนาน ... ในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมามีโอกาสกลับไปเยือนอุทยานแห่งนี้อีกครั้ง หลังจากที่เพื่อนหลายคนโชว์ภาพถ่ายของภูเขาที่เต็มไปด้วยดอกไม้สีชมพูที่บานสะพรั่งไปทั้งเวิ้งหุบเขา ดูน่าประทับใจให้ดู
“ภูลมโล” .. เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่บนรอยต่อของ 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย สำหรับส่วนที่ตั้งอยู่ที่อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1664 เมตร อยู่ในเขตอุทยานภูหินร่องกล้า ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวในเวลานี้ ด้วยเป็นจุดชม “ดอกนางพญาเสือโคร่ง” ที่ผลิบานแบบเก๋ๆและเยอะที่สุดในประเทศไทย และมีมากมายหลายหมื่นต้น บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่
นางพญาเสือโคร่ง ปกติจะออกดอกบานสะพรั่งบนภูเขาที่มีความสูงมากกว่าหนึ่งพันห้าร้อยเมตรขึ้นไป การไปชมต้องขับรถขึ้นไปบนภูเขา ..
ระยะทางจากจุดเริ่มต้นในอุทยาน จนถึงจุดสูงสุดของภูลมโลค่อนข้างจะไกล .. จากถนนลาดยางในช่วงแรกๆ ผ่านป่าไม้เป็นระยะทางราว 8 กม. จากนั้นก็เปิดภาพแห่งความยากลำบาก … ถนนดินแดงระยะราว 7 กม.ที่เพิ่งผ่านฤดูฝนมาได้ไม่นาน และไม่มีงบในการเกรดทาง ส่งผลให้การโขยกเขยกรถเล็กๆของเราเป็นไปด้วยความยากลำบาก … ทางยาก คดโค้ง และขุนเขา เหล่านี้คือสิ่งที่วนเวียนในทุกรอยล้อ
การเดินทางที่ไม่สะดวกสบายเหมือนการท่องเที่ยวทั่วไป รวมถึงสภาพของถนนที่ไม่สมบูรณ์แบบ .. ทำให้ปัจจุบัน อช.ภูหินร่องกล้าได้ออกประกาศจัดระเบียบ ห้ามนักท่องเที่ยวนำรถส่วนตัวขึ้นไปภูลมโล เพื่อความเป็นระเบียบ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยให้ไปใช้บริการรถยนตร์ของทางชมรมท่องเที่ยวแทน
เราใช้บริการของรถท่องเที่ยวที่ออกจากสถานีในบริเวณอุทยานตั้งแต่ตีห้า โดยตั้งหมุดหมายว่าจะไปเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้นและแสงแรกของวัน ณ จุดสูงสุดของยอดภูลมโลเป็นอันดับแรก พร้อมเก็บภาพหุบเขาสีชมพูในมุมสูงในโอกาสเดียวกัน
ขณะที่รถแล่นสู่ถนนทางเข้า .. เราเริ่มเห็นแนวของต้นพญาเสือโคร่งตั้งแต่แรก ไปจนถึงลานจอดรถบนภูเขา
… เรามาถึงจุดหมายก่อนที่ดวงอาทิตย์จะแย้มกายออกมา สภาพอากาศบนสันดอยจะค่อนข้างหนาวเย็น แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่บริสุทธิ์ งดงาม และเรามีเวลาเพียงพอที่จะชื่นชมทุกสิ่งรอบตัว รวมถึงมองหามุมในการเก็บภาพ
.. เบื้องหน้าของเรา .. ลึกเข้าไปในพื้นที่ระหว่างภูเขาเขียวครึ้มสูงตระหง่านในยามเช้า มีม่านหมอกสีฟ้าน้ำเงินห่มไอหนาวในยามเช้า มีสายลมเย็นอ่อนพัดไล้ใบหน้า และพาให้สรรพชีวิตเคลื่อนไหวเหมือนบทเพลงที่มากมายด้วยท่วงทำนองและจังหวะแห่งชีวิต ...
จังหวะ ..ที่บางทีเราอาจจะต้องใช้หัวใจฟัง นอกเหนือจากสิ่งที่เห็นด้วยตา และได้ยินด้วยหู จึงจะได้คุณค่าที่รื่นรมย์ของความเคลื่อนไหวอันเรียบง่าย
ราวหกโมงเศษๆ แสงเรืองรองสีทอง เหลือง ส้ม ก็เริ่มออกมาฉาบทาท้องฟ้า
.. ภูเขาเชียวครึ้มสูงตระหง่านที่อาบไล้ด้วยแสงอาทิตย์ส่องสาด แลเห็นหลืบเงามืดและด้านสว่างของภูเขาที่ปกคุมด้วยพืชสีเขียวนั้นงดงามมากมาย
ภาพวิวทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหน้า ตามสายตาที่ทอดยาวไปกว้างไกล สร้างความรู้สึกโปร่งโล่งและเป็นอิสระ สร้างความรู้สึกสดชื่นไร้ขอบเขตที่ส่องสะท้อนเข้ามาในใจของผู้พิศมอง .. และเราเก็บภาพประทับใจมามากมาย
ราว 7 โมงเช้า เราเริ่มที่จะลงจากยอดดอย เพื่อลงไปชมดอกนางพญาเสือโคร่งอย่างใกล้ชิด .. สำหรับจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ภูลมโลนั้น มี 3 แปลงหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่
“แปลงภูลมโล” หรือ “แปลงแรก” ที่สามารถมองเห็นดอกนางพญาเสือโคร่งบานชมพูงดงามเต็มเนินเขา .. เราแหวกเข้าไปกลางดงดอกหญ้าที่กำลังเริงระบำล้อลมแรง โดยมีสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่ง กระจายในสายตา ฉันรู้สึกเหมือนกำลังเดินทางผ่านทะเลดอกไม้อันนุ่มนวล
ที่แปลงนี้ บางส่วนของดอกนางพญาเสือโคร่งเริ่มจะมีใบอ่อนแซมขึ้นมาบ้างแล้ว ซึ่งหมายความว่าเราได้เห็นตัวแทนแห่งฤดูหนาวกำลังจะกล่าวทักทายกับฤดูร้อนที่จะก้าวเข้ามาถึง
ลมโบกโบยผ่านยอดไม้ ... ฉันเริ่มเพลิดเพลินกับการส่งสายตาไปกับบรรยากาศรอบตัว ... โลกของฉันในเวลานี้ คล้ายกับย่อส่วนเหลือเพียงสิ่งที่เห็นตรงหน้า ... เวลาคล้ายไม่มีอยู่จริงๆ .. โลกเล็กลง ทว่าชัดเจนในดวงตา
ฉันเดินทอดน่องในหุบเขา ... เวลาคล้ายหมุนเนิบช้า หัวใจเต้นช้าลง .. มีเพียงความสวยงามของกลีบดอกที่บอบบางที่ฉุดรั้งให้ฉันกดชัตเตอร์กล้องในบางช่วงเวลา
“แปลงก้อนหินใหญ่” แปลงนี้มีทุ่งดอกนางพญาเสือโคร่งให้ชมกันควบคู่ไปกับก้อนหินใหญ่ 2 จุดด้วย ถือเป็นองค์ประกอบที่แตกต่างแต่กลมกลืนสวยงาม
น้ำค้างเกาะพราวบนใบหญ้า … ฉันมองภาพเพื่อนร่วมทางที่เดินไปข้างหน้าเหมือนพบที่ทางของตนในการเก็บภาพสวยๆ
ภาพที่เพื่อนร่วมทางมีความสุขกับการเข้าไปใกล้ดอกไม้กลับบอบบางสีละมุนตา และสนุกกับการโพสท่าถ่ายรูปประทับใจมากมาย .. เป็นหนึ่งในความสุขของคนที่มีโอกาสได้ถ่ายภาพให้เช่นกัน..
… ฉันจึงไม่เหน็ดเหนื่อยในการกดชัตเตอร์รัวๆ และรางวัลตอบแทนที่ได้ คือ รอยยิ้มและดวงตาที่ส่งประกายระยิบด้วยความสุข เมื่อเขาและเธอเหล่านั้นได้เห็นภาพ
ต้นดอกนางพญาเสือโคร่ง เป็นต้นไม้ที่มีวงศ์ใกล้เคียงกับต้นซากุระที่ญี่ปุ่น .. ฉันพยายามนึกว่า เหตุใดเมื่อฉันมองดูและเก็บภาพที่ญี่ปุ่นจึงมีความรู้สึกว่า ค้นและดอกซากุระจึงมีความงดงามประทับใจไม่รู้ลืม และดูจะมีความร็สึกที่แตกต่างมากพอดูกับการมองต้นนางพญาเสือโคร่งที่อยู่เบื้องหน้าในตอนนี้?
.. คำตอบอาจจะอยู่ที่สิ่งที่ฉันเห็นในสารคดีที่ดูบ่อยๆ
.. คนญี่ปุ่น ถือว่าธรรมชาติมีชีวิต มีวิถีและวิญญาณ รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของผู้คนที่ต้องเคารพ เอาใจใส่ .. ด้วยอุดมการณ์ และวิธีคิดแบบนี้ คนญี่ปุ่นจึงให้ความใส่ใจมากเป็นพิเศษในการบำรุงรักษา ตัดแต่งกิ่งไม้ให้สวยงาม และโดดเด่นด้วยการเสริมส่วนประกอบอื่นเข้าไปให้ภาพรวมๆชวนมอง
.. เมื่อเดินชมซากุระ เรามักจะไม่เห็นต้นที่แข่งกันสูงชะลูดไร้ทิศทาง เพื่อรับแสงแดด .. กิ่งกานของต้นไม้จะได้รับการตัดแต่งอย่างพิถีพิถันให้เป็นพุ่ม ห้อยย้อยเข้ากับส่วนประกอบอื่น เช่น ทางเดิน สะพาน ริมฝั่งแม่น้ำ รวมถึงให้โอกาสต้นไม้ได้เติบโต ออกดอกเป็นพุ่มสวยงามเต็มที่ ในขณะเดียวกันก็ไม่บดบังทัศนียภาพที่สวยงามน่าสนใจอื่นๆ เช่นภาพปราสาท สะพาน เป็นต้น
**นี่เป็นเพียงการตั้งข้อสังเกต มิได้มีเจตนาที่จะตำหนิผู้ใดค่ะ
“แปลงภูขี้เถ้า” ตั้งอยู่ห่างจากยอดภูลมโลไปประมาณ 4 กม. .. สายลมเย็นพัดปะทะสวนทางกับทางที่เรากำลังจะมุ่งหน้าไป ถนนลูกรังเล็กๆทอดยาวพ้นเขตแปลงดอกไม้ที่เราเพิ่งจะผ่านมา มุ่งหน้าไปยังที่ราบเชิงเขากว้าง ไกลลิบๆออกไปคือเทือกเขายาวเหยียด
เราเดินทางมายังจุดชมดอกสีชมพูหวานของนางพญาเสือโคร่งที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของภูลมโล … เช้านี้ธรรมชาติมอบรางวัลให้กับเราอย่างงดงาม ผืนป่าที่ด้านหนึ่งเป็นเป็นภูเขาสูงสลับ แต่อีกด้านหนึ่งเป็นหุบเขาลึก … ท้องฟ้าเปิดพร้อมกับหมู่เมฆสีฟ้าใส แต่งแต้มเช้าวันใหม่ให้สดชื่น
บริเวณนี้มีแปลงดอกนางพญาเสือโคร่งให้ชมกันมากถึง 3-4 แปลงติด ๆ กันในหลากหลายมุม นอกจากนี้ยังมีมุมที่มองย้อนขึ้นมาเห็นทุ่งพราวชมพูออกดอกสะพรั่งตามไหล่เขาดูสวยงามน่าประทับใจเป็นยิ่งนัก
ต้นนางพญาเสือโคร่งในแปลงนี้หลายร้อยต้นขึ้นเบียดเสียดหนาแน่น แย่งกันผลิดอก แย้มกลีบอวดความงาม พร้อมใจกันออกดอกเบ่งบานเป็นสีชมพูแสนหวาน สะพรั่งไล่เลี่ยกันไป .. ซึ่งในวันที่เราไปเยือน ถึงแม้จะไม่ใช่ช่วงเวลาที่พีคและสวยที่สุด แต่พื้นที่ทั้งแปลงยังคงเหมือนถูกเสกด้วยเวทมนต์ให้สวยงาม ราวกับถูกแต่งแต้มด้วยพู่กันจากศิลปินชั้นครู
***ขอบคุณภาพประกอบบทความบางภาพจากเพื่อนร่วมทริปค่ะ
*******************
เที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกกับพี่สุ … รวม link บทความที่เขียนในเพจ ..
***เมืองไทย ไดอารี่ by Supawan
***Supawan’s colorful world
***สถานีอร่อย by Supawan
โฆษณา