26 ม.ค. 2022 เวลา 12:05 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ตลาดหุ้น..กับ Demand curve ที่ไม่เหมือนใคร ‼️‼️
ถ้าใครเคยเรียน ECON หรือ MICROECONOMIC 101
1
เราน่าจะจำภาพ Demand curve โดยฝั่ง Demand (ความต้องการซื้อ) ทำ Slope ลงไปด้านขวา เมื่อเทียบกับราคาที่เพิ่มขึ้น (ยิ่งแพงขึ้นยิ่งซื้อน้อย ยิ่งถูกลงยิ่งซื้อเพิ่ม)
เรื่องนี้ใช้ได้กับธุรกิจทุกธุรกิจ สินค้าแทบทุกประเภท
ให้เราคิดภาพตามเวลา เราเข้าห้าง เวลาเราเห็นของ Sale 50 % เราก็อยากที่จะซื้อของชิ้นนั้นเพิ่ม
ซื้อของมูลค่า 100 บาท ในราคาเพียง 50 บาท
ใครบ้างจะไม่ชอบ 😁
1
แต่ในโลกของการลงทุนมันกลับตรงกันข้าม
คนส่วนมากมักจะดีใจ มีความอยากได้มากขึ้น เมื่อราคาเพิ่มสูงขึ้น ขอติดรถทำกำไรไปด้วย ด้วย"ความโลภ" ส่วนในตลาดขาลงก็ตรงกันข้าม
อีกสิ่งหนึ่งที่ต่างคือ ณ สถานการณ์ปัจจุบันในช่วงที่ตลาดปรับฐาน
เราหลายคนกำลังคิดว่าซื้อของที่มีมูลค่า 100 บาทแต่วันนี้มันลดเหลือ 50 บาทเท่านั้น ต้องรีบจัด
แต่เมื่อราคามันลดต่อเนื่องเหลือ 45 40 30 มันกลับมีน้อยคนที่กล้าซื้อในราคาที่ถูกลง พร้อมกับความคิดที่ว่า "หรือว่าเราคิดผิดวะ"
และเมื่อมันลงต่อ จนถึงจุดๆหนึ่งที่คนส่วนมากคิดเหมือนกันว่า "เห้ย...สินค้านี้มันอาจจะลงไปเหลือ 10 บาทก็ได้นะ พวกเราขายก่อนกันเถอะ"
1
และเมื่อคนส่วนมากขาย ตรงนั้นแหละที่เรียกว่า "Bottom Out"
สิ่งที่ต้องทำคือทำตรงข้ามกับความรู้สึก ต้องกลัวเมื่อหุ้นขึ้นสูง และต้องกล้าเมื่อหุ้นลงต่ำ
(สิ่งนี้มันเป็น Soft Skill พูดอะง่ายแต่ฝึกได้ยากมากๆผมเองก็ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ)
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดและห้ามพลาดเลย..คือ..
เราต้องตอบให้ได้ว่า ของสิ่งนั้นที่ควรมีมูลค่า 100 บาทจริงหรือเปล่า ? เพราะถ้าถูก สุดท้ายจะซื้อ 60 50 40 ผลลัพธ์คือ "กำไร" เหมือนกัน
แต่ถ้าผิดก็....ตัวใครตัวมันเด้อจ้า 🤣
ฝากไว้ให้ คิส..🥰
หมอชาย
หุ้นพอร์ทระเบิด
โฆษณา