1 ก.พ. 2022 เวลา 01:30 • ความคิดเห็น
การเจริญสติ มีหลายรูปแบบ หนึ่งในสติปัฏฐานสูตรคือ อานาปานสติคือพิจารณาดูลมหายใจเข้าออก เป็นวิธีที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญที่สุด เป็นหนึ่งในสติปัฏฐานสูตรที่ตามรู้ฐานกาย ซึ่งฐานกาย ตามรู้ได้แทบทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวอิริยาบถ เดิน นอน นั่ง ในกิจวัตรประจําวัน นอกจากนั้นยังมีฐานเวทนา ฐานจิต ฐานธรรม ซึ่งการตามรู้ฐานต่างๆแล้วแต่จริตคน บางคนก็ตามรู้ฐานจิตแล้วสลับใากาย ในทางทฤษฎีแล้วรู้ฐานหนึ่งก็จะรู้ฐานหนึ่งโดยอัตโนมัติ เช่น รู้อิริยาบทการเข้าออกของลมหายใจ รู้ถึงเวทนาในตัว ( ความอึดอัดไม่สบายกาย ความโปร่งโล่ง ความปวดเมื่อยขา ) รู้ถึงฐานจิต ( จิตฟุ้งซ่าน หรือไม่ฟุ้ง จิตสงบหรือไม่สงบ ) รู้ถึงสภาวะธรรมที่เกิด รู้ถึงเจตสิกประกอบจิต นิวรณ์ต่างๆที่เข้ามารบกวนจิต
การเจริญสติแบบเคลื่อนไหวในชีวิตประจําวัน โดยกําหนดรู้อิริยาบถ จะทําอะไรก็รู้สึกตัว ไม่ว่าจะอาบนํ้า กินข้าว ปัดมือถือ เดิน นอน วิ่ง ทํางาน เป็นหนึ่งในสติปัฏฐานสูตรเช่นเดียวกับการนั่งกําหนดลมหายใจโดยไม่ต้องนั่งงหลับตา เมื่อสติพัฒนาขึ้นก็จะกลายเป็นสมาธิในที่สุด
ที่คุณกล่าวมานั้น คุณกําลังกําหนดรู้ลมหายใจอยู่ แต่คุณหวังผลเพื่อความสงบ ในลําดับของฌาณ เมื่อมีวิตก วิจารณ์ ( ใช้ลมหายใจหรือกําหนด พุทธ- โธ่ ) เมื่อจิตตามรู้ จิตจะเข้าสู่อารมณ์เดียว ปิติสุขก็จะเป็นผลตามมา และบางคนอาจจะได้ฌาน เห็นแสงสี เห็นพระพุทธเจ้า รู้สึกตัวใหญ่ขึ้น และเมื่อทําต่อไปเรื่อยๆ จิตจะละทิ้งความสุข เข้าสู่ความสงบ ความว่าง หรือ เอกัคคตาจิต การที่จิตไม่เดินไปตามลําดับของฌานนั้นมีหลายสาเหตุ เช่น มีนิวรณ์รบกวน ( ความคิดฟุ้งซ่าน ความคาดหวัง ความท้อแท้ เป็นต้น ) ขาดขันติ วิริยะ ความอดทนไม่พอและความไม่คุ้นเคย บางคนไม่เคยนั่งสมาธิมาก่อน แต่พอมาลองนั่งดู
จิตก็ดําดิ่งสู่สมาธิอย่างรวดเร็ว เพราะพื้นฐานจิตดี ไม่ค่อยคิดมาก ประกอบกับสามารถปล่อยวางเรื่องต่างๆได้เร็วและบุญมาวาสนาส่งด้วย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเข้าถึงความสงบแบบนี้เป็นไปชั่วครั้งชั่วคราว เป็นสมาธิแบบสมถะ เหมือนก้อนหินทับหญ้ากดกิเลสไว้ชั่วคราว พอลืมตาขึ้นมาก็ยัง มีโทสะ โลภะ โมหะ เหมือนเดิม การเจริญสมาธิแบบสมถะเป็นไปเพื่อความสงบและความตั้งมั่นของสมาธิ แต่ไม่นําไปสู่การกําจัดกิเลสอย่างถาวร แต่การเจริญสติแบบวิปัสสนาจะนําไปสู่หนทางหลุดพ้นอย่างแท้จริง ซึ่งต้องอาศัยกําลังสมาธิจากสมถะ ทุกวันนี้ผมก็ยังทําไม่ได้เช่นกัน ยังไม่ค่อยก้าวหน้าเหมือนดังที่คุณบอก เพราะพื้นฐานผมเป็นคนที่ติดกับดักของความคิด เป็นคนที่ใช้ความคิดวิเคราะห์มากเกินไปมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นจิตจึงจะสงบยาก ผมจึงใช้วิธีเจริญสติตามอิริยาบถในชีวิตประจำวันจะดูง่ายกว่า บางทีเผลอไปบ้างก็กลับมารู้สึกตัวบ่อยๆ ตอนจะนอนก็กลับไปกําหนดลมหายใจบ้าง และบางทีฟุังซ่านมากๆ ก็อาศัยฟังเพลงบรรเลง พวก deep sleep ก็จะช่วยได้มาก โดยจิตจะดําดิ่งสู่สมาธิและหลับได้ง่ายขึ้น
ดังนั้นอาจจะเปลี่ยนวิธีที่ถูกจริตก่อน การนั่งฟังเพลง การพักผ่อนสบายๆ ปล่อยวางความคิด ก็เป็นการเจริญสติได้เช่นกัน รอให้สติแข็งแรงพัฒนาขึ้นก็จะกลับไปภาวนาแบบ อานาปานสติก็จะง่ายขึ้น
โฆษณา