3 ก.พ. 2022 เวลา 02:50 • ธุรกิจ
รู้จัก เจ้าของ MapleStory มหาเศรษฐีอันดับ 3 ในเกาหลีใต้
หากพูดถึงเกมออนไลน์สองมิติแล้ว หนึ่งในเกมที่ใครหลายคนนึกถึง
คงหนีไม่พ้นเกมอย่าง “MapleStory” ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเกมเรือธงภายใต้บริษัท Nexon
2
ปัจจุบัน บริษัทแห่งนี้ มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 5.5 แสนล้านบาท เป็นบริษัทเกมที่มีมูลค่ามากที่สุด ในประเทศเกาหลีใต้
ที่น่าสนใจก็คือ แม้ว่าธุรกิจขนาดใหญ่ในเกาหลีใต้ มักจะมาจากเครือแชโบล
1
แต่ Nexon กลับมีจุดเริ่มต้นมาจากผู้ชายธรรมดา ฐานะปานกลางคนหนึ่ง
ที่ได้ก่อร่างสร้างธุรกิจด้วยตัวเอง จนวันนี้กลายมาเป็น มหาเศรษฐีอันดับที่ 3 ของประเทศ
เขาที่ว่านั้น คือใคร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
คนที่เราพูดถึงกันนั้น มีชื่อว่าคุณ “Kim Jung-ju” หรือ “Jay Kim”
เขาเกิดที่กรุงโซล เมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้ ในปี ค.ศ. 1968 หรือเมื่อ 54 ปีก่อน
คุณ Jay Kim เติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง มีคุณพ่อเป็นทนายความ
ในขณะที่คุณแม่เป็นอาจารย์สอนเปียโนอยู่ที่ Seoul National University
แม้จะมีฐานะปานกลาง แต่สิ่งหนึ่งที่พ่อแม่ของเขาแตกต่างจากครอบครัวอื่น ก็คือการเปิดโอกาสให้คุณ Jay Kim ได้ลองทำในสิ่งต่าง ๆ และจะคอยสนับสนุนอยู่เสมอ
ต่างจากครอบครัวชาวเกาหลีอื่น ๆ ที่มักจะเคร่งครัดในเรื่องกฎระเบียบ โดยเฉพาะเรื่องการเรียน
และด้วยแรงสนับสนุนจากพ่อแม่ของเขา ทำให้คุณ Jay Kim เป็นเด็กที่มีงานอดิเรกถึง 2 อย่างด้วยกัน
อย่างแรก คือ การเล่นดนตรีแบบเดียวกับคุณแม่ของเขา
อย่างที่สอง คือ อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เช่น การถอดประกอบชิ้นส่วน รวมไปถึงการเล่นเกม
ซึ่งครอบครัวของเขาก็สนับสนุนให้เขาทำทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นการอนุญาตให้คุณ Jay Kim สามารถถอดและประกอบคอมพิวเตอร์ที่มีราคาสูงได้อย่างอิสระ ไม่มีการห้ามอะไร
หรือช่วยฝึกซ้อมไวโอลินให้เขา จนสามารถชนะการแข่งขันหลายรายการในช่วงวัยเรียน
จนกระทั่งถึงวันที่เขาต้องตัดสินใจ เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย
คุณ Jay Kim ก็ได้ตัดสินใจเลือกที่จะเรียนต่อด้านคอมพิวเตอร์
เขาจึงได้เข้าเรียนระดับปริญญาตรีในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่ Seoul National University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเดียวกันกับที่แม่ของเขาสอนดนตรีอยู่
หลังจากนั้น ก็ได้เข้าศึกษาต่อที่ KAIST ซึ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยที่มีจุดเด่นด้านการวิจัยและวิศวกรรม
ซึ่งก็ยังถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของเกาหลีใต้อีกด้วย
1
ระหว่างเรียน สิ่งหนึ่งที่เขายังคงชอบทำมาโดยตลอดก็คือ “การเล่นเกม”
1
แต่แม้การเล่นเกมจะทำให้เขามีความสุขมากแค่ไหน
เมื่อเวลาผ่านไป เขาเริ่มรู้สึกว่า เขาเองเริ่มเบื่อที่จะต้องมานั่งเล่นเกมอยู่คนเดียว
จึงทำให้เขาเกิดความคิดที่ว่า คงจะดีไม่น้อย หากมีเกมที่เขาสามารถชวนเพื่อน มาเล่นได้หลาย ๆ คนพร้อมกัน
พอเรื่องเป็นแบบนี้คุณ Jay Kim จึงเกิดความคิดในการสร้างเกม ที่สามารถเล่นได้พร้อมกันขึ้นมา
ในปี ค.ศ. 1994 หรือราว 28 ปีก่อน
คุณ Jay Kim และคุณ Jake Song เพื่อนของเขา
ซึ่งทั้งคู่พบกันสมัยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย KAIST
ซึ่งพวกเขา ก็ได้ตัดสินใจร่วมกันก่อตั้งบริษัท ผลิตและพัฒนาเกมขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า “Nexon”
หลังจากซุ่มพัฒนาเกมอยู่ 2 ปี เกม Nexus: The Kingdom of the Winds
เกมแนวผจญภัย ที่ผู้เล่นจำนวนมาก สามารถเล่นด้วยกันได้ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
ซึ่งเป็นแนวเกมประเภท Massively Multiplayer Online Role-Playing Game
เรียกสั้น ๆ ว่า MMORPG โดยเกมนี้ยังนับเป็นหนึ่งในเกม MMORPG ในยุคบุกเบิก
1
ยกตัวอย่างเกม MMORPG ที่ใครหลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี เช่น MapleStory หรือ Ragnarok Online
ซึ่งต้องบอกว่าการที่คุณ Jay Kim ตัดสินใจปล่อยตัวเกม Nexus: The Kingdom of the Winds ในเวลานั้น เรียกได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างถูกที่ ถูกเวลาเลยทีเดียว
เพราะแม้ว่าก่อนหน้านั้น จะเริ่มมีเกมออนไลน์จากค่ายเกมอย่าง Sega, Nintendo และ Atari แล้ว
แต่เกมเหล่านั้นก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก โดยเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้
เนื่องจากในตอนนั้น เป็นช่วงเริ่มต้นของอินเทอร์เน็ต เกาหลีใต้ยังไม่ได้ใช้กันแพร่หลายมากนัก
โดยในปี ค.ศ. 1995 เกาหลีใต้มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 3.6 ล้านคน
คิดเป็นเพียง 0.8% จากประชากรทั้งหมด เท่านั้น
1
แต่ในช่วง 5 ปีหลังจากนั้น ซึ่งคือปี ค.ศ. 1995 ถึงปี ค.ศ. 2000 และเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เกม Nexus: The Kingdom of the Winds ได้เริ่มเปิดให้บริการพอดี
ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในเกาหลีใต้มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ในปี ค.ศ. 2000 มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากถึง 21 ล้านคน คิดเป็น 44% ของประชากร
เติบโตจากปี ค.ศ. 1995 ที่ 3.6 ล้านคน เกือบเป็น 6 เท่าเลยทีเดียว
ทำให้หลังจากเปิดให้บริการในประเทศเกาหลีใต้ได้ไม่นาน เกม Nexus: The Kingdom of the Winds
จึงได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี และมีจำนวนผู้เล่นเพิ่มมากขึ้น
แม้จะดูเหมือนเรื่องราวทุกอย่างกำลังไปได้ด้วยดี แต่แล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
เมื่อคุณ Jake Song ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Nexon ที่มีบทบาทอย่างมากในการพัฒนาเกม
ประกาศลาออก และย้ายไปเข้าร่วมกับบริษัท NCSoft Corporation ซึ่งเป็นผู้ผลิตและพัฒนาเกมลักษณะเดียวกัน หรือเรียกได้ว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Nexon เลยก็ว่าได้
1
หลังจากนั้นเพียง 1 ปี NCSoft Corporation ได้เปิดตัวเกม Lineage เกม MMORPG ในตำนาน
ที่พัฒนามาหลายภาค
1
จนปัจจุบันมีทั้งเวอร์ชันบนคอมพิวเตอร์ และเวอร์ชันที่เล่นได้บนสมาร์ตโฟน ซึ่งผู้พัฒนาหลักของเกมนี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคุณ Jake Song นั่นเอง
เพียงไม่นานผู้เล่นบางส่วนของ Nexus: The Kingdom of the Winds ก็เริ่มย้ายไปเล่นเกม Lineage
จนทำให้หลังจากเปิดให้บริการได้เพียง 2 ปี เกม Lineage สามารถกวาดรายได้ไปกว่า 1,500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม โชคก็ยังเข้าข้างทาง Nexon อยู่บ้าง เมื่อเกม QuizQuiz เกมตอบคำถามออนไลน์
ซึ่งเป็นโครงการเล็ก ๆ ของบริษัท Nexon ที่ถูกพัฒนาโดยพนักงานเพียงคนเดียว ชื่อว่าคุณ Min Kim
กลับมีผู้เล่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายใน 2 เดือนมีจำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นมากถึง 1 ล้านคน
โดยสาเหตุที่ทำให้จำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในระยะเวลาสั้น ๆ นั้น มาจากการที่ Nexon ได้เปิดให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกมนี้ได้ฟรี หรือที่เราเรียกกันว่า “Free to Play” นั่นเอง ซึ่งต้องบอกว่า เกมนี้ยังถือเป็นการเปิดให้บริการ ในรูปแบบนี้เป็นเจ้าแรกอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมี เกม Crazy Arcade : BnB หรือ Bombs and Bubbles
ซึ่งเป็นเกมออนไลน์สองมิติ ที่ผู้เล่นต้องทำการวางระเบิดแข่งกับผู้เล่นคนอื่น
แน่นอนว่าทาง Nexon ก็เลือกใช้โมเดล Free to Play เช่นเดียวกับเกม QuizQuiz
1
ซึ่งก็ต้องบอกว่าประสบความสำเร็จตามที่คุณ Jay Kim คิด เพราะในเวลาเพียง 2 สัปดาห์หลังจากเปิดให้เล่น เกมนี้มีผู้เล่นเพิ่มขึ้นมากถึง 10,000 คนเลยทีเดียว
2
แต่แล้วเมื่อบริษัทกำลังเดินไปได้ด้วยดี
ครั้งนี้กลับเป็นอีกครั้งที่ Nexon ก้าวพลาด
เมื่อทาง Nexon ได้เน้นการขายไอเทมในเกมมากจนเกินไป
จนทำให้เกิดความต่าง ระหว่างผู้เล่นที่เติมเงินซื้อไอเทม กับผู้เล่นที่ไม่ได้มีการซื้อไอเทม
และด้วยความต่างนี้ ทำให้ความสนุกของเกมลดลงไป ผลกระทบที่ตามมาทันทีก็คือ ผู้เล่นทยอยลดลง
 
เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อเห็นแนวโน้มของบริษัทกำลังย่ำแย่ลง คุณ Min Kim ผู้พัฒนาเกม QuizQuiz ก็ประกาศลาออกจากบริษัท Nexon เพื่อไปก่อตั้งบริษัทพัฒนาเกมของตัวเองที่ชื่อว่า “Wizet”
1
เรียกได้ว่า เป็นอีกครั้งที่ Nexon ประสบปัญหาสมองไหล เสียบุคลากรที่มีความสามารถไป และเหมือนประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเป็นครั้งที่สอง
2 ปีต่อมา ซึ่งคือปี ค.ศ. 2003 บริษัท Wizet ที่มีหัวเรือหลักอย่างคุณ Min Kim
ได้ทำการเปิดตัวเกม MapleStory เกม MMORPG สองมิติ ซึ่งก็ต้องบอกว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ด้วยจำนวนผู้เล่นพร้อมกันกว่า 100,000 คน
ในขณะเดียวกันสถานการณ์ของบริษัท Nexon เองก็กำลังอยู่ในช่วงที่เรียกได้ว่า “ทางตัน”
เนื่องจากบริษัทไม่ได้มีเกมใหม่ ๆ เปิดให้บริการมาพักใหญ่แล้ว
เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ ทำให้คุณ Jay Kim ตัดสินใจทุ่มเงินสดทั้งหมดของบริษัทในเวลานั้น
คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท เข้าซื้อบริษัท Wizet เจ้าของเกม MapleStory
1
ซึ่งต้องบอกว่าการทำแบบนี้ มีความเสี่ยงสูงมาก
เนื่องจาก Wizet ยังเป็นบริษัทหน้าใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งได้เพียง 2 ปี
และยังมีเกมที่เปิดให้บริการเพียงเกมเดียว ซึ่งก็คือ MapleStory
2
แต่ต้องบอกว่า การตัดสินใจของคุณ Jay Kim ในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เพราะไม่นานจำนวนผู้เล่นของ MapleStory ก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จนในปี ค.ศ. 2011 เกม MapleStory มีจำนวนผู้เล่นรวมกันจากทุกประเทศ อยู่ที่ 8 ล้านราย และเกมนี้สามารถทำรายได้ให้กับบริษัทไปแล้วกว่า 60,000 ล้านบาท
และในปีเดียวกันนั้นคุณ Jay Kim ก็สามารถพาบริษัท Nexon Corporation จดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ Tokyo Stock Exchange ได้สำเร็จ
ซึ่งหลังจากการประสบความสำเร็จของเกม MapleStory ก็ทำให้ Nexon ได้เริ่มเปลี่ยนแนวทางการทำธุรกิจ
จากผลิตเกมเอง มาเป็นเน้นการเข้าซื้อลิขสิทธิ์เกมที่ประสบความสำเร็จ มาเปิดให้บริการในประเทศแทน
ยกตัวอย่างเกมที่เราน่าจะรู้จักกันอย่าง Counter-Strike Online จากค่ายเกม Valve Corporation
ปัจจุบันบริษัท Nexon Corporation เปิดให้บริการอยู่หลายประเทศทั่วโลก
ซึ่งมีทั้งเกมบนคอมพิวเตอร์ และเกมบนสมาร์ตโฟน
โดยในรอบ 9 เดือนของปี 2021 ที่ผ่านมา
บริษัทมีรายได้ 60,030 ล้านบาท กำไร 25,592 ล้านบาท
1
หากเรามาดูสัดส่วนรายได้ตามแต่ละประเทศ จะพบว่า
- 53% มาจากเกาหลีใต้
- 30% มาจากจีน
- 3% มาจากญี่ปุ่น
- 6% มาจากอเมริกาเหนือและยุโรป
- 8% คือประเทศที่เหลือ
ปัจจุบัน Nexon มีมูลค่าของบริษัทปัจจุบัน อยู่ที่ 552,281 ล้านบาท
เรียกได้ว่าเป็นบริษัท ผลิตและพัฒนาเกม ที่มีมูลค่ามากสุดในเกาหลีใต้
ส่วนคุณ Jay Kim ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวความสำเร็จนี้ มีมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ที่ 265,350 ล้านบาท จัดเป็นมหาเศรษฐีที่รวยเป็นอันดับ 3 ของเกาหลีใต้
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ในประเทศต่าง ๆ เรามักจะมีชื่อย่อที่ใช้เรียกแทนบริษัทชั้นนำ ในประเทศนั้น ๆ
เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีก็จะมี “MANGMAN”
ประกอบไปด้วย Meta, Amazon, Netflix, Alphabet, Microsoft, Apple และ Nvidia
หรือในจีน ก็จะมี “BATX” ประกอบไปด้วย Baidu, Alibaba, Tencent และ Xiaomi
สำหรับเกาหลีใต้เองก็มีเหมือนกัน แต่จะเป็นเฉพาะคำที่ใช้เรียกบริษัทชั้นนำ
ในอุตสาหกรรมเกม ซึ่งก็คือ “3N” ประกอบด้วย
Netmarble Corporation ผู้พัฒนาเกม Line Let’s Get Rich มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 247,000 ล้านบาท
Nexon ที่มีผู้ก่อตั้งคือคุณ Jay Kim มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 552,281 ล้านบาท
สุดท้ายคือ NCSoft Corporation มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 300,000 ล้านบาท ซึ่งก็คือบริษัทที่คุณ Jake Song ผู้ร่วมก่อตั้ง Nexon ย้ายไป นั่นเอง..
โฆษณา