6 ก.พ. 2022 เวลา 08:46 • ความคิดเห็น
วันก่อนเพื่อนปรึกษาเรื่อง ปัญหา Stagflation.
ที่กำลังเกิดกับไทยว่าจะแก้ยังไง
ก็นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ยาวไปถึงเรื่อง real gdp, real yield ไปนู่นนนนน ก็ขอแชร์ให้เพื่อนๆฟังอีกรอบละกัน(เคยมีพูดถึงไปหลายครั้งอยู่)
1
เรื่องนี้เป็นเรื่องยาก ต้องใช้ "เวลา" แลกอย่างเดียว
หากอธิบายสภาวะการณ์ปัจจุบันนี้ เคทมองถึงภาพของ ยุคหลังสงครามโลก ภาพของยุคสมัยนั้นคือ เงินเฟ้อสูง (inflation) หลักๆมาจากการขาดแคลนวัตถุดิบ ปัญหาของห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ทำให้สินค้าต่างๆมีการปรับตัวขึ้นสูง บ้างผลิตไม่ทัน บ้างก็ไม่เพียงพอ ตลอดจนปัญหาโลจิสติกส์ และ อีกทั้งมีเงินเข้าในระบบล้น แต่...กระจุกตัว
ซึ่งปัญหาข้างต้นในอดีตเป็นปัญหาที่พอจะเทียบเคียงได้กับช่วงโควิด ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ ซึ่ง...ไม่ใช่เงินเฟ้อเพราะเศรษฐกิจดี มีเงินไหลเข้าเยอะ มีกำลังจับจ่ายสูง
แต่ในขณะเดียวกัน ปัจจัยเงินเฟ้อแบบนี้นำไปสู่เงินฝืด (deflation). เพราะการจ้างงานต่ำ เกิดเป็น recession ภาวะถดถอย ซึ่งในไทยนั้นเราอยู่ในช่วงต้นของ recession มาสักพักใหญ่ๆแล้ว เพราะอัตราการเกิดต่ำ สวนทางกับ สังคมสูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจพึ่งพาอุตรสาหกรรมเก่า เพียงแต่ โควิด ทำให้ภาพปัญหานี้ชัดขึ้น
1
การแก้ปัญหา เงินเฟ้อ กับเงินฝืด มักจะดำเนินนโยบายการเงินการคลังที่ตรงข้ามกัน เงินฝืด = ให้ลดอัตราดอกเบี้ย ซื้อพันธบัตร ลดเงินสำรอง ให้เงินไหลเข้าระบบ
เงินเฟ้อ = ให้เพิ่มดอกเบี้ย ลดการซื้อพันธบัตร เพิ่มเงินสำรองในระบบ รวมถึงลดปริมาณเงิน
แต่ในภาวะแบบนี้ การแก้แบบปกติ นั้นทำไม่ได้ เพราะเราเจอปัญหาทั้ง 2 แบบ เท่าที่พอมองเห็นก็ต้องยอมรับว่ารัฐทำเกือบทุกทางแล้ว คือ แก้ปัญหาฝืด ลดค่าครองชีพโดย ลดค่าน้ำค่าไฟ และ เติมเงินเข้าระบบในโครงการช่วยเหลือต่างๆ แต่ การแก้ปัญหาว่างงาน ที่ยังทำได้ล่าช้า เพราะปัญหาของ โรคระบาด และแก้การกระจุกตัวของตลาดไม่ได้ สิ้นค้าบางประเภทยังคงกระจุกตัวอยู่เฉพาะรายใหญ่ๆ ทำให้เงินเฟ้อ แต่ เกิดภาวะฝืดพร้อมกัน เพราะรายย่อยไม่สามารถกระจายสินค้าได้ เมื่อกระจายไม่ได้ ผลิตไม่ได้ การจ้างงานก็ไม่เกิด
พอเงินฝืด เราขึ้นดอกเบี้ยไม่ได้แน่นอน เพราะเงินเฟ้อ มาจากปัจจัยของ supply chain และเมื่อเงินฝืด ภาวะหนี้ไม่ได้ลดลง แต่...จะยังคงเพิ่มขึ้น เพราะ ระยะเวลาการชำระคืน จะนานขึ้น ทำให้เงินฝืด มีหนี้เพิ่มขึ้นโดยไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นดอกเบี้ยต้องหยุดด้วย ถึงจะเซฟหนี้ อย่างไรก็ตาม พอคนไม่มีรายได้ แต่ค่าใช้จ่ายยังมี ก็นำไปสู่การสร้างหนี้รอบใหม่ ดังนั้น การปล่อยกู้ยังไงก็ไม่สามารถคิดดอกเบี้ยในอัตราปกติได้ เพราะจะยิ่งทำร้ายระบบเศรษฐกิจในระยะกลาง ภาวะแบบนี้รัฐต้องจำยอมสร้างหนี้สาธารณะขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องพยุงให้ถูกจุดจริงๆ ไม่งั้นก็จะกลายเป็นซ้ำดาบ 2
แก้ต่อไปหลังจากนี้ ต้องแก้ที่ฐานรากของที่มารายได้ของประเทศ เราพึ่งพิงอุตรสาหกรรมเก่ามากไป เกษตรแบบเก่า การบริการท่องเที่ยวแบบเก่า ซึ่งจะรื้อ ก็รื้อยากแล้วโดยเฉพาะท่องเที่ยว over supply แล้ว (แต่ถ้ารีบจัดการก็พอช่วยได้) ปัญหา over supply นี้น่ากังวลมาก เพราะถึงจุดจุดนึง supply จะไม่สามารถสร้าง productivity ได้ กลายเป็นส่วนเกิน และเมื่อเป็นส่วนเกินจะมีค่า maintenance cost เข้ามาแทน เป็นรายจ่ายระยะยาวที่ยังไม่เห็นภาพ ณ ตอนนี้ ภาพนี้ถ้าพูดกันแบบโหดร้ายหน่อยก็คือ ภาพของสังคมสูงวัยที่กำลังเผชิญอยู่ขณะนี้ ไม่สามารถสร้าง โปรดักส์ แต่มีค่าบำรุงเพิ่ม
1
แก้ขั้นต่อไป คือ ต้องผลักดันให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในมากยิ่งขึ้น พึ่งพิงตนเองมากขึ้น ตรงนี้ก็จะพอสอดคล้องกับปัญหาข้างต้นของสังคมสูงวัยที่เป็นปัญหา (รวมถึง over supply) คือ จัดสรร ให้เกิดกิจกรรมที่สร้างผลผลิตระหว่างสังคมทั้ง 2 วัย หรือ 2 ส่วน เพื่อให้เกิดเป็น gdp ขึ้นในวงรอบใหม่ เกิด productivity ใหม่ๆ
อีกมุมแก้ใหม่ ที่เคทเองก็ลังเลอยู่ในช่วงนึงคือ พลักดันระยะเวลาการศึกษาให้น้อยลง สั้นลง เพื่อให้เกิดการจ้างงานตั่งแต่ในวัยเรียนเพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับ การออกแบบแผนผังวิชาชีพขึ้นรองรับอุตรสาหกรรมใหม่ๆมากขึ้น หากไม่เช่นนั้น อัตราการจบใหม่ที่สูงแต่สกิลไม่สอดรับกับโลกใหม่ ก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ต่อไป
1
ขอย้อนกลับไปที่ภาคบริการ การท่องเที่ยวที่เป็นดาบสองคม กำลังจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ของเรา อย่างแรก รัฐต้องอุดรูรั่วของรายได้ที่ไหลออกจากแพลตฟอร์มดิจิทัลให้ลดลงก่อน อาจจะเสนอเป็น การอุดหนุนลดหย่อนภาษีให้กับบริษัทที่ไม่มีธุรกรรมของแพลตฟอร์ตต่างชาติ ซึ่งอย่างน้อยช่วยให้เงินไหลออกลดลง หรือ รัฐจะลงทุนสร้างดาต้าเองก็คุ้มค่าในระยะยาว ภาพนี้เราเห็นได้จากจีนที่ แก้ปัญหาเงินไหลออกด้วยการใช้แพลตฟอร์มของตนเอง แน่นอนว่าต้องลงทุนครั้งใหญ่แต่ระยะยาวคุ้มค่าแน่ๆเพราะมันจะเป็นเครือข่ายไปสู่กิจกรรมอื่นๆ
2
ถามว่าเราทำได้ไหม เคทเชื่อว่าได้นะ เช่นตัวอย่างของการพัฒนาแอพของธนาคารต่างๆ มันก็ใช้แพทเทรินฟอร์มไม่ต่างกันมาก จากที่เคยอยู่ในอุตรสาหกรรมนี้ต้องบอกว่า เรื่องท่องเที่ยวยังมีเรื่องให้แก้เยอะมากจริงๆ ไม่ใช่แค่เงินในระบบนะ มีเงินเทาๆในระบบนี้ที่ถ้าเปิดมาแล้วจะตกใจกัน เม็ดเงินมันใหญ่มาก การพนันหรือหวยใต้ดินนี่อาจจะเล็กไปเลยก็ได้
มิ้วๆนะคะ
3
โฆษณา