6 มี.ค. 2022 เวลา 08:00 • ประวัติศาสตร์
10 การทดลองสุดบ้าระห่ำ
3
ระยะเวลาที่ใช้ในการอ่านโดยประมาณ : 5นาที
การจะได้มาซึ่งความรู้ และผลงานต่างๆ บ่อยครั้งที่นักวิทยาศาสตร์ต้องทำการทดลองในแบบที่เราไม่คาดคิด และในวันนี้นายจอมโม้จะพาคุณมาพบกับ 10 การทดลอง “สุดบ้าระห่ำ” ที่คุณอาจไม่เคยรู้
1. ความเจ็บปวดจากการถูกผึ้งต่อย
ในปี 2015 นาย Michael Smith ได้รับรางวัล IG Nobel หรือรางวัลวิทยาศาสตร์สุดเพี้ยน จากการทดลองที่เขาให้ผึ้งต่อยร่างกายตัวเองเป็นจำนวน 25 จุด ซึ่งนั้นรวมถึงอวัยวะเพศด้วย เพื่อศึกษาว่าจุดไหนที่จะเกิดความเจ็บปวดมากที่สุด ซึ่งการทดลองนี้ใช้เวลากว่า 1 สัปดาห์ และโดนผึ้งต่อยร่วม 200 ครั้ง และผลก็ออกมาว่าจุดที่เจ็บปวดมากที่สุดก็คือ อวัยวะเพศ ริมฝีปาก และ รูจมูก
2
2. การย่อยโครงกระดูก
นี่เป็นการทดลองของนักวิจัย 2 คน นั้นก็คือนาย Peter Stahl และนาย Brian Crandall โดยพวกเขาต้องการศึกษาการย่อยอาหารของมนุษย์ที่มีต่อโครงกระดูกของสัตว์กินแมลงขนาดเล็ก โดยวิธีการคือเขาให้อาสาสมัครกินหนูผีลวกเข้าไป และเมื่อขับถ่ายออกมาก็พบว่ากระดูกของหนุนั้นถูกย่อยสลายไปค่อนข้างเยอะ และพวกเขากหวังว่าการทดลองนี้จะมีประโยชน์ในแง่ของการศึกษาซากกระดูกสัตว์ ที่มนุษย์โบราณกินเข้าไป
2
3. เปลี่ยนอารมณ์สัตว์
นาย Jose Delgado นักประสาทวิทยา โดยระกว่างปี 1946-1974 เขาได้ทดลองสร้างอุปกรณ์สำหรับควบคุมอารมณ์สัตว์ขึ้นมา โดยเขานำอุปกรณ์นี้ไปฝังไว้ในสมองของสัตว์ และควบคุมด้วยรีโมท ซึ่งผลการทดลองก็นัลว่าประสบความสำเร็จเพราะเขาได้ทำการเปลี่ยนอารมร์ของกระทิงที่กำลังหงุดหงิดอย่างมากและกำลังจะพุ่งโจมตีเขา ให้หยุดโจมตีได้ผ่านการควบคุมรีโมทเท่านั้น
2
4. พยาธิปากขอ
ในปี 2012 Dr. James Logan ผู้เชี่ยวชาญด้านพยาธิวิทยาได้ทำการศึกษาว่าพยาธิปากขอมีความเชื่อมโยงกับการแพ้อาหารของมนุษย์อย่างไร ซึ่งโดยทั่วไปพยาธิปากขอจะสามารถสู้ร่างกายของมนุษย์ได้โดยการชอนไชเข้าผิวหนังหรือไม่ก็การกินอาหารที่มีตัวอ่อนของมันเข้าไป ซึงทาง Dr. James ก็เลือกที่จะวิธีฉีดเข้าไปโดยตรง และกลืนเข้าทางปาก จากนั้นเขาจึงกลืนกล้องขนาดเล็กตามลงไปเพื่อติดตามผล ซึ่งผลจากการทดลองในครั้งนี้ก็ทำให้เขาเป็นลำไส้อักเสบ แต่ก็ได้ผลลัพท์ที่น่าพอใจ
1
5. สารเคมีล่อตัวเรือด
ตัวเรือดคือแมลงขนาดเล็กที่กินเลือดเป็นอาหาร พอเจอได้ในที่นอน ทำให้นักชีววิทยาชื่อRegine Gries ทำการพัฒนาสารเคมีสูตรใหม่ขึ้นมา เพื่อใช้ล่อตัวเรือดโดยเฉพาะ แต่กว่าจะได้มาซึ่งสารเคมีนี้ นักวิจัยได้ทำการทดลองแบบเสียสละตัวเอง โดนการนำตัวเรือดจำนวนมากมากัดที่แขนของตัวเอง จากนั้นก็นำสารเคมีสูตรต่างๆมาทดลองล่อตัวเรือด ซึ่งกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ นักวิจัยก็ถูกตัวเรือดกัดไปแล้วกว่า 200,000 ครั้ง
6. พิษงู
นาย Tim Friede เป็นคนที่หลงไหลงูเป็นอย่างมาก เขาใช้เวลา 16 ปีเพื่อทดลองการสร้างภูมิคุ้มกันทางะรรมชาติต่อพิษงู โดยวิธีก็คือการนำพิษงูอันตรายหลายชนิดฉีดเข้าร่างกายตัวเอง โดยหวังกว่าเมื่อการทดลองสำเร็จ นักวิทยาศาสตร์จะสามารถนำเลือดของเขาไปทำเป็นเซรุ่มได้ และผลการทดลองก็ไม่เป็นไปอย่างหวัง พิษงูทำให้ร่างกายของเขาย่ำแน่ถึงเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด แถมภรรยาของเขายังทนไม่ไหวจนถึงขั้นขอหย่ากับเขาอีกด้วย
1
7. ฝัง Electrodes ในสมอง
ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 นักวิจัยที่มีชื่อว่า Phil Kennedy และนาย Roy Bankay ได้ทำการเปิดตัวไซบอกตัวตริง โดยไซบอกที่ว่าก็คือทหารผ่านศึกชาวอเมริกันชื่อว่า Johnny Ray ซึ่งเดิมทีนาย Johnny มีอาการหลอดเลือดในสมองและอัมพาต ซึ่งนักวิจัยทั้ง 2 ได้ทำการฝัง Electrodes ลงไปในเยื้อหุ้มสมองสั่งการ และในเวลาต่อมานาย Johnny ก็สามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้ ซึ่งต่อมานาย Phil Kennedy ก็ได้ทำการลองเพิ่มเติมโดยการฝัง Electrodes เข้าไปในสมองของตัวเอง แต่ในครั้งนี้มันกลับส่งผลเสียทำให้เขา เสียสติ จดจำอะไรไม่ได้ อ่านหนังสือไม่ออก รวมถึงพูดไม่ได้ ก่อนที่จะดีขึ้นใน 2-3 วันให้หลัง
1
8. วัคซีนต้าน HIV
อย่างที่เราทราบกันว่าไวรัส HIV นั้นมีความซับซ้อนและฉลาดมากทำให้ถึงแม้จะมีความพยายามมาหลายสิปปี แต่ก็ยังไม่สามารถพัฒนาวัคซีน HIV ได้สำเร็จเสียที แต่ในปัจจุบัยก็ยังคงมีการทดลองต่างๆนาๆเพื่อพัฒนามันให้สำเร็จ ซึ่ง 1 ในนั้นก็คือ Dr. Pradeep Seth โดยในปี 2003 เขาได้ทดลองฉีดวัคซีนที่เขาเป็นผู้คิดค้นขึ้นเข้าไปในร่างกายตัวเอง ซึ่งวัคซีนนั้นยังอยู่ในขั้นทดลอง แต่โชคดีที่สุดท้ายแล้วร่างกายของเขาก็ไม่ได้เป็นอะไร
9. น้ำพุแห่งความเยาวัย
Anatoli Brouchkov หัวหน้าภาควิชาธรณีวิทยามหาวิทยาลัยมอสโก เขานั้นเชื่อว่าน้ำพุแห่งความเยาวัยนั้นมีอยู่จริง เพียงแต่มันอยู่ในรุปแบบของแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Bacillus F ซึ่งเป็นแบคทีเรียอายุ 3.5 ล้านปีที่ถูกแช่แข็งไว้มาโดยตลอด โดยเมืองน้ำแข็งละลายแบคทีเรียนี้จึงไหลมาปนเปื้อนกับน้ำดื่มในเมือง Yakut ทำให้ชาวเมืองที่ดื่มเข้าไปมีอายุยืนยาว และจากแนวคิดนี้เขาจึงได้ทดลองฉีด Bacillus F เข้าตัวเอง และเขาสังเหตเห็นว่าเขาสามารถทำงานได้ดีขึ้นและนานขึ้น อีกทั้งยังไมเจ็บป่วยใดๆเลยตลอด 2 ปีนับจากที่เขาฉีดแบคทีเรียนั้นเข้าไป
2
10. ผ่าตัดตัวเอง
เหตุการณืนี้เกิดในเดือน กุมภาพันธ์ ปี 1921 เมื่อศัลยแพทย์อย่างนาย Evan O’Neill วัย 60 ปี มีอาการไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน และต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน ซึ่งเขาก็กำลังอยากทดลองพอดีว่า แพทย์จะสามารถใช้ยาชาเฉพาะที่ แล้วผ่าตัดตัวเองเลยได้ไหม ซึ่งผลก็ปรากฏว่าการผ่าตัดสามารถผ่านไปได้ด้วยดี และจากความสำเร็จนี้เอง 10 ปีให้หลังเขาก็ทำการผ่าตัดตัวเองอีกครั้ง เพื่อรักษาไส้เลื่อน
1
เรียบเรียงโดย
นายจอมโม้
5 มีนาคม 2022
โฆษณา