บทเกริ่นนำ
ว่าทำไมสัตว์ธรรมดาๆ สายพันธุ์หนึ่งถึงได้กลายเป็นพระเจ้าผู้ครองโลกได้
มนุษย์เราดำรงอยู่บนโลกนี้เป็นเวลานานก่อนจะเกิดประวัติศาสตร์ขึ้นบรรพบุรุษที่ดูคล้ายกับมนุษย์ปัจจุบันมากปรากฏขึ้นบนโลกเมื่อราวๆ 2.5 ล้านปีมาแล้ว แต่ถึงจะผ่านกาลเวลานานรุ่นแล้วรุ่นเล่า พวกเขาก็ไม่ได้มีลักษณะอะไรที่โดดเด่นจนแตกต่างไปจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ มากมายที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกัน
ถ้าหากมนุษย์เรามี ไทม์แมชชีน เราก็คงนั่งย้อนเวลากลับไปดูเรื่องราวในประวัติศาสตร์และก็คงต้องตกใจไม่น้อยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นและคงมีคำถามมากมายหลายๆ อย่าง แต่ในความจริงมนุษย์ยังไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ในอนาคตอันใกล้นี้ไม่แน่ว่ามนุษย์อาจจะมีเทคโนโลยีที่ล้ำเลิศ ที่จะสามารถพาเราย้อนกลับไปอดีตได้
หากเราเดินทางไกลท่องไปในแอฟริกาตะวันตกเมื่อ 2 ล้านปีที่แล้ว เราก็คงอาจเผชิญหน้ากับรูปแบบพฤติกรรมของมนุษย์ที่คุ้นเคยดี เช่น แม่ที่โอบกอดลูกน้อยของเธอย่างห่วงใย กลุ่มเด็กๆ ที่กำลังเล่นโคลนกันอย่างไร้กังวล วัยรุ่นเจ้าอารมณ์ที่ถูกเพื่อนๆ แหย่ให้โกรธ เด็กเก็บตัวที่ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับใคร หรือแม้กระทั่งหนุ่มหุ่นล่ำที่พยายามทำให้สาวสวยประทับใจ และแม่เฒ่าที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน
มนุษย์โบราณพวกนี้รู้จักที่จะรัก เล่นสนุก สร้างมิตรภาพความผูกพันธ์และแก่งแย่งเพื่อสถานภาพและอำนาจ แต่พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้แตกต่างไปจากพฤติกรรมของพวกชิมแปซี บาบูน หรือช้างเลยดังนั้น พวกเขาจึงไม่ได้พิเศษไปกว่าสัตว์อื่นๆ
แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครเลย แม้แต่มนุษย์เองที่จะเฉลียวใจว่าวันหนึ่งลูกหลานของพวกเขาจะสามารถขึ้นไปเดินบนดวงจันทร์ แยกอะตอม วัดหน่วยรหัสพันธุกรรม และเขียนหนังสือบอกเล่าประวัติศาสตร์ได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ก็คือ พวกเขาเป็นเพียงสัตว์ที่ไม่ได้สลักสำคัญ และไม่ได้ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมมากไปกว่ากอริลลา หิ่งห้อยหรือแมงกะพรุนเลย
บทความต่อไปตอนที่ 1 จะมากล่าวถึงหนึ่งในความลับที่ถูกปิดบังไว้อย่างมิดชิดที่สุดทางประวัติศาสตร์ ว่าทำไมโฮโมเซเปียนส์ (จะมาขยายความในบทต่อไป) ถึงคิดมาตลอดว่าตนเองต่างจากสัตว์ชนิดอื่น แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ความจริงเลย ความจริงก็คือเราเป็นสมาชิกของวงค์ที่ใหญ่และสมาชิกที่ชอบส่งเสียงเอ็ดอึงเป็นพิเศษ เรียกว่า "วานรยักษ์" (great apes) นั่นเอง
ฝากติดตามบทต่อไปด้วยนะครับ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
