24 ก.พ. 2022 เวลา 01:00 • การเกษตร
ปลูกผักสลัดแบบลงดินหรือแบบไฮโดรโปนิกส์ดีกว่ากัน?
เชื่อว่าคำถามนี้น่าจะต้องถูกยกขึ้นมาถกเถียงหรือเปรียบเทียบบ่อย ๆ สำหรับคนที่คิดจะเริ่มปลูกผักสลัด ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นคำถามที่ว่าแบบไหนดูแลง่ายและประหยัดกว่ากัน และสำหรับโพสต์นี้เราก็จะมาสรุปข้อมูลเพื่อเปรียบระหว่างการปลูกทั้งสองแบบกันเผื่อว่าจะเป็นแนวทางสำหรับใครที่สนใจอยากจะปลูกผักสลัดไว้ทาน
1. "การปลูกแบบลงดิน"
วิธีการปลูกแบบเบสิคพื้นฐาน หากพูดถึงการปลูกแบบออร์แกนิคก็ต้องเป็นการปลูกแบบลงดินนี่แหละ ซึ่งเป็นการปลูกที่มีความเป็นธรรมชาติมากเพราะด้วยปุ๋ยที่เลือกใส่เข้าไปเราสามารถเลือกเป็นปุ๋ยที่เป็นปุ๋ยจุลินทรีย์ได้ มั่นใจได้ว่าไม่มีสารเคมีตกค้าง แถมยังมีความประหยัดมากกว่าในขั้นต้นของการเริ่มลงทุนปลูก ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีของการปลูกในลักษณะนี้แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้การลงทุนในขั้นต้นจะถูกกว่าแต่ในระยะยาว ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก็อาจมีเพิ่มมากกว่าเช่น การรดน้ำที่อาจต้องใช้ปริมาณเยอะกว่า หรือค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากในการปรับสภาพดินทุกครั้งเมื่อเริ่มทำการปลูกใหม่ในแต่ละครั้ง นอกจากนี้พื้นที่ในการปลูกก็ยังต้องใช้พื้นที่ที่มากกว่าด้วย
ระยะเวลาและการเติบโตของผัก : ระยะเวลาเติบโตอาจใช้เวลาที่มากกว่าการปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ และตัวผักก็อาจมีความกรอบเด้งน้อยกว่าและในระหว่างการดูแลก็จำเป็นที่จะต้องคอยกำจัดวัชพืช ควบคุมธาตุอาหารในดิน และปัจจัยของสภาพแวดล้อมในดินอื่น ๆ อยู่ตลอดอีกด้วย
2. "การปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์"
อีกหนึ่งวิธีการปลุกยอดฮิตเป็นการปลูกด้วยระบบน้ำ และถูกพัฒนาต่อยอดการปลูกไปอีกหลาย ๆ แบบเช่นการปลูกในระบบน้ำนิ่งที่มักจะปลูกในกล่องโฟม หรือในระบบน้ำวนที่ปลูกในรางผัก ซึ่งการปลูกในลักษณะนี้จะไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ที่เยอะและยังสามารถออกแบบพื้นที่การปลูกได้อีกด้วยเพราะเราสามารถวางตัววัสดุปลูกได้ทั้งในแนวนอนและในแนวตั้ง ดูแลง่ายประหยัดเวลาแถมยังให้ผลผลิตที่ทั้งมีคุณภาพและรวดเร็วอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามการปลูกแบบนี้ก็ยังมีต้นทุนในการเริ่มปลูกค่อนข้างสูงในเรื่องของอุปกรณ์การปลูก เช่นตัวกล่องโฟมสำหรับระบบน้ำนิ่งหรือรางปลูกและระบบไฟฟ้าสำหรับการปลูกแบบน้ำวน
ระยะเวลาและการเติบโตของผัก : ระยะเวลาเติบโตจะใช้เวลาในการเติบโตที่ค่อนข้างเร็ว ผักจะมีความกรอบมากกว่าการเลี้ยงในดิน เมื่อมีการเก็บเกี่ยวแล้วปุ๋ยที่ใช้ปลูกก็สามารถนำกลับมาใช้ต่อได้ซึ่งเรียกว่าปุ๋ย A B เป็นปุ๋ยชนิดน้ำที่ใช้ในการปลูกผัก และยังต้องทำการวัดค่า PH และค่า EC พร้อมกับระวังเกี่ยวกับปัญหารากเน่าและโรคของผักในทุก ๆ วันระหว่างการเลี้ยงผัก
การเลี้ยงผักใน 2 แบบนี้นับว่าเป็นวิธีการปลูกที่ยอดนิยมทั้ง 2 แบบสำหรับคนเริ่มปลูกผัก ซึ่งมุมมองของแอดมิน แอดมินคิดว่าการปลูกในลักษณะลงดินและการปลูกในระบบไฮโดรโปรนิกส์แบบน้ำนิ่งนั้นจะเหมาะมากสำหรับการเพิ่งเริ่มปลูกในระดับผักสวนครัวเพราะการลงทุนในขั้นแรกไม่สูงมาก ส่วนการตัดสินใจเลือกก็สามารถเลือกได้ตามความสะดวกและความถนัดของแต่ละคนได้เลย ส่วนในระบบรางน่าจะมีความเหมาะสมมากกว่าในระบบฟาร์มเพราะให้ผลผลิตที่รวดเร็วบวกกับคุณภาพของผักที่กรอบและฉ่ำ
โฆษณา