11 มี.ค. 2022 เวลา 13:38
อียูคะ ตื่นค่ะ!
หลังจากปูตินโชว์ความเกรี้ยวกราด บุกยูเครนรัวๆ นานาชาติต่างประนามเหยียมหยาดในการทำสงครามกันอย่างรัวๆ
2
แต่เนื่องจากยูเครนเอง นางไม่ได้เป็นสมาชิก NATO บรรดาประเทศต่างๆจึงเหนียมอายกันมากๆในการเข้าไปช่วยยูเครน เด่วส่งเงินบ้าง ส่งเครื่องบินกรุบกริบบ้าง สักพักก็เริ่มจอง Airbnb ไปแล้ว และที่เห็นว่าแรงที่สุดก็คือมาตรการแบนทางการเงินต่างๆ ที่ทำให้ธนาคารรัสเซียถึงกับสิ้นชีพิตักษัยไปเป็นระนาว ธนาคารกลางรัสเซียถึงกับต้องขึ้นดอกเบี้ยจาก 9.5% มาที่ 20% แบบอึดใจ เพราะกลัวเงินไหลออกรัว(ซึ่งก็ออกไปแล้วแหละ) และผลที่ตามมาจากการแบนรัสเซียก็คือค่าเงินรัสเซียที่อ่อนค่าอย่างรวดเร็ว และนี้ขนาดยังไม่พูดถึงโอกาสการผิดนัดชำระหนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นไปอีก
3
ทั้งหลายทั้งปวง อย่าคิดว่าปูตินจะยอมให้ตบอยู่ฝ่ายเดียว เพราะถึงแม้จะด้อยกว่าด้วยพระยศ แต่รัสเซียก็ถือว่าเป็นลูกพระยานาหมื่น เป็นหนึ่งในมหาอำนาจที่ถือสำรองน้ำมันเยอะที่สุดในโลก(อันดับ6ได้) เพราะฉะนั้นเจอฟาดกลับแน่ ด้วยวิกฤตพลังงาน โดยเฉพาะนังพวกยุโรป อยู่ดีดี แกว่งเท้าหาเสี้ยนหรอกรึ
2
โดยล่าสุดเมกาออกมาบอกว่า แบนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียเป็นที่เรียบร้อย ส่วนยุโรปบอกว่าจะลดการน้ำเข้าเหลือเพียง1/3 จากเดิมเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่า ราคาน้ำมันก้อขึ้นมาเรื่อยๆประหนึ่งทอง
2
การแบนของเมกาที่ทำได้ 100% นั้นก็เป็นเพราะว่านางไม่ได้พึ่งพาพลังงานจากรัสเซียเท่าไหร่หรอก ในขณะที่ยุโรปเนี่ยสิ แบนไปก็เหมือนกระทืบเท้าตัวเอง แต่ก็ต้องทำเพราะถ้ายอมให้รัสเซียบุกยูเครนได้ จะเป็นเหมือนสมัยนาซีหรือป่าว หรือจะมาบุกเอาอะไรเพิ่มอีกหรือป่าวก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นเจ็บเท้าแค่ไหน ก็ต้องยอม
1
ซึ่งเอาจริงๆคือ แอบงงนะว่าทำไมยุโรปถึงยังได้พึ่งพาพลังงานจากรัสเซียมากมายขนาดนี้ ทั้งๆที่ก็ควรจะรู้มาก่อนบ้างไหมว่ามีสิทธิ์โดนปูตินฟาดแบบนี้บ้าง ตอนไครเมียแกไม่เอะใจบ้างเลยเรอะ
โดย 20% ของการใช้พลังงานทั้งหมดของยุโรปมาจากรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเอย แก๊ซเอย หรือถ่านหินเอย ซึ่งน้ำมันเนี่ยก็อาจจะยังไม่ได้วุ่นวายมากนักเพราะยุโรปเองก็ยังพอหาซื้อได้จากคนอื่นอีก แต่อีแก๊ซเนี่ยนะสิ จะยังไง ก็เพราะมันต้องใช้ท่อส่งอ่ะนะ มันวุ่นวายมากๆ โดยเฉพาะประเทศเยอรมัน(ประเทศพี่น้องของเรา😝)ที่เรียกได้ว่า บาปกรรมในครั้งนี้มาจากการดำเนินนโยบายผิดที่ผิดทางไป ตั้งแต่การตัดสินใจทะยอยปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่แทนที่จะเพิ่มการลงทุนโรงไฟฟ้าสะอาด เพื่อมาชดเชยการผลิตพลังงานของตัวเองที่กำลังจะหายไป แต่ก็หาได้ทำไม่ ทำให้ยิ่งพึ่งพิงรัสเซียเข้าไปอีก
1
ซึ่งอีการพึ่งพิงแก๊ซจากรัสเซียเนี่ยก็ต้องย้อนไปถึงสมัยปี 1960 เพราะตอนนั้นเยอรมัน นางอยากเป็นฟีลลิ่งกาวใจระหว่างรัสเซียกับโลกตะวันตก เพราะงั้นพอรัสเซียเริ่มที่จะส่งออกแก๊ซได้ในช่วงปี 1980 กว่าๆ นางก็ไม่รีรอรีบสร้างท่อมาเชื่อมต่อเร็วไว ซึ่งตอนนั้นเมกาก็ด่าด้วยนะว่าทำทำเพื่ออออ ยิ่งทำแบบนี้แกก็ยิ่งไปพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียนะสิ
2
เยอรมันตอบกลับด้วยฟีลลิ่งใสๆว่า ทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะอยากดึงรัสเซียให้มีความเป็นตะวันตกมากขึ้น ดึงเค้ามาเป็นมิตร ดีกว่าขับไล่ไสส่งเค้าออกไปนะเธอ ซึ่งก็อาจจะถือว่าทำถูกในช่วงแรก แต่ความพลาดของเยอรมันก็คือไม่ได้มีการกระจายความเสี่ยงลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียมากเพียงพอ อันเป็นผลจากที่นิสัยของนางชอบดำเนินนโยบายแบบเกินดุล(ไม่ชอบกู้) เหนียมอายเรื่องการกู้มากเกินไป จนลืมไปว่าเรื่องนี้ก็สำคัญ ทำให้ไม่ได้ลงทุนด้านพลังงานทางเลือกเท่าไหร่นัก
2
คิดดูนะ เงินลงทุนสุทธิอ่ะ นางติดลบตั้งแต่ปี 2002-2018 อ่ะเธอ มันหมายความว่าไร ก็หมายความว่านอกจากนะไม่ได้ลงทุนอะไรเลยแล้ว ของเก่ายังเสื่อมไปด้วยอีกกกกก เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจว่ายุโรป โดยเฉพาะเยอรมันคงจะต้องรับผลกรรม ด้วยบุญบาปที่ไม่ได้ลงทุนในช่วงที่ควรจะลงทุน
2
ก็เนี่ย ตอนดอกเบี้ยต่ำๆไม่ลงทุนกันตั้งแต่เนิ่นๆ
แต่ก็นั่นแหละ ด้วยสงครามที่ประทุ เชื่อเลยว่ามันคือ Wake up call ของยุโรป ที่จะต้องสนใจเรื่องความมั่นคงทางด้านพลังงานมากขึ้น และพลังงานสะอาดนั่นแหละคือคำตอบ
ต่อจากนี้ มั่นใจได้เลยว่ายุโรปคงจะต้องทุ่มทุกอย่างด้านพลังงานทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นรถไฟฟ้า, โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดต่างๆ เพราะท้ายที่สุดมันไม่ใช่แค่เรื่องสภาวะโลกร้อนเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่มันรวมไปถึงความมั่นคงด้านพลังงานของทวีปยุโรปเลยแหละ
โฆษณา