🧠 คุณคิดยังไงกับมูลค่าของสินทรัพย์ในตลาด ณ ขณะนี้
𝙍𝙖𝙮 : ตอนนี้ผมมองเรากำลังอยู่ในช่วงการเดินทางของคนที่โง่เขลา
ถ้าผมยังไม่มี Position ในตลาดตอนนี้ ผมจะยังไม่เข้าตลาด
มันเป็นช่วงที่ยากมากๆ สถานการณ์ในปัจจุบันมันยังไม่หลายสิ่งที่เป็นเครื่องหมายคำถาม และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดการณ์ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต (เช่นภาวะสงคราม เงินเฟ้อ นโยบายทางการเงินต่างๆ)
🧐 แต่ตอนนี้นักลงทุนต้องตระหนักถึง 2 เรื่อง
1.เงินสดไม่ใช่สินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพราะมีปัจจัยสำคัญคือ "เงินเฟ้อ" มันเป็นตัวกัดกินมูลค่าเงินสดเราไปเรื่อยๆ ดังนั้นเราต้องระวังตรงนี้ และพยายาม Balance พอร์ตการลงทุนทั้งหมดของพวกเรา
ในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับฐานอย่างแรง หุ้น Growth ที่มีความคาดหวังสูงๆ ปรับตัวลง เห็น Bond yield ที่กำลังปรับเพิ่มสูงขึ้น เราเห็นตลาดทองเต็มไปด้วยความผันผวน ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือทำความเข้าใจกับเรื่องเหล่านี้ และจัดพอร์ทให้ Balance ระหว่างแต่ละสินทรัพย์เสี่ยงให้ผ่านช่วงเหตุการณ์นี้ไปให้ได้
(Ray พูดถึงการกระจายความเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงเพราะไม่มีใครที่สามารถคาดการณ์ตลาดได้ พยายามคุมความเสี่ยงให้ดีที่สุด)
กลับไปที่ Basic ทุกๆคนทั้งนักลงทุนและรัฐบาลประเทศต่างๆควรทำคือ "หาเงินให้ได้มากกว่าที่ใช้จ่าย"
📍 ในช่วงที่ผ่านมามันเป็นเช่นนั้น Dollar นับเป็นสกุลเงินหลักของโลกที่ใช้ในการลงทุนและการทำการค้า มันเลยทำให้ US Dollar นั้นกลายไปเป็นสกุลเงินดับหนึ่ง ในโลกธุรกิจ และเงินสำรองระหว่างประเทศ เมื่อทุกประเทศถือดอลล่าและต้องการดอลล่า มันเลยทำให้สหรัฐอเมริกาเข้ามาอิทธิพลอย่างมาก (สังเกตจากสงครามรอบนี้พออเมริกาเริ่ม Sanction ตัดรัสเซียออกจากระบบเงินทุนของโลก รัสเซียก็เละเลย)
แต่มีเรื่องอีกอย่างที่ต้องรู้จากประวัติศาสตร์นั้นคือเงินนั้นถูกด้อยค่าและทำลาย เมื่อคนส่วนมากเริ่มไม่อยากถือเงินสกุลนั้น ไม่อยากถือ Bond ไม่อยากกู้หนี้/ให้ยืม ด้วยเงินสกุลนั้น เพราะถ้าเรามองตัวเราเอง สมมุติเราเป็นเจ้าหนี้ด้วยการถือตราสารหนี้ด้วยเงินสกุลนั้น แต่ระหว่างนั้นลูกหนี้ก็พิมพ์แบงก์เรื่อยๆเพื่อเอาเงินมาชดใช้เรา เพิ่มเงินในระบบมากขึ้น มันก็เหมือนทำให้หนี้ที่เราถืออยู่มันด้อยค่าลง
🇨🇳 ในขณะนี้ประเทศจีนและเงินหยวนเข้ามามีบทบาทในโลกการค้ามากขึ้นและไม่ได้เกิดเหตุการณ์เหมือนดอลล่าที่กล่าวมาข้างต้น
🇺🇸 ในขณะที่อเมริกาพิมเงิน สร้างหนี้ ทำนโยบายขาดดุลขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องมีการออก Bond เพิ่มมากขึ้น แล้วใครล่ะจะอยากซื้อเพราะมันเป็นแบบนี้ ? หรือนี้อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของระบบการเงินโลก ?
แน่นอนเงินที่ไม่อยากจะไปซื้อ Bond นั้นมันก็ต้องหาที่ลงทำให้มูลค่าของสินทรัพย์ต่างๆมันเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ส่วนทางอเมริกาเองก็เอาเงิน หนี้ใหม่ๆไปซื้อสินทรัพย์ของสถาบันต่างๆ พอสถาบันได้เงินมันก็เลยทำให้เงินในระบบเพิ่มสูงขึ้นอีก มันเลยทำให้เงินยิ่งด้อยค่า เพราะเงินยิ่งถือนานกลายเป็นมูลค่าลดลง (ของเท่าๆเดิม เงินเพิ่มขึ้น ราคาของก็เพิ่มขึ้น เงินสดที่อยู่ก็จึงมีมูลค่าลดลง)
🧐 คุณคิดยังไงกับประเทศจีน ที่คุณเคยบอกว่าจีนอาจจะขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางการเงินโลกเทียบเคียงกับสหรัฐอเมริกา
𝙍𝙖𝙮 : ผมเองเริ่มลงทุนในจีนตั้งแต่ 1984 ผมใช้เวลาศึกษาจีนอยู่นานจนถึงจุดที่ผมคิดว่าผมเข้าใจประเทศจีน ซึ่งหลายๆคนที่เพิ่งเข้ามาอาจจะยังไม่เข้าใจและเกิดความผิดพลาดในการลงทุนที่จีน
สิ่งที่คุณต้องรู้คือเมืองจีนถือว่ามีความสำเร็จสูงมากๆรายได้ต่อหัวประชากรนั้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 26 เท่าหากนับตั้งแต่ปี 1964 แน่นอน มันมีคำว่า "Common prosperity" ซึ่งคือการตั้งเป้าหมายว่าความมั่งคั่งจะถูกกระจายให้กับประชาชนทุกคน ไปพร้อมๆ กับการดูแลความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเงิน
และสิ่งนี้เองทำให้เกิดนโยบายต่างๆจากทางรัฐบาลของจีน รัฐบาลไม่ได้เอาเงินจากกระเป๋าคุณไป แต่แค่พยายามไม่ให้เงินอยู่ในมือคนหรือกลุ่มคน กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไป
สิ่งนี้มันเลยทำให้เกิดคำถามว่า แล้วอย่างนี้ความอยากทำธุรกิจ ความProductive มันจะลดลงหรือไม่ ? คำตอบคือไม่ เพราะการที่เงินถูกกระจายและคนในประเทศมีเงินมากขึ้นมันก็จะทำให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศมันเลยทำให้ Ray นั้น มอง Positive ต่อการลงทุนในจีน
และจากการที่ตลาดทุนในจีนถูกพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ มันเลยทำให้ธุรกิจในจีนสามารถระดมทุนได้อย่างรวดเร็ว เติบโตได้เร็วขึ้น
𝙍𝙖𝙮 เราถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นประเทศมหาอำนาจโลกนั้นล้วนมากจากการพัฒนาตลาดทุน ดัตซ์ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา และตอนนี้กำลังวิ่งมาที่จีน
สิ่งที่จีนทำตอนนี้คือพยายามเข้ามามีบทบาทในการค้าโลกมากขึ้นซึ่งอาจจะมีผลต่อระบบเงินทุนสำรองของโลกในอนาคต
✨ สิ่งที่อเมริกาพยามทำตอนนี้คือต้องหยุดพิมพ์เงิน ลดงบดุล และอาจจะต้องถึงขึ้นภาษี
จากประวัติศาสตร์พบว่าเมื่อมีเงินเฟ้อ ลดการใช้ใช้จ่าย และการเพิ่มภาษีอาจจะทำให้ความไม่สงบได้ (เค้าเล่าถึงเหตุการณ์สงครามกลางเมืองในยุคโรมัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบอาณาจักร)
👌 มี 3 เรื่องที่ต้องจับตาตอนนี้ (Ray ก็ไม่รู้จะจบยังไง แต่เค้าเล่าให้ฟังว่า ทุกวิกฤตที่เค้าเคยเจอมันจะเป็นสิ่งที่เค้าไม่เคยสัมผัสมาก่อนซึ่ง 3 เรื่องต่อจากนี้อาจจะทำให้เกิดวิกฤตรอบใหม่ได้ในมุมมองเค้า)
1.ภาวะเงินล้นระบบและหนี้มากเกินไปในภาวะดอกเบี้ยต่ำ หากการดึงเงินกลับเร็วเกิน ขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป รวมถึงใช้วิธีผิดๆ ในการแก้ปัญหาหนี้ จะทำให้เกิดการขาดสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ อาจจะทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่ได้ (Big Dept Crisis)
2.ช่องว่างทางฐานะการเงิน (Wealth Gap)เค้าบอกว่าปัญหานี้เกิดมากขึ้นและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สินทรัพย์ส่วนใหญ่ของโลกอยู่ในคนไม่กี่กลุ่ม อาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สงบตามมาได้ (ทั้งในประเทศ และระหว่างประเทศ)
3.การเปลี่ยนแปลงของ World order ยักษ์ชนยักษ์ ที่ผ่านมา USA คือ No.1 ของโลกมาตลอด แต่ตอนนี้จีนขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงที่สำคัญ แน่นอนว่าอเมริกาคงไม่ยอม และจีนก็คงจะพยายามอย่างไม่หยุดยั้ง สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ คือการแข่งขันของ 2 มหาอำนาจ เราไม่อาจจะคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
บริหารจิตใจ และความเสี่ยงของการลงทุนให้ดีๆนะครับผม
สรุปโดย
หมอชาย
หุ้นพอร์ทระเบิด 💣💥
สำหรับวันนี้สวัสดีครับ
(คลิปเต็มๆอยู่ใน Comment คร๊าฟ)
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดบัญชี ค่าคอมหุ้น 0.05%
TFEX สัญญาละ 18-20
กับโบรคเกอร์
แนะนำหุ้นโดยที่ผู้แนะนำการลงทุนที่มีใบอนุญาต
แจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรทาง INBOX ได้เลยครับ
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
