23 มี.ค. 2022 เวลา 06:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปเคาะ 10 มาตรการช่วยลดค่าครองชีพ
วันที่ 22 มี.ค.65 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการมาตรการลดค่าครองชีพ และมาตรการลดภาระราคาพลังงานให้กับประชาชนจากสถานการณ์สงครามระหว่างยูเครน - รัสเซียในช่วง 3 เดือน ตั้งแต่เดือน พ.ค. - ก.ค.2565
1
สรุปเคาะ 10 มาตรการช่วยลดค่าครองชีพ
จากสถานการณ์ความผันผวนของราคาพลังงาน ที่สืบเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและการขนส่งสินค้าและบริการต่าง ๆ ทำให้ค่าครองชีพมีการปรับตัวสูงขึ้น และคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะไม่จบลงโดยเร็ว ครม.จึงเห็นชอบ 10 มาตรการดังนี้
1. เพิ่มเงินช่วยเหลือเพื่อซื้อก๊าซหุงต้ม สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน เพิ่มเงินจากเดิม 45 บาท เป็น 100 บาท / 3 เดือน
2. ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 5,500 คน
3. ช่วยเหลือค่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 250 บาท/เดือน ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก 157,000 คน และกำกับราคาการให้บริการเพื่อให้ประชาชนที่ต้องใช้ จยย.รับจ้างมีค่าใช้จ่ายเท่าเดิม
4. คงราคาขายปลีกผู้ที่ใช้ก๊าซ NGV ไว้ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม
5. ผู้ขับขี่แท็กซี่มิเตอร์ภายใต้โครงการ "ลมหายใจเดียวกัน" สามารถซื้อก๊าซได้ในราคา 13.62 บาท/กิโลกรัม
6. ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน โดยลดค่า Ft ลง 22 สตางค์ต่อหน่วยในช่วงเดือนพ.ค. - ส.ค.
7. ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาท/ลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. 2565 จากนั้น รัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่ง
8. กำกับดูแลการปรับราคาก๊าซหุงต้มในช่วงตั้งแต่เดือน เม.ย. - มิ.ย. โดยใช้กองทุนน้ำมันเข้าไปช่วยลดผลกระทบจากการปรับราคาให้ไม่ขึ้นสูงเกินไป
9. ลดอัตราเงินสบทบของนายจ้างและลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จาก 5% เหลือ 1% เพื่อให้ลูกจ้างและนายจ้าง สามารถมีกำลังในการใช้จ่ายและผู้ประกอบการสามารถมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจในช่วงถัดไป
10. ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จาก 9% เหลือ 1.9% และลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ลงเหลือ 42 – 180 บาทต่อเดือน
โฆษณา