มะยงชิด
เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน ผลไม้ยอดนิยมอย่างมะยงชิดก็เริ่มเข้าสู่ตลาด มะยงชิดหรือมะปรางลูกเท่าไข่ไก่ จะมีรสหวานอมเปรี้ยว จะกินแบบสดก็ได้ หรือจะนำไปทำเป็นขนมก็ได้ ในประเทศไทยแหล่งที่ปลูกมะยงชิดคือ นครนายก ซึ่งที่นครนายกมะยงชิดจะมีรสหวาน เนื้อหนา เมล็ดเล็ก
มะยงชิด
ความแตกต่างของมะยงชิดและมะปราง
มะยงชิด - เนื้อหวานเปลือกเปรี้ยว ผลสีเหลืองออกส้ม รสชาติจะหวานเด่นกว่าเปรี้ยวมะปราง - ทั้งเนื้อและเปลือกจะมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน ผลสีเหลืองนวลหรือเหลืองออกทอง รสชาติเปรี้ยวจะนำหวานมากกว่า
โทษของมะยงชิด
การบริโภคมะยงชิดสำหรับผู้ป่วยบางโรคควรจำกัดปริมาณในการกิน เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรจะทานในปริมาณจำกัด เพราะมะยงชิดมีทั้งน้ำตาลฟรุกโทส กลูโคสและซูโคส
ประโยชน์ของมะยงชิด
1. ต้านอนุมูนอิสระ
มีเบต้าแคโรทีนจัดเป็นสารต้านอนุมูนอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ พบได้ในผักผลไม้กลุ่มสีส้ม สีเหลือง ซึ่งยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงอีกด้วย
2. บำรุงสายตา
เบต้าแคโรทีนนั้นเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอที่มีคุณสมบัติช่วยบำรุงสายตา
3. ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
มีวิตามินซีที่จะช่วยป้องกันการเกิดเลือดออกตามไรฟัน ทั้งยังช่วยบำรุงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่ให้ป่วยง่ายโดยเฉพาะโรคหวัดต่าง ๆ
4. เพิ่มความสดชื่น
5. ช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูก
มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่สำคัญต่อกระดูก มีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนและโรคกระดูกเสื่อม
#สาระจี๊ดจี๊ด
นอกจากมะยงชิดแล้วหลายคนยังไม่รู้ว่ามีมะยงห่างด้วย ซึ่งมะยงห่างนั้นจะแตกต่างกับมะยงชิด คือ จะมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน มะยงห่างคือมะปรางผลโตแต่เม็ดเล็ก ซึ่งปัจจุบันมะยงห่างจะหากินได้ยาก เพราะคนนิยมกินมะยงชิดมากกว่า จึงไม่ค่อยมีคนนิยมปลูกมากนะ
#Wasabi ขอเพียงมีส่วนเล็ก ๆ ที่ช่วยให้คุณ!
“เจริญเติบโต ก้าวหน้า สำเร็จ อย่างภาคภูมิใจ”
#สาระจี๊ดจี๊ด #Wasabi #ความรู้ขึ้นสมอง
