3 เม.ย. 2022 เวลา 09:21 • ความคิดเห็น
หากคุณวัดความมีอะไรเป็นของตัวเองของกลุ่มคนในวัย 30 จากการมีบ้าน มีคอนโด หรือมีรถยนต์ คุณก็อาจเข้าใจอะไรผิดมหันต์ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ มีบ้านหรือคอนโด ที่ยังติดจำนองเงินกู้สินเชื่อบ้านไว้กับธนาคาร เอกสารโฉนดตัวจริงยังไม่ได้มาครอบครองเลยค่ะ ได้แค่นอนกอดสำเนา เพราะโฉนดตัวจริงนั้น ธนาคารผู้ให้กู้เขาเอาไปเก็บไว้เป็นหลักประกัน รถยนต์ก็เช่นเดียวกัน ยังติดไฟแนนซ์ไว้กับธนาคารอยู่เลย เอามาขับไปทำงาน หรือขับโฉบไปอวดเพื่อนๆญาติๆ แล้วก็ต้องผ่อน เสมือนเช่ารถใหม่ขับก็เท่านั้นเอง (เฉลี่ยใช้เวลาผ่อนกันกว่า 10 ปีขึ้นไปทั้งนั้นค่ะ)
2
หากคุณอยู่ในวัย 30 แล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน ตรงนี้ต่างหากที่เจ๋ง! น่าแปลก ที่พวกเราไม่ว่าจะร่ำเรียนกันมาสูงขนาดไหน เรากลับไม่เอาสิ่งที่เราร่ำเรียน มาประยุกต์ใช้ ทั้งกับชีวิตประจำวันและการทำงาน คุณแค่แตกให้ได้ว่าทรัพย์สินคืออะไรบ้าง และหนี้สินคืออะไรบ้าง คุณแค่บริหาร 2 อย่างให้สมดุล นี่คือคนที่เจ๋งที่สุดแล้วค่ะ แล้วไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์วิกฤตทางศก. หรือการเลิกจ้างกระทันหัน คุณก็ยังจะเอาตัวรอดได้เสมอค่ะ
ดังนั้น อย่าไปมองและวัดกันที่เปลือกเลย เราเคยเจอมาหลายเคส ท้ายที่สุดต้องขายรถโปะบ้าน หรือไม่ก็ขาดส่ง จนต้องถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ควรมองไปที่ปลายทาง ว่าคุณกำลังสร้างความมั่นคงให้กับตัวคุณเองไปทีละเล็กทีละน้อย อย่าใจร้อนค่ะ เมื่อถึงวันที่คุณพร้อม และมันเป็นวันของคุณ สิ่งที่คุณอยากมีอยากได้ คุณก็จะได้มันมาอย่างสง่าผ่าเผย ไม่ต้องนอนเอามือก่ายหน้าผากเครียดกับค่างวดที่จะมาถึง!
โฆษณา