4 เม.ย. 2022 เวลา 11:55 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการตอนที่ 4 : การคัดสรรทางธรรมชาติทำงานอย่างไร?
เราอาจทำความเข้าใจลักษณะการทำงานแบบสะสมค่อยเป็นค่อยไปของการคัดสรรทางธรรมชาติได้ด้วยตัวอย่างเชิงเปรียบเทียบต่อไปนี้.
สมมติว่า เราเลือกประโยคเป้าหมายมาประโยคหนึ่ง:
"เป็นมนุษย์เป็นได้เพราะใจสูง"
จากนั้น, เรานำเด็กน้อยน่ารักซุกซนไร้เดียงสาคนหนึ่งมานั่งหน้าคอมพิวเตอร์แล้วปล่อยให้เด็กน้อยกดแป้นพิมพ์ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ประโยค “เป็นมนุษย์เป็นได้เพราะใจสูง” ของพุทธทาสภิกขุออกมาอย่างถูกต้องทุกอักขระ.
ท่านผู้อ่านคิดว่าเราจะต้องใช้เวลานานเท่าไรกว่าที่เด็กน้อยผู้น่ารักคนนี้จะทำสำเร็จ?
คำตอบที่เป็นไปได้คือ ชั่วกัลปาวสาน!
1
มันอาจกินเวลาเนิ่นนานเป็นอสงไขยกันเลยทีเดียว. แต่หากเราตั้งโปรแกรมให้คอมพิวเตอร์คัดเลือกเก็บสิ่งที่เด็กน้อยพิมพ์ลงไป; ประโยคไหนที่ถูกพิมพ์ออกมาและมีความถูกต้องใกล้เคียงกับประโยคเป้าหมายก็ให้คัดเก็บไว้และถูกใช้เป็นประโยคตั้งต้นสำหรับการพิมพ์ครั้งต่อไป. ความถูกต้องค่อยๆถูกสะสมขึ้นเรื่อยๆที่ละนิด.
1
สมมติว่า ประโยคแรกที่เด็กน้อยพิมพ์คือ:
ก่คุ่นเพพำจ่ำเกพ้นกืก้ย
มันเป็นสิ่งที่ปราศจากความหมายโดยสิ้นเชิง! เราปล่อยให้เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสาของเราพิมพ์ต่อไป. และเมื่อใดก็ตามที่อักขระถูกต้องตรงกับประโยคตัวอย่าง, มันจะถูกบันทึกและคัดเก็บไว้ใช้ในประโยคต่อไป. การเปลี่ยนแปลงค่อยๆเกิดขึ้นทีละนิดและถูกสะสมไปเรื่อยๆ และเมื่อพิมพ์ไปถึงจุดหนึ่ง, ความเข้ารูปเข้ารอยก็ปรากฏตัว:
เตนดนษยเหณใตเปลาพรคสง
เปนพนษยเปณใกเปรายครสง
เป้นมนษยเปณใดเพราถคจสง
เป่นมนษยเปนใดเพราพไจส่ง
เป๊นมนษย์เป็นไดเพราะไจสง
เป็นมนุษย์เป็นได้เพราะใจสง
เป็นมนุษย์เป็นได้เพราะใจสุง
และในที่สุด:
เป็นมนุษย์เป็นได้เพราะใจสูง!
1
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วในบทความก่อนหน้า, การเปลี่ยนแปลงทางวิวัฒนาการเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป. หากวิวัฒนาการอาศัยการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด, มันก็ไปไม่ถึงไหน; หากปราศจากการสะสมลักษณะต่างๆ แบบทีละเล็กทีละน้อย, การคัดสรรทางธรรมชาติก็ไม่สามารถสร้างความสลับซับซ้อนขึ้นมาในสิ่งมีชีวิตได้.
เรื่องของโอกาสและความบังเอิญ (ในตัวอย่างเด็กกดแป้นนั้น, การที่เด็กจะกดอักขระตัวไหนเป็นเรื่องของความน่าจะเป็น) เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นในวิวัฒนาการ. ดังที่ Richard Dawkins (1986) กล่าวไว้ว่า: “Chance is a minor ingredient in the Darwin recipe, but the most important ingredient is cumulative selection which is quintessentially nonrandom.” โอกาสเป็นเพียงส่วนผสมที่ไม่สำคัญอะไรมากนัก. ส่วนผสมหลักที่สำคัญที่ทำให้วิวัฒนาการเกิดขึ้นได้คือการคัดเลือกที่มีการเก็บสะสมแบบค่อยเป็นค่อยไป, ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นแบบสุ่ม.
1
เราอาจมองการทำงานของการคัดสรรทางธรรมชาติเป็นเหมือนตะแกรงดักจับที่อนุญาตให้ของบางอย่างเท่านั้นที่ลอดผ่านตัวเองไปได้. ตะแกรงแห่งการคัดสรรทางธรรมชาติอนุญาตให้ลักษณะที่เหมาะสมต่อการอยู่รอดค่อยๆ ไหลผ่านไปได้เท่านั้น. ลักษณะที่ผ่านตะแกรงมาได้จะกลายเป็นลักษณะตั้งต้นสำหรับการไหลผ่านตะแกรงชั้นต่อไป.
ลักษณะต่างๆ ค่อยๆ ถูกปั้นแต่งอย่างปราศจากความจงใจ, และไหลลอดผ่านจากตะแกรงหนึ่งสู่ตะแกรงต่อไปอย่างไม่สุดสิ้น, กอปรกับระยะเวลาที่ยาวนานเป็นแสนเป็นล้านปี, ความสลับซับซ้อนอันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่เราพบเห็นอยู่อย่างล้นหลามงามงดในสิ่งมีชีวิตก็สามารถบังเกิดขึ้นได้. อย่างไรก็ตาม, เราต้องไม่ลืมว่า นี่เป็นเพียงตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นภาพเท่านั้น. ในความเป็นจริง, วิวัฒนาการไม่มีเป้าหมายที่มันจะต้องมุ่งพุ่งไปเพื่อบรรลุ. มันไม่ได้มุ่งเขียนประโยค “เป็นมนุษย์เป็นได้เพราะใจสูง” ขึ้นมาในสิ่งมีชีวิต.
2
นอกจากนี้, เนื่องจากการทำงานอันมืดบอดไร้การวางแผนล่วงหน้าของการคัดสรรทางธรรมชาติ, ลักษณะใดๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นมาใหม่จึงไม่ใช่การเกิดขึ้นใหม่ทั้งหมด: กล่าวคือ, ลักษณะใหม่ๆ ในสิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นโดยการคัดสรรทางธรรมชาติเกิดขึ้นจากการดัดแปลงต่อเติมมาจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว, เป็นการดัดเสริมเติมแต่งของลักษณะเดิม, ซึ่งช่วยให้เราสามารถสืบสาวเรื่องราวย้อนกลับไปทำความเข้าใจวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่มีบรรพบุรุษร่วมกันได้.
1
ลักษณาการเช่นนี้ได้ทิ้งร่องรอยแห่งความบกพร่องเอาไว้ในสิ่งมีชีวิตเป็นจำนวนมาก, ซึ่งถือเป็นหลักฐานอันทรงพลังที่ช่วยตอกย้ำถึงการทำงานอันมืดบอดของการคัดสรรทางธรรมชาติได้เป็นอย่างดี- มืดบอดในความหมายที่ว่า มันไม่รู้ว่ามันกำลังทำอะไรและทำงานไปโดยปราศจากเป้าหมายสูงสุดที่มันจะต้องบรรลุ.
2
หากการคัดสรรทางธรรมชาติสามารถคิดวางแผนล่วงหน้าและมีเป้าหมายในการออกแบบ, มันคงไม่ติดปีกให้กับนกที่บินไม่ได้ เช่น นกกระจอกเทศ. แต่เหตุที่นกกระจอกเทศมีปีกนั้นเป็นเพราะบรรพบุรุษของมันเป็นนกที่บินได้มาก่อน. ปีกในนกกระจอกเทศถือเป็น vestigial trait ซึ่งเป็นลักษณะที่เป็นประโยชน์ในบรรพบุรุษ; แต่สูญเสียหน้าที่ของมันไปหรือเปลี่ยนแปลงไปทำหน้าที่อื่น. ปีกในนกกระจอกเทศ, แม้ว่าไม่ได้มีไว้สำหรับการบิน, มีประโยชน์อย่างอื่น เช่น ช่วยในการทรงตัวเวลาวิ่ง, และขับไล่ศัตรู. ปีกของนกเพนกวินก็เช่นกัน. ปีกของมันกลายไปเป็นใบพายสำหรับว่ายน้ำ. สิ่งที่น่าสนใจก็คือ โครงสร้างกระดูกในใบพายของนกเพนกวินนั้นเป็นแบบเดียวกันกับโครงสร้างกระดูกในปีกของนกที่บินได้. อย่างไม่ต้องสงสัย, บรรพบุรุษของนกเพนกวินเป็นนกที่บินได้.
1
กล่าวโดยสรุป, การคัดสรรทางธรรมชาติเป็นกลไกหลักสำคัญของวิวัฒนาการ. มันทำงานอย่างมืดบอด, ทว่าก่อกำเนิดความงดงามอย่างอัศจรรย์น่าหลงใหลขึ้นมาในสิ่งมีชีวิต. มันเป็นนักออกแบบที่สร้างความสลับซับซ้อนในสิ่งมีชีวิตพร้อมทิ้งร่องรอยความผิดพลาดเอาไว้ให้เราเห็นมากมาย. การเข้าใจอย่างถูกต้องว่า การคัดสรรทางธรรมชาติทำงานอย่างไรช่วยให้เราสามารถมองเห็นความเป็นไปได้ของวิวัฒนาการ. และช่วยให้เราชื่นชมความงดงามของสรรพสัตว์ได้อย่างลึกซึ้งตรึงใจมากยิ่งขึ้นว่า สิ่งมีชีวิตทั้งหลายต่างก็ถูกเนรมิตขึ้นมาอย่างวิจิตรด้วยการคัดสรรทางธรรมชาติ- ด้วยสองมือเดียวกันของช่างทำนาฬิกาตาบอด.
2
บรรณานุกรม
Darwin, C. (1859) The Origin of Species. London: CRW Publishing Limited, 2004.
Dawkins, R. (1986) The Blind Watchmaker. London: Penguin Books.
โฆษณา