7 เม.ย. 2022 เวลา 12:24 • ข่าวรอบโลก
ปัญหาการเมืองของสีจิ้นผิง
Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร
โลกเราบางทีก็แปลกดีนะครับ ความสำเร็จในวันหนึ่งอาจกลายมาเป็นต้นตอของความล้มเหลวในวันรุ่งขึ้นก็ได้
1
เมื่อปลายปีที่แล้ว หลายคนในจีนมองว่าต้องสามัคคีกันต่อไปภายใต้ผู้นำที่แข็งแกร่งอย่างสีจิ้นผิง ซึ่งมีข้อดีมากมาย สีจิ้นผิงมีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ดีมากกับปูตินของรัสเซีย ซึ่งจะช่วยจีนทัดทานอำนาจของตะวันตก
3
ภายในจีนเอง มาตรการทางสาธารณสุขที่เข้มงวดทำให้จีนประสบความสำเร็จในการสู้กับโควิด ในด้านเศรษฐกิจ นโยบายร่ำรวยร่วมกัน (Common Prosperity) ของสีจิ้นผิงก็เป็นสโลแกนสำหรับจีนยุคใหม่ที่จะเติบโตต่อไปอย่างมีคุณภาพ
3
แต่ต้นปีที่ผ่านมา กลายเป็นว่าทั้งสามเรื่องกลับตาลปัตรอย่างไม่น่าเชื่อ
ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่แนบแน่นระหว่างสีจิ้นผิงกับปูติน ทำให้สีจิ้นผิงเดินเกมการเมืองระหว่างประเทศผิด ไปจับมือกับปูตินจนถูกประณามจากฝั่งตะวันตกว่าจีนสนับสนุนสงคราม
1
ส่วนมาตรการซีโร่โควิดก็ดูมีปัญหาท่ามกลางการล็อคดาวน์เซี่ยงไฮ้เพื่อต่อสู้กับโอไมครอน
ในด้านการผลักดันนโยบายร่ำรวยร่วมกัน ก็ทำเอาเศรษฐกิจจีนชะลอตัวจนหลายคนเริ่มกังวล
1
จากเดิมที่สีจิ้นผิงประกาศว่าปีนี้ต้องเป็นปีแห่งเสถียรภาพ เพราะจะมีวาระการต่ออายุให้ตนเป็นผู้นำต่อไปในการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ช่วงปลายปี แต่สามเดือนที่เพิ่งผ่านมา มีแต่ภาพความไม่มีเสถียรภาพท่ามกลางศึกนอกศึกใน
2
เรื่องแรก การจับมือของสีจิ้นผิงกับปูตินอย่างแนบแน่นก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว พร้อมกับประกาศความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศว่า “ไม่มีขอบเขต” แถมยังแถลงสนับสนุนจุดยืนของรัสเซียที่ต่อต้านการขยายอิทธิพลของนาโต้ ซึ่งแต่เดิมจีนไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือแสดงจุดยืนเรื่องการเมืองในยุโรปมาก่อน
1
หลายคนวิเคราะห์ว่า ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียที่ยกระดับขึ้น เป็นผลมาจากความสัมพันธ์ส่วนตัวที่แนบแน่นระหว่างสองผู้นำ เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าสีจิ้นผิงชื่นชมปูตินมาก ทั้งสองพบกันบ่อยครั้งและคุยกันถูกคอ แถมทั้งสองคนยังไม่พอใจตะวันตกเหมือนกันด้วย
3
จุดยืนที่จีนแถลงร่วมกับรัสเซียก่อนเกิดสงครามนั้น ไปไกลกว่าจุดยืนความสัมพันธ์จีน-รัสเซียที่มีมาแต่เดิม ที่ผ่านมา จีนพอใจที่รัสเซียคอยก่อความรำคาญให้กับตะวันตก ไม่ว่าจะในวิกฤตไครเมีย จอร์เจียหรือซีเรีย แต่จีนหลีกเลี่ยงมาตลอดที่จะประกาศว่ายืนข้างรัสเซียหรือมีท่าทีชัดเจนต่อการเมืองระหว่างประเทศในยุโรป
5
หลายคนมองว่าสีจิ้นผิงน่าจะประเมินพลาด จึงไปจับมือกับปูตินก่อนเกิดสงครามใหญ่ สีจิ้นผิงอาจประเมินว่ารัสเซียแค่ขู่ ไม่น่าบุกยูเครนจริง หรือประเมินว่าถึงบุกยูเครนจริง ก็น่าจะบุกในขอบเขตพื้นที่ที่จำกัดบริเวณชายแดน หรืออาจประเมินว่าสงครามจะจบลงอย่างรวดเร็วด้วยชัยชนะของรัสเซีย ซึ่งทั้งหมดล้วนไม่เกิดขึ้น
4
ผลก็คือ จีนเสียเปรียบทางการทูต เพราะไม่ว่าจีนจะเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหาทางออกอย่างสันติ แต่ตะวันตกก็มองว่าจีนยืนข้างรัสเซียไปเรียบร้อยแล้ว
2
มีคนถามว่าจะแคร์ตะวันตกทำไม คำตอบก็คือถึงแม้สีจิ้นผิงจะไม่ชอบตะวันตกอย่างไร แต่ในปัจจุบัน เศรษฐกิจจีนยังคงพึ่งพาตะวันตกสูงมาก
3
จีนยังต้องรอเวลาและต้องการสภาพแวดล้อมภายนอกที่มีเสถียรภาพ แต่กลายเป็นว่าตอนนี้ตะวันตกมองจีนด้วยความหวาดระแวงยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก เพิ่มแรงกดดันต่อจีนจากสงครามการค้าเดิมซึ่งก็ร้อนแรงมากอยู่แล้ว
5
มรสุมที่สองที่ซัดจีนจากภายในก็คือการระบาดของโอไมครอน จีนมีปัญหาเรื่องวัคซีนสองข้อ อย่างแรกคือวัคซีนจีนมีประสิทธิภาพต่ำกว่าวัคซีนฝรั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสู้กับสายพันธุ์ใหม่คือโอไมครอน อีกปัญหาคืออัตราฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุของจีนยังต่ำอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น ความสำเร็จที่ผ่านมาในการควบคุมการระบาดของจีนกลับหมายถึงระดับภูมิคุ้มกันหมู่ที่ต่ำมากในหมู่ประชากรจีน
5
ดังนั้น แม้ทั่วโลกจะเริ่มผ่อนคลายและกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่หากจีนผ่อนคลายตามบุญตามกรรม ก็จะเข้าขั้นหายนะแบบที่เกิดขึ้นในฮ่องกงก่อนหน้านี้ที่มีอัตราผู้เสียชีวิตต่อประชากรสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
2
จีนจึงต้องล็อคดาวน์เมืองใหญ่ที่สุดคือเซี่ยงไฮ้ ท่ามกลางคำถามว่าโอไมครอนติดง่ายและแพร่ง่ายกว่าสายพันธุ์เดิมหลายเท่าตัว การล็อคดาวน์ของจีนหากต้องการให้ได้ประสิทธิภาพดังเดิมจะต้องทำยาวนานเพียงใดและจะหาทางออกอย่างไร
3
มีคำถามว่าทำไมจีนจึงไม่ยอมฉีดวัคซีน mRNA ของฝรั่ง ข้อนี้ไม่มีใครรู้คำตอบแน่นอน มีคำอธิบายว่าเป็นเรื่องชาตินิยมที่จีนต้องการรอวัคซีน mRNA ของตนเอง แต่ด้วยการกลายพันธุ์ของโอไมครอน ทำให้อาจต้องรอการวิจัยและพัฒนาที่นานขึ้น
3
นอกจากนั้น ก็มีคำอธิบายว่าการผลิตวัคซีน mRNA ของไฟเซอร์ ซึ่งมีบริษัทจีนได้สิทธิในการผลิตสำหรับตลาดจีน ต้องอาศัยวัตถุดิบหลักในการผลิตนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งในมุมมองของรัฐบาลจีน จะทำให้จีนไม่มีความมั่นคงเรื่องวัคซีน (ผลิตเองไม่ได้ ถ้าฝรั่งไม่ส่งวัตถุดิบให้) ซึ่งในยุคสงครามการค้ากลายเป็นความกังวลที่สำคัญของรัฐบาล
4
มรสุมสุดท้ายก็คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจ นโยบายรุ่งเรืองร่วมกันที่สะท้อนผ่านการจัดการบริษัทเทคโนโลยีและภาคเอกชนของจีน รวมทั้งการควบคุมภาคอสังหาริมทรัพย์นั้น แม้ที่ผ่านมารัฐบาลจีนจะอธิบายว่าเป็นการซ่อมแซมหลังคาตั้งแต่ตอนแดดออก กล่าวคือกวาดบ้านครั้งใหญ่ในปีที่แล้ว ซึ่งจีนฟื้นจากโควิดก่อนเพื่อนและแทบไม่มีความกดดันในการเติบโตทางเศรษฐกิจ (ไม่ต้องทำอะไรมากก็เติบโตได้ในอัตราที่สูง)
2
แต่นักวิจารณ์มองว่า ปีที่แล้วกวาดบ้านแรงไป ผลคือเศรษฐกิจปีนี้ชะลอตัวและความเชื่อมั่นของตลาดและนักลงทุนตกต่ำกว่าที่คาด
3
สิ่งที่น่าสนใจมากในเดือนมีนาคมก็คือ รัฐบาลจีนเริ่มสวนกระแสท่านผู้นำอย่างชัดเจน ในคำแถลงของนายกฯ จีนในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติเมื่อต้นเดือนมีนาคม ไม่มีการกล่าวถึงนโยบายรุ่งเรืองร่วมกันของสีจิ้นผิง ส่วนรองนายกฯ หลิวเฮ่อที่ดูแลด้านเศรษฐกิจก็ออกมาประกาศตอบรับข้อกังวลต่างๆ ของนักลงทุน ส่งสัญญาณผ่อนคลายการควบคุมเอกชน ซึ่งทำให้หุ้นจีนกลับมาทะยานขึ้นอีกครั้งหลังจากตกต่ำต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน
7
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดทั้งหมดนี้ กลายเป็นปัญหาการเมืองของสีจิ้นผิง ทุกคนยังคาดหมายว่าสีจิ้นผิงจะได้ไปต่อ เพราะการเปลี่ยนม้ากลางศึกสำหรับจีนจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในเสถียรภาพยิ่งไปกันใหญ่ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างจากปลายปีที่แล้ว มรสุมสามลูกซ้อนทำให้แรงกดดันทางการเมืองต่อสีจิ้นผิงสูงขึ้น ทำให้เขาน่าจะต้องประนีประนอมมากขึ้นกับกลุ่มหัวก้าวหน้าในพรรค ซึ่งอาจทำให้เขาเลือกถอยกลับจากนโยบายอนุรักษ์นิยมแบบเดิม หันมาเน้นรักษาสมดุลกับฝ่ายหัวก้าวหน้าที่สนับสนุนเอกชนมากขึ้น
6
ทั้งหมดนี้จะสะท้อนผ่านการเลือกผู้นำสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์ 7 คน ในปลายปีนี้ว่าจะเป็นพรรคพวกสีจิ้นผิงทั้งหมดหรือจะมีการรักษาสมดุลระหว่างขั้วการเมืองต่างๆ มากขึ้นครับ
4
โฆษณา