13 เม.ย. 2022 เวลา 06:09 • การตลาด
Buy Now, Pay Later
แพลตฟอร์มชำระเงินตอบโจทย์คนมิลเลนเนียล
Buy Now, Pay Later (BNPL) หรือ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” เป็นรูปแบบการชำระเงินที่กำลังมาแรง โดยเฉพาะกับการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์การซื้อสินค้าของคนมิลเลนเนียลหรือ Gen Z ซึ่งหากมองเข้ามาที่ความหมายของรูปแบบ การชำระเงินดังกล่าวนี้ก็คือ บริการการเงินที่จุดขาย (Point of Sale Financing: POS) โดยจะอนุมัติให้ลูกค้าได้ใช้ผลิตภัณฑ์ และบริการก่อน และหลังจากนั้นค่อยผ่อนชำระค่าสินค้าและบริการเป็นขั้นตอนถัดไป
ความนิยมของ Buy Now, Pay Later นี้ เกิดขึ้นบนความนิยมของการซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เติบโต ค่อนข้างมากในช่วงการระบาดของโควิด – 19 โดยการผลักดันการเติบโตนั้นมาจากผู้เล่นในตลาดอีคอมเมิร์ซรวมถึงบรรดา ระบบเพย์เม้นต์ของดิจิทัล วอลเล็ท ที่มองเห็นพฤติกรรมการซื้อสินค้าของคนเจนนี้ จึงพัฒนารูปแบบการให้บริการขึ้นมาเพื่อ ตอบโจทย์พวกเขา
4
หากมองเข้ามาที่รายละเอียดของ Buy Now, Pay Later หรือซื้อก่อน จ่ายทีหลังนี้แล้ว หลายคนอาจจะมองว่า คล้าย กับรูปแบบของการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต ที่สามารถผ่อนชำระค่าสินค้าและบริการได้ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยตามที่กำหนด แต่สำหรับ Buy Now, Pay Later แล้ว จะแตกต่างตรงที่ไม่มีการคิดอัตราดอกเบี้ย โดยผู้ให้บริการจะวิเคราะห์ความ เสี่ยงจากข้อมูลของผู้ใช้บริการว่ามีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนก่อนที่จะอนุมัติ ซึ่งเป็นการใช้ระบบดาต้าเข้ามาเป็นตัวขับเคลื่อน ตามรูปแบบการทำตลาดในปัจจุบัน โดยจะมีระยะเวลาการผ่อนชำระในจำนวนงวดที่ไม่มากนัก ซึ่งผู้ใช้บริการมีตัวเลือกที่ยืด หยุ่น สามารถเลือกแบ่งชำระเงินได้เป็นงวดๆ เช่น ทุกๆ 2 สัปดาห์ หรือทุกๆ เดือน และสามารถชำระเงินสดผ่านธนาคาร หัก จากบัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตได้อัตโนมัติ
4
การชำระเงินในรูปแบบดังกล่าวนี้ กำลังมีเทรนด์การเติบโตที่น่าสนใจในทั่วโลกรวมถึงบ้านเรา เพราะสามารถตอบ โจทย์คนกลุ่มมิลเลนเนียลได้อย่างลงตัว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้คนกลุ่มนี้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการชำระเงินผ่านออนไลน์ได้เร็วขึ้น รวมถึงกล้าที่จะซื้อสินค้าราคาที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมการเติบโตของตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ ทำให้ไม่แปลกใจที่บรรดา ผู้เล่นในตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีระบบเพย์เม้นต์ของตัวเองหันมาทำตลาดในจุดดังกล่าวนี้มากขึ้น
จากผลสำรวจของ Allianz Life Insurance พบว่า กลุ่มมิลเลนเนียลซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของการชำระเงินในรูปแบบ นี้มีแนวโน้มที่จะซื้อของส่วนใหญ่ที่เจอจากทางโซเชียลมีเดีย รวมถึงรับอิทธิพลจากเพื่อนและผู้นำทางความคิด อินฟลูเอนเซอร์ ในโลกออนไลน์ คิดเป็นสัดส่วน 48% เพราะการที่ได้ซื้อของใช้ตามโซเชียลมีเดีย เสริมความมั่นใจให้ตัวเองและได้รับการยอม รับจากสังคม ด้วยเหตุนี้แพลตฟอร์ม Buy Now, Pay Later ส่วนใหญ่ ต่างทุ่มงบโฆษณาและพัฒนาการตลาดในโซเชียลมีเดีย ให้เข้ากับพฤติกรรมกลุ่มคนนี้หนาตามากขึ้น
มีการมองกันว่า ความนิยมของพฤติกรรมการซื้อแบบ Buy Now, Pay Later ที่ส่งผลต่อการเติบโตของแพลตฟอร์ม การชำระเงินในรูปแบบนี้ อาจจะเข้ามาเป็นแรงท้าทายสำคัญของธุรกิจบัตรเครดิต เพราะเป็นการเข้าถึงการซื้อที่ง่ายกว่า ไม่มี ค่าธรรมเนียม แถมบางครั้งยังปลอดดอกเบี้ย ซึ่งน่าจะเป็นแรงกระตุ้นให้ธุรกิจบัตรเครดิตต้องมีการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับ แนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
1
สำหรับในบ้านเรามีแพลตฟอร์มหลายแพลตฟอร์มที่เข้ามาทำ Buy Now, Pay Later ไล่ตั้งแต่ SPayLater ของ Shopee ที่เปิดตัวมารองรับกับการทำตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ โดยให้วงเงินค่อนข้างสูงถึง 1 แสนบาท และสามารถเลือกชำระได้ 2 แบบ คือหลังจากรับสินค้า 1 เดือน หรือเลือกผ่อน 3 งวด
1
Pay Next ของ True Money Wallet ที่เปิดตัวมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ใช้จ่ายค่าสินค้า และบริการ ผ่านแอปทรูมันนี่ วอลเล็ต ด้วยการให้วงเงินพร้อมใช้งานได้ทันที จำนวน 5,000 บาท (ลูกค้าบัตรทรูแบล็ค และเรดการ์ด ได้ วงเงินสูงสุด 10,000 บาท) พร้อมสิทธิ์ผ่อนชำระสูงถึง 5 เดือน ไม่จำเป็นจะต้องมีบัตรเครดิตหรือส่งเอกสารใดๆ เพิ่มเติม
atome แพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำตลาดนี้โดยเฉพาะ มีร้านค้าพันธมิตรหลายราย อาทิ Sephora, Agoda, EVEANDBOY, Charles & Keith, GQ ให้ผ่อนชำระได้ 3 เดือน ในวงเงินสูงถึง 10,000 – 20,000 บาท
Shop Now Pay Later แพลตฟอร์ม Buy Now, Pay Later ของ Grab ซึ่งเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์มมาเพื่อช่วยคนที่อยู่ในอีโคซิสเต็มของ Grab โดยเฉพาะไรเดอร์และคนขับรถให้สามารถซื้อโทรศัพท์มือถือในรูปแบบของซื้อก่อนจ่ายทีหลังได้
เป็นอีกแนวโน้มที่น่าจับตามองไม่น้อยทีเดียว....
1
โฆษณา