20 เม.ย. 2022 เวลา 14:04 • บันเทิง
เปิดแฟ้มคดีที่ 111 ผู้หญิง ‘ฆ่า’ ใครอย่าแตะ
#เหยื่อผู้แสนโชคร้าย
เรื่องราวนี้เริ่มต้นที่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ แชนด้า แชร์เรอร์ (Shanda Sharer) เกิดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 1979 ในโรงพยาบาลชุมชนของเมืองไพน์วิว (Pineville) รัฐเคนตั๊กกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านกีฬา เป็นนักกิจกรรมตัวยง
ต่อมาทางพ่อแม่หย่าร้างกัน ทำให้เธอตามแม่ไปอยู่รัฐอินเดียนา ในเดือนมิถุนายน ปี 1991 ถึงแม้เธอจะย้ายที่อยู่และโรงเรียนบ่อย แต่ความสามารถด้านกีฬาของเธอยังคงเฉิดฉายอยู่เสมอ
แซนด้า ได้ไปรู้จักกับเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งที่ชื่อว่า อแมนด้า เฮฟริท อายุ 14 ปี แต่การรู้จักกันครั้งนี้ จุดเริ่มต้นมาจากการทะเลาะกันจนถึงขั้นใช้ความรุนแรง แต่แล้วทั้งคู่ก็ได้สนิท และคบหากันในภายหลัง (ด้วยความที่เป็นโรงเรียนหญิงล้วน ความรักที่เกิดขึ้นจึงไม่แปลกอะไร)
#กำเนิดจากความรุนแรง
ก่อนหน้านี้ อแมนด้า มีแฟนชื่อ เมลินด้า เลิฟเลส (Melinda Loveless) และเธอคนนี้ก็เป็นคนที่นิยมความรุนแรง เจ้าอารมณ์ และเป็นบุคคลที่น่ากลัวที่สุดคนหนึ่งในโรงเรียนเลยก็ว่าได้
เธอเป็นเด็กท้องถิ่นของที่นี่ และโตกว่า แซนด้าถึง 4 ปี มีพ่อชื่อ แลรี่ (Larry Loveless) เขามักมีปัญหาทางจิตที่เกิดจากการไปรบที่สงครามเวียดนาม เขายังชอบขโมยชุดชั้นในของลูกสาวมาสวมใส่ และแต่งหน้าอยู่เป็นประจำ รวมถึงชวนคนอื่นมามีเพศสัมพันธ์กับเขาและตัวภรรยา แถมยังทำร้ายลูกๆ ของเขาอีกด้วย
แลรี่ เคยเป็นตำรวจ แต่เขากลับก่อเหตุทำร้ายชายแอฟริกัน-อเมริกันคนหนึ่ง โดยอ้างว่าคนนี้เป็นชู้กับภรรยาเขา ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง จนตัวเขาถูกไล่ออก และด้วยพฤติกรรมเหล่านี้ มันก็ส่งผลต่อครอบครัวของเมลินด้าเป็นอย่างมาก สมาชิกทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ตกต่ำลง จากเดิมที่มีรายได้ดี อยู่สุขสบาย กลายเป็นครอบครัวที่เต็มไปด้วยปัญหา จนถึงกับถูกฟ้องล้มละลาย แถมโดนทุบตีอยู่เป็นประจำ
จากความกดดันต่างๆ ในของชีวิต ทำให้ เมลินด้า กลายเป็นคนอารมณ์รุนแรง มีพฤติกรรมเกเร เป็นอันตพาลประจำโรงเรียน ทำให้เธอมีนิสัยเหมือนผู้ชาย จนได้คบกับอแมนด้า หญิงที่เขามาเติมความสดใสในชีวิตเธอ ซึ่งนั่นก็ทำให้ เมลินด้า มีพฤติกรรมหึงหวงตามมา
เพราะอแมนด้า ไปสนิทกับเพื่อนใหม่ที่พึ่งย้ายเข้ามาอย่าง แซนด้า จนทำให้ตัว เมลินด้า หึงและทำตัวแย่ๆ จนอแมนด้าหมดรักเธอไป ถึงแม้เธอจะตามง้อแค่ไหนก็ตาม
#วางแผนเชือด
เมลินด้า เห็นว่าตามง้อแฟนอย่าง อแมนด้า ไม่ได้ผล เธอจึงตัดสินใจเล็งเป้าไปที่ แซนด้า เพื่อนสนิทของเธอแทน แชนด้ามักถูกกลุ่มของเมลินด้าขู่ฆ่าอยู่บ่อยๆ ซึ่งตอนแรกก็ดูแค่เป็นการข่มขู่เฉยๆ แต่ภายหลัง เมลินด้า ให้เพื่อนหัวโจก 3 คน ซึ่งมีปัญหาครอบครัวเพื่อนๆ กัน วางแผนให้เก็บแซนด้าทิ้ง
พวกเธอเลือกคืนวันที่ 10 มกราคม 1992 โดยทั้ง 4 คน (เมลินด้าและเพื่อนอีก 3 คน) บอกกับทางบ้านว่าจะไปนอนค้างคืนที่บ้านเพื่อน จากนั้นก็มารวมตัวกันพร้อมมีดทำครัวขนาดใหญ่ใส่ในกระเป๋าเสื้อ แผนคือลักพาตัว แซนด้า แล้วตั้งใจขู่ให้กลัวไม่ให้มายุ่งกับคนรักของเธออีก
คนหนึ่งขับรถไปหา แซนด้า แล้วบอกว่าแฟนเธอให้มารับไปหา เมื่อแซนด้าขึ้นมาบนรถ เมลินด้าที่แอบอยู่ก็ลุกขึ้นเอามีดจี้คอเธอ จากนั้นก็พาไปที่ลับตาคน ให้เธอลงจากรถ ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออกแล้ว ตบแซนด้าแบบนับครั้งไม่ถ้วน
ด้วยความกลัว แซนด้ารับปากว่าเธอจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอแมนด้าอีก แต่ดูเหมือนเมลินด้าจะหยุดความบ้าคลั่งของเธอเอาไว้ไม่ได้แล้ว เธอชักมีดที่ตั้งใจว่าจะเอาไว้ขู่ มาปาดคอ แซนด้า แต่มีดไม่คมเท่าไหร่ เธอจึงเรียกเพื่อนมาจับตัว แซนด้าไว้ จากนั้นก็ใช้เท้าช่วยกดสันมีด เพื่อกระทืบให้มีดเฉือนเข้าในคอแซนด้า ตอนนี้ไม่มีใครหยุดความบ้าคลั่งของเมลิด้าได้อีกแล้ว ทุกคนต้องทำตามที่เธอสั่ง
2
จากนั้นก็กระหน่ำแทงไม่หยุด แต่แผลก็ไม่ลึกและแซนด้าก็ยังไม่เสียชีวิต จากนั้นเพื่อนอีกคนก็เอาเชือกมารัดคอแซนด้าจนหมดสติ พวกเธอทั้งหมดนำร่างของแซนด้าเอาไปไว้ที่รถ จากนั้นก็กลับบ้าน ทำความสะอาดเนื้อตัว แต่แล้วแซนด้าก็ตื่นขึ้นมาพร้อมเสียงกรีดร้อง ทำให้เมลิด้าและพวกจึงหยิบมีดมากระหน่ำแทง แต่เธอก็ยังไม่ตาย จนเมลิด้าหยิบเหล็กฟาดแซนด้าหลายครั้งจนกะโหลกร้าวและนิ่งไป
แผนต่อไปคือนำร่างของแซนด้าไปเผาในช่วงเช้ามืด ซึ่งดูเหมือนว่าระหว่างนั้นแซนด้ายังมีชีวิตอยู่ด้วย แม้จะบาดเจ็บสาหัสก็ตาม แต่ทุกคนไม่สนใจ นำแซนด้าราดน้ำมันและเผา จากนั้นก็ขับรถออกมากินอาหารเช้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
วันที่ 11 มกราคม ปี 1992 หลังจากครัวครอบแซนด้ารู้เรื่องการหายตัวไปของลูกสาว ในป่าได้มีสองพี่น้องคู่หนึ่งออกมาล่านก แล้วพบกับวัตถุประหลาด เมื่อเปิดดูก็พบว่าเป็นร่างของมนุษย์ที่ถูกเผาจนไหม้เกรียม แถมดูจากตาเปล่าก็เห็นว่าสภาพศพถูกทำร้ายมาอย่างทารุณ ทั้งคู่จึงรีบแจ้งตำรวจทันที
ผลชันสูตรมีร่องรอยการถูกทำร้าย ทางทวารหนักและอวัยวะเพศอย่างรุนแรง ที่หน้าอกมีร่องรอยถูกแทงหลายแผล ร่างกายถูกเผาจนเกือบไหม้
การสืบสวนดำเนินไป แต่แล้วก็มีหญิงคนหนึ่งเข้ามาแล้วบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเธอรู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เธอคือ 1 ใน 4 คนที่ร่วมกระทำครั้งนี้ และเธอไม่คิดว่าเรื่องมันจะบานปลายขนาดนี้ เพราะตอนแรกตกลงกันไว้เพียงแค่ขู่ให้กลัว
12 มกราคม ปี 1992 ทั้ง 4 คนถูกขยายผลและจับกุม ถูกตัดสินคดีแบบผู้ใหญ่ ทั้ง 3 คนถูกตัดสินจำคุก 60 ปี ส่วนคนที่มามอบตัว ได้รับโทษ 20 ปี ก่อนจะได้ลดโทษเหลือ 8 ปี ส่วนเมลินด้า ได้ลดโทษเหลือ 27 ปี ถูกปล่อยตัวออกมาในปี 2019 ที่ผ่านมา
เรื่องราวที่จบลงอย่างน่าเศร้าเพียงเพราะหึงหวงจนขาดสติ เพราะโหยหาความรัก ซึ่งตัว เมลินด้า พยายามหามาตลอดจากครอบครัวที่ทำร้ายเธอ ทำให้เธอมองหาความรักจากภายนอกและกลัวที่จะสูญเสียมันไป จนทำเรื่องโหดร้ายเหล่านี้ลงไป
ชมแบบฉบับเต็มได้ที่ : https://youtu.be/faGOKsLoDY0
#filenotfoundpodcast
#plutomysteryclub
#missiontoplutopodcast
โฆษณา