ดู Timeline ของวิวัฒนาการมนุษย์ทั่วโลกน่าจะพอเห็นภาพนะ
- ยุคหินก็อยู่แบบฝูงสัตว์ ดูพวกลิงที่ยังคงเหลืออยู่ในป่า ระบบปกครองสังคมก็จะเป็นตัวที่แข็งแรงที่สุด มักจะเป็นตัวผู้ ผู้ปกครองก็ใช้ระบบอำนาจของตัวจ่าฝูงเพื่อรักษาระเบียบความสัมพันธ์ในฝูง ลำดับขั้นก่อนหลังในการกิน การสืบพันธุ์
- พวกชนเร่ร่อน อยู่ตามกระโจม เดินตามฝูงสัตว์ก็ยังเป็นระบบคล้ายแบบนี้ คือระบบฝูง ระบบครอบครัว ตัวจ่าฝูง หัวหน้าเผ่าคือตัวระบบว่าจะเอาแบบไหน
- ระบบคนที่ฉลาดกว่านำ เช่นหมอผี ศาสดา ศาสดาพยากรณ์ คนบุญ ผีบุญ ฯลฯ ..ในระบบแบบนี้ก็จะมีการนับถือผู้ที่มีอาวุโสเพิ่มขึ้นมา(เพราะมักจะฉลาดเมื่อมีชีวิตเห็นโลกมานานขึ้น) คราวนี้ก็แข่งกันบ้างร่วมมือกันบ้างในสามส่วนนี้ คือ แข็งแรงรบเก่ง ฉลาดเป็นผู้นำทางปัญญา และเป็นผู้อาวุโสของเผ่า คุณสมบัติทั้ง 3 ส่วนบางทีก็อยู่ในคนเดียวกันหมด บางทีก็ไม่ คือคนฉลาดนี่ใช้คนแข็งแรง ตนต่อสู้เก่งไปสู้แทนตนเองได้ ตัวเองเป็นหัวหน้าบงการอีกที มาถึงยุคนี้ ผู้นำมักตายในตำแหน่งเลย
- จากระบบที่กำหนดโดย แข็งแรง อาวุโส ฉลาด จะอยู่ในคนเดียวกันหรือไม่ก็ได้แต่จะถูกกำหนดรูปแบบของสังคมโดย 3 คุณสมบัตินี้ ค่อย ๆ วิวัฒนาการมาเป็นการสืบทอดโดยสายเลือด หมอผีประจำเผ่าเริ่มพัฒนาการบูชาผีสางง่าย ๆ ที่เอามาจากธรรมชาติ สัตว์ ท้องฟ้า ภูเขา แม่น้ำ ฯลฯ กลายมาเป็นเทพปกรณัมอันซับซ้อน
- เทพปกรณัมโบราณทั้งหลายเริ่มพัฒนามาเป็นศาสนาแบบที่เรารู้จัก ฮินดู พุทธ คริสต์ อิสลาม ..
- ผู้นำทางศาสนา กับผู้นำที่เป็นหัวหน้านักรบ(กษัตริย์, จักรพรรดิ, ชาร์, ซาร์, ข่าน, สุลต่าน, ฮ่องเต้)ผลัดกันชิงอำนาจการนำ บางรูปแบบผู้นำศาสนากับผู้นำที่เป็นนักรบคือบุคคลเดียวกัน เช่น ผู้นำมุสลิม
- ถึงตรงนี้เราต้องเข้าใจให้ชัดว่าระบบปกครองที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ว่าจะนำโดยใคร นักรบ นักปราชญ์ มันมีเพียงรูปแบบเดียวคือ ผู้ปกครองกับผู้ใต้ปกครอง อำนาจของผู้ปกครองมีเหนือชีวิต ทรัพย์สินของผู้ใต้ปกครอง ยิ่งย้อนอดีตไปไกลเท่าไรผู้ปกครองยิ่งมีอำนาจเหนือผู้ใต้ปกครองมากขึ้นเท่านั้น คือนอกจากจะถูกปกครองแล้วยังต้องเคารพกราบไหว์เหมือนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด มีสถานะเป็นเทพเจ้าหรือตัวแทนของพระเจ้า
- รูปแบบปกครองที่กล่าวมาทั้งหมด จะใช้ระบบเศรษฐกิจแบบไหนไม่สำคัญถ้าตราบใดที่อำนาจผู้ปกครองมีเหนือผู้ปกครองแบบไม่จำกัดเขาเรียกรวม ๆ ว่า Autocracy, Toralitarian ..ภาษาไทยอาจจะเรียกรวม ๆ ว่า เผด็จการ
- ทีนี้เราจะบอกว่าเผด็จการมันมีประสิทธิภาพมากกว่า มีความสงบเรียบร้อยมากกว่า ดูแลประชาชนได้ดีกว่า เด็ดขาดทันใจมากกว่า นั่นขึ้นอยู่กับเรา ประเทศที่มีการปกครองแบบเผด็จการเขาก็ต้องบอกว่ามันดีกว่า ประเสริฐกว่า
- มันจึงเหลือรูปแบบตรงข้ามอยู่เพียงรูปแบบเดียวคือ..ประชาธิปไตย ที่ประชาชนปกครองกันเอง ผู้ปกครองเป็นผู้รับใช้ เป็นผู้ให้บริการสังคมที่ประชาชนเลือกและจ้างมาทำงานชั่วคราว ไม่ให้อยู่นานเกินไปเดี๋ยวจะสั่งสมอิทธิพล
- มันจึงแบ่งการปกครองได้เพียง 2 แบบคือ ปกครองโดยผู้นำที่มีอำนาจเด็ดขาดเหนือประชาชน กับปกครองกันเองโดยประชาชนจ้างผู้นำเหมือนจ้างผู้จัดการ จ้างทหารเหมือนจ้าง รปภ. หมู่บ้าน
- ส่วนคำว่า คอมมืวนิสต์ สังคมนิยม ทุนนิยม อะไรพวกนั้นมันเป็นเรื่องของจัดการในระบบเศรษฐกิจ ระบบคอมมิวนิสต์ก็เหมือนระบบของศาสนจักร คือทรัพย์สินทุกอย่างเป็นของโบสถ์ เป็นของวัด บาทหลวงหรือพระไม่มีสมบัติส่วนตัวแต่เป็นของกลางใช้ร่วมกันโดยเจ้าอาวาสเป็นใหญ่จะตัดสินเองว่าใครอยู่กุฏิไหน ใครจะไปรับกิจนิมนต์ที่ไหน
- ชุมชนศาสนาทุกศาสนาจึงเหมือนกับประเทศที่ใช้รูปแบบคอมมิวนืสต์ซึ่งปัจจุบันไม่มีที่ไหนใช้แบบเข้มงวดยกเว้นเกาหลีเหนือ
- ในประเทศประชาธิปไตยที่ก้าวหน้าทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็น แคนาดา อเมริกา ยุโรปตะวันตก สแกนดิเนเวีย ..สวัสดิการสังคมเขาดีกว่า เหนือกว่าประเทศที่ยังประกาศตนว่าเป็นคอมมิวนิสต์หรือเป็นสังคมนิยมมากมายนัก ในประเทศพวกนี้ประชาชนจะทำงานอาชีพอะไร ทำ ๆ หยุด ๆ เปลี่ยนงานกี่ครั้งก็ตาม เมื่อถึงวัยเกษียณเขาจะมีบำนาญกันหมดทุกคนเหมือนระบบราชการในประเทศไทย
สรุป..ข้อแตกต่างกันจริง ๆ คือ อยู่ในระบบที่มีผู้ปกครองเป็นเจ้านายหรืออยู่ในระบบที่ไม่มีใครมาเป็นเจ้านายเรา มีแต่คนที่ประชาชนออกเงินลงขันกันจ้างมาบริการสังคม
ถ้ามองเห็นภาพรวมอย่างนี้ได้ก็แสดงว่า รู้เข้าใจทุกระบบที่ถามมาเป็นอย่างดี
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
