24 พ.ค. 2022 เวลา 00:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
หากให้จัดรายการหนังสักหลายเรื่องที่เราต้องดูก่อนตาย The Shawshank Redemption (1994) ต้องอยู่ในรายการนั้น
2
The Shawshank Redemption คือเหตุผลที่เราดูหนัง The Shawshank Redemption คือเหตุผลที่เรายังสร้างภาพยนตร์
1
เราจะจัด The Shawshank Redemption เป็นหนังอะไร? หนังชีวิตคนคุก? หนังดรามา? หนังทริลเลอร์? หนังสืบสวน? หนังหักเหลี่ยมหักมุม? หนัง feel-good?
อาจจะถูกทุกข้อ
หนังเปิดฉากที่นายธนาคารหนุ่ม แอนดี ดูเฟรน (แสดงโดย Tim Robbins) ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ข้อหาฆ่าคนตาย เราไม่รู้ว่าเขาผิดจริงหรือไม่ เราต้องเดินตามเงาชีวิตของเขาไปสักช่วง จึงจะรู้
ภายในคุก นักโทษไม่สามารถซื้อหาข้าวของใดๆ จากโลกภายนอก แอนดีต้องการของบางอย่าง เป็นที่มาของการรู้จักกับนักโทษคนหนึ่งชื่อ เอลลิส ‘เรด’ เรดดิง (แสดงโดย Morgan Freeman) เรดมีเส้นสายสามารถนำสินค้าแทบทุกอย่างเข้ามาขายในคุก
1
ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกัน
1
นี่เป็นการจับมือระหว่างคนเก่งสองคน Stephen King กับ Frank Darabont สร้างจากนวนิยายขนาดสั้น Rita Hayworth and Shawshank Redemption
เช่นเดียวกับ The Green Mile นี่เป็นหนัง plot-based ที่ผสมกับ character-based อย่างกลมกลืน และเป็นพล็อตมหาพล็อตแบบ ‘คิดได้ไง’
1
เมื่อเทียบกับเรื่องอื่นๆ นี่น่าจะเป็นงานของ สตีเฟน คิง ที่สร้างเป็นหนังได้ลงตัวที่สุด
หนังเรื่องนี้แตะหลายประเด็น เช่น ระบบยุติธรรม ความหมายของอิสรภาพ เสรีภาพ ความหวัง มิตรภาพ
1
ในประเด็นเรื่องอิสรภาพ มันชี้มุมมองที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ได้แก่สิ่งที่เรียกว่า Institutionalization คือการที่คุกเปลี่ยนพฤติกรรมคน โดยสร้างกรอบคิดใหม่ และความเคยชิน จนท้ายที่สุดนักโทษบางคนก็มีอาการ ‘ติดคุก’ ไม่อยากออกไปสู่โลกอิสรภาพภายนอก โดยเฉพาะคนที่อยู่ในคุกทั้งชีวิต ตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ไม่อยากไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ถ้าต้องออกไปเพราะครบกำหนด ก็หาเรื่องก่อคดีกลับเข้าคุกใหม่
1
คนบางประเภทรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ติดโซ่ตรวน พวกเขาไม่สามารถใช้ชีวิต ‘ปกติ’ ในโลกแห่งอิสรภาพได้
4
The Shawshank Redemption เป็นภาพยนตร์ที่ลงตัวทุกอย่าง ทั้งพล็อต จังหวะจะโคน อารมณ์ บทพูด การหักมุม การแสดง และภาพสวยงามฝีมือ Roger Deakins (Skyfall, Sicario, Blade Runner 2049, 1917) และแน่นอน เสียง voice over อันมหัศจรรย์ของ มอร์แกน ฟรีแมน
6
ในมุมของการเขียนพล็อต เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของเทคนิค
Chekhov’s gun (คือทุกองค์ประกอบในเรื่องต้องมีเหตุผลของการดำรงอยู่)
1
หนังมีหลายท่อนที่งดงาม หลายท่อนที่เศร้า หลายท่อนอิ่มอารมณ์
2
ท่อนที่งดงามที่สุดท่อนหนึ่งคือการที่ แอนดี ดูเฟรน เปิดเพลงคลาสสิก The Marriage of Figaro (Le Nozze di Figaro) ของโมสาร์ท ผ่านเครื่องขยายเสียงในคุก แลกกับราคาที่เขาต้องจ่าย แต่อิสรภาพชั่วเวลาสั้นๆ นั้นคุ้ม
3
มันบอกว่า นกบางตัวมิได้เกิดมาให้ถูกกักขัง (Some birds aren’t meant to be caged.)
1
หนังเดินแบบช้า เหมือนการเคี้ยวอ้อยควั่น และน้ำอ้อยคำสุดท้ายนั้นรสชาติอร่อยสุดประมาณ
2
หนังยังพูดถึงประเด็นการใช้ชีวิต
คุกอาจพันธนาการร่างกาย แต่มิได้แปลว่าเราจะต้องหยุดใช้ชีวิต มิได้แปลว่าเราต้องสิ้นหวัง
มันยังตั้งคำถามว่า คนเราจะล้มสักกี่ครั้งก่อนจะยอมแพ้ถาวร คนเราจะเจ็บช้ำ ถูกซ้ำเติมกี่ครั้ง จึงยอมนอนกองคาอยู่กับที่
1
มันยังแตะเรื่องมิตรภาพและความสวยงามของความฝัน
เศร้าสร้อย อิ่มเอิบ งดงาม ครบถ้วน บริบูรณ์
1
เป็นหนังที่ดูได้เพลิน เศร้า สุข ในเวลาเดียวกัน
1
The Shawshank Redemption เป็นหนังไม่ทำเงิน คนจำนวนมากยัง ‘ติดคุก’ แห่งกรอบคิดว่า หนังเกี่ยวกับคุกน่าเบื่อ แม้กระทั่งนักแสดงหลายคนก็ปฏิเสธบทในหนังเรื่องนี้ เพราะคิดว่ามันคงเป็นหนังคนคุกแบบเซมเซม
โชคดีที่หลายสิบปีที่ผ่านมา The Shawshank Redemption สามารถเก็บเงินค่าลิขสิทธิ์จากการฉายตามโทรทัศน์และอื่นๆ จนทุกวันนี้นักแสดงหนังเรื่องนี้ก็ยังได้รับรายได้ทุกเดือนจากหนัง
1
ในรอบร้อยปีของวงการภาพยนตร์ มีหนังที่ดูแล้วอิ่ม-เศร้า-เหงา-สุขแบบนี้ไม่มากนัก
เมื่อดูหนังชีวิตเกี่ยวกับคนคุก เราอาจนึกดีใจว่าเรามีอิสรภาพ แต่หากพิจารณาให้ดี เราอาจพบว่า เราเองก็ติด ‘คุก’ อยู่ในรูปแบบอื่น เช่น ติดเหล้า ติดยา ติดช็อปปิ้ง ติดเกมคอมพิวเตอร์ ติดแช็ต ติดการเช็กข้อความในมือถือทุก 1 นาที ติดการบ่น ติดการด่า ติดการวิพากษ์คนอื่น ล้วนเป็นคุกที่เราสร้างขึ้นมาพันธนาการตัวเอง
7
ถ้าไม่แหกคุกแบบนี้ออกไป ก็ต้องอยู่ใน ‘กรง’ ไปตลอดชีวิต
ใช่ คนบางประเภทรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ติดโซ่ตรวน
3
ปัญหาคือเราไม่รู้ว่าเรากำลังติดคุก
2
11/10
2
[ติดตามข้อเขียนของ วินทร์ เลียววาริณ ได้ทุกวันที่เพจ https://bit.ly/3amiAvG และ blockdit.com]
โฆษณา