หากอินเดียนำเข้าถ่านหินจากรัสเซียเพิ่มขึ้น
จะส่งผลต่อซัพพลายเชนโลกอย่างไร
ข้อมูลปี 2020 รัสเซียคือผู้ส่งออกถ่านหินรายใหญ่อันดับ 6 ของโลก ในขณะที่อินเดียเป็นลูกค้ารายย่อยที่นำเข้าถ่านหินจากรัสเซียเพียงแค่ 2% เท่านั้น
ทว่า ตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนปะทุ อินเดียนำเข้าถ่านหินจากรัสเซียเพิ่มขึ้น ซึ่งจากข้อมูลของ CNBC กล่าวว่า การนำเข้าถ่านหินของอินเดียจากรัสเซียอยู่ที่ประมาณ 1.04 ล้านตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2020
ที่น่าสนใจคือ จำนวน 2 ใน 3 ของข้อมูลข้างต้นเป็นของเดือนมีนาคม 2022 ซึ่งหมายความว่าดีลใหญ่นี้เริ่มขึ้นหลังจากสงครามปะทุ
แล้วการนำเข้าถ่านหินของอินเดียจากรัสเซียจะส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนโลกอย่างไร บทความนี้ผู้เขียนจะพาไปหาคำตอบกัน
จริงๆ แล้ว การนำเข้าถ่านหินที่เพิ่มปริมาณมหาศาลของอินเดียเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งต่อราคาสินค้าอย่างมาก
กล่าวคือ ตลาดถ่านหินในปัจจุบันตึงตัวมากอยู่แล้ว เพราะมันเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าและโลหะ วิกฤตโรคระบาดทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว
หลายประเทศต่างพยายามแก้ปัญหาด้วยการลดการนำเข้าก๊าซธรรมชาติราคาแพง ด้วยการนำเข้าถ่านหินแทน เมื่อความต้องการเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่สินค้ามีจำนวนจำกัด ราคาถ่านหินเลยปรับตัวสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา
ราคาตามเกณฑ์มาตรฐานถ่านหินที่นำเข้าในยุโรปเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ปรับตัวขึ้นเป็น 300 ดอลลาร์ต่อตัน เทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่ 70 ดอลลาร์ต่อตัน
ราคาดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า นี่คือวิกฤตราคาถ่านหินชัดๆ แล้วอินเดียได้อะไรจากการนำเข้าถ่านหินเพิ่มขึ้น ?
จริงๆ แล้วอินเดียไม่ได้ดีลแค่กับรัสเซียเท่านั้น เพราะปกติมีการดีลนำเข้าจากออสเตรเลียอยู่ก่อน
เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา อินเดียลงนามกับออสเตรเลียเกี่ยวกับการ “ยกเลิกการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์”
85% ของสินค้าออสเตรเลียที่ส่งออกไปยังอินเดียอยู่ในข้อลงนามฉบับดังกล่าว ซึ่งถ่านหินเป็นหนึ่งในนั้น แต่ถ่านหินของออสเตรเลียมีปริมาณไม่เพียงพอต่อการนำเข้ามายังอินเดีย
อินเดียใช้ถ่านหินปริมาณมหาศาลทำอะไรบ้าง?
ตามรายงานแนวโน้มพลังงานอินเดียปี 2021 ของสำนักงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency) เผยว่า อินเดียใช้ถ่านหินสัดส่วนประมาณ 70% ของการผลิตไฟฟ้าภายในประเทศ
และอินเดียกำลังจะเพิ่มการนำเข้าจากเดิมเป็นสองเท่า แม้จะได้รับการกดดันจากชาติตะวันตกและอเมริกา
ปัจจุบันจีนแผ่นดินใหญ่คือผู้บริโภคและนำเข้าถ่านหินรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และกำลังจะก้าวขึ้นมาครองอันดับ 1
ในขณะที่ข้อมูลปี 2020 รัสเซียเป็นผู้ผลิตถ่านหินอันดับ 6 ของโลก โดยที่ร้อยละ 54 ถูกส่งไปยังเอเชีย ขณะที่ร้อยละ 31 ถูกส่งผ่านองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศในยุโรป ตามข้อมูลของสำนักงานข้อมูลพลังงานสหรัฐ
ก่อนส่งครามปะทุในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา อินเดียนำเข้าถ่านหินจากรัสเซียน้อยมาก ซึ่งคิดเป็นเพียง 2% ของการนำเข้าโดยรวมในปี 2021
แต่ในที่ประชุมกรุงนิวเดลี รัมจันทรา ปราดสิงห์ รัฐมนตรีกระทรวงการโลหะอินเดียกล่าวว่า “เรากำลังมองหาการนำเข้าถ่านโค้กจากรัสเซียเพิ่มขึ้น ซึ่งบิ๊กดีลกำหนดไว้ที่ 4.5 ล้านตัน” แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นช่วงเวลาใด
อย่างไรก็ดี บิ๊กดีลดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากชาติตะวันตกและสหรัฐที่มีต่อรัสเซีย นโยบายคว่ำบาตรหลายอย่างส่งผลต่อราคาทรัพยากรธรรมชาติและสินค้าโภคภัณฑ์
สิ่งที่น่าสนใจคืออินเดียเลี่ยงแรงกดดันโดยการพึ่งข้อตกลงการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างธนาคารของทั้งสองชาติ เพื่อตั้งนโยบายปรับปรุงสภาพคล่อง และจัดหาเงินทุนสกุลเงินต่างประเทศให้กับธนาคารในประเทศในช่วงเวลาตึงเครียด
กลไกทางการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดังกล่าว จะทำให้อินเดียสามารถซื้อพลังงานของรัสเซียและสินค้าอื่นๆ ได้อีกมาก แม้การคว่ำบาตรของชาติตะวันตกจะจำกัดกลไกการชำระเงินระหว่างประเทศก็ตาม
ในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า ธนาคารรัสเซียหลายแห่งถูกตัดออกจากระบบ SWIFT ซึ่งเป็นระบบระดับโลกที่เชื่อมโยงธนาคารสมาชิกมากกว่า 11,000 แห่งใน 200 ประเทศทั่วโลก
ฉะนั้น กระบวนการแก้ปัญหาด้วยการแลกเปลี่ยนสกุลเงินรูปีรูเปิลจะช่วยได้มากเลยทีเดียว
สิ่งที่ตามมาคือท่าทีของสหรัฐ ก่อนหน้านี้ทำเนียบขาวส่งคำเตือนไปยังนิวเดลีแล้ว 2 ครั้ง กดดันให้อินเดียหลีกเลี่ยงความร่วมมือกับรัสเซีย หลังจากที่อินเดียบรรลุข้อตกลงร่วมกันกับรัสเซีย ด้วยการซื้อน้ำมันราคาถูก
กลับมาที่ประเด็นการนำเข้าถ่านหินของอินเดีย
จากข้อมูลของ Dhar จาก CBA เผยว่า อินเดียพึ่งพาการนำเข้าถ่านโค้กสูงขึ้นประมาณ 85%
ดีลใหญ่ระหว่างรัสเซียกำลังอยู่ในขั้นพิจารณา ฉะนั้นในตอนนี้ผู้ค้ารายใหญ่ที่อินเดียจับมือด้วยก็คือออสเตรเลีย
แต่ถ่านหินที่ออสเตรเลียอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการอย่างมหาศาลของอินเดียสำหรับใช้ในการผลิตโลหะ และผลิตไฟฟ้าที่กำลังเติบโต
ปลายปีที่แล้ว อินเดียประสบปัญหาขาดแคลนถ่านหิน เนื่องจากความต้องการพลังงานเพิ่มสูงขึ้น
เพื่อไม่ให้ประวัติซ้ำรอย วิธีเดียวที่ออสเตรเลียทำได้คือต้องงดการส่งไปยังประเทศอื่น เพื่อให้อินเดียนำเข้าในส่วนแบ่งที่มากขึ้นได้ ซึ่งในความเป็นจริงก็ไม่สามารถทำได้ เพราะประเทศต่างๆ กำลังพิจารณาลดการนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย แล้วพึ่งพาการนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลียแทน
โดยเฉพาะเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และยุโรป กำลังมองหาผู้ค้ารายอื่นเพื่อกระจายความเสี่ยงจากรัสเซีย ซึ่งแค่กลุ่มเดียวก็ส่งผลต่อซัพพลายเชนการส่งออกถ่านหินทั่วโลกถึง 10 เปอร์เซ็นต์
มันจึงยากยิ่งที่ความต้องการถ่านหินจากประเทศอื่นๆ จะลดลง ฉะนั้น อินเดียจึงอาจอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกต่อไป
และด้วยความที่อินเดียเป็นผู้บริโภคถ่านหินรายใหญ่ ฉะนั้น ราคาถ่านหินที่ว่าแพงอยู่ก็อาจจะไม่ปรับตัวขึ้นเพียงแค่นี้ แต่อาจปรับตัวสูงขึ้นมากกว่านี้ สิ่งที่ตามมาคือราคาพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น ที่ประชาชนทุกคนต้องควักกระเป๋าจ่ายทุกเดือน นั่นเอง
╔═══════════╗
ไม่พลาดบทความสาระดีๆ ที่ Reporter Journey ตั้งใจสร้างสรรเพื่อผู้ติดตามทุกท่าน อย่าลืมกดติดตามเพจ ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
╚═══════════╝
.
ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
Website : reporter-journey.com
Blockdit : blockdit.com/reporterjourney
Facebook : facebook.com/reporterjourney
Tiktok : tiktok.com/@reporterjourney
Line : @reporterjourney
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
