4 พ.ค. 2022 เวลา 06:03 • ท่องเที่ยว
สายมูต้องตาม! เปิดตำนาน & ความศักดิ์สิทธิ์ของ "ถ้ำนาคี"
ถ้าหากเราพูดถึงตำนานความเชื่อของคนไทย ตำนานของพญานาคก็เป็นหนึ่งในความเชื่อที่อยู่กับเรามาช้านาน โดยเฉพาะทางภาคอีสานนั้นมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวกับพญานาคอยู่เยอะพอสมควร หลายปีที่ผ่านมา โลเคชั่นสุดฮอตก็ต้องยกให้คำชะโนด, พญาศรีสัตตนาคราช, พระธาตุพนม และล่าสุดคือ ถ้ำนาคา ที่คนจากทุกสารทิศต่างเดินทางไปสักการะขอพรแล้วมักจะสมหวัง ทั้งนี้ หนึ่งในสถานที่สายพญานาคแห่งใหม่ที่เพิ่งถูกพูดถึงมากขึ้นในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา คือ “ถ้ำนาคี” ถ้ำลึกลับที่ตั้งอยู่ในฝั่งอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ซึ่งเพิ่งเปิดให้คนเข้าชมเมื่อกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา หลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นั่งกรรมฐานแล้วมีนิมิตจนนำไปสู่การทยอยค้นพบ “เศียรพญานาค” ถึง 9 เศียร โดยเฉพาะเศียรที่ 9 ซึ่งมีขนาดใหญ่และโดดเด่นเห็นป็นองค์พญานาคชูคอชัดเจน งามสง่ามาก วันนี้พี่หมออยากมาแนะนำถ้ำนาคีให้ทุกคนได้ไปตามรอยและสักการะกันครับ
“ถ้ำนาคี” เป็นหนึ่งในถ้ำในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา มีลักษณะคล้ายกับถ้ำนาคา โดยมีความสวยงามและศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้กัน (อยู่ในเขาลูกเดียวกัน แต่ทั้งสองถ้ำอยู่คนละฝั่ง) ถ้าให้เปรียบเทียบต้องบอกว่า ถ้ำนาคาเป็นของราชาแห่งพญานาค ส่วนถ้ำนาคีก็เป็นของราชินีนั่นเอง สายมูเตลูทั้งหลายมักไปขอพรเรื่องธุรกิจ การค้าและเงินทองที่ถ้ำนาคี เพราะตามความเชื่อ ผู้หญิงมักจะเป็นคนดูแลเก็บรักษาทรัพย์สินเงินทอง หากอยากค้าขายรุ่งและมีเงินทองมาต่อยอดแบบไม่สิ้นสุด แนะนำให้ไปขอแม่ย่านาคีกันเลยครับ
ในภาพรวมของถ้ำนาคีมีหินขนาดใหญ่ลวดลายคล้ายเกล็ดของพญานาคที่คดเคี้ยวไปมาตามหุบเขา (เสมือนพญานาคหรืองูยักษ์ ที่ถูกสาปให้กลายเป็นหิน) โดยระหว่างการเดินเท้า จะได้ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติประมาณ 9 จุด ได้แก่ วังนาคี ผานาคี หินสาลึคึ ลานธรรม หินพญาศรีสัตตนาคราช ไข่พญานาค หินโลมา กองข้าวศรีบุญเนาว์ และเศียรพญานาค บางจุดมองแล้วเหมือนเป็นหัวงูห้อยลงมาหลายหัว สวยงามและสมบูรณ์แบบ แถมยังคงความขลังอย่างไม่น่าเชื่อ ขอย้ำว่า “ผานาคี” เป็นจุดชมวิวอันสวยงามของแสงแรก รวมถึงวิวทิวเขาสองฝั่งโขงแบบ 360 องศา ถ่ายรูปก็สวยมากๆ หากสังเกตดีๆ ตรงหินผาด้านข้างของผานาคีก็มีลักษณะคล้ายดวงตาของพญานาค และลวดลายคล้ายเกร็ดพญานาคเช่นกัน เรียกว่ามาที่นี่ที่เดียว ทั้งสายมูสายเที่ยวจะรู้สึกอินและคุ้มค่าทุกจุดเลย
ทริคการขอพรจากองค์พญานาคให้สำเร็จ กรณีตั้งใจไปแค่ถ้ำนาคีก็จริง แต่ก่อนจะขึ้นถ้ำนาคี ควรไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และองค์พญานาคเศียรที่ 1 คือ “ปู่นครินทราอธิบดีเดชานาคราช” ณ วัดถ้ำชัยมงคล จ.บึงกาฬ ก่อน ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่า ท่านคือองค์ที่สถิตย์อยู่ในเทือกเขาภูลังกาโดยเฉพาะในถ้ำนาคามาเนิ่นนาน (ต่างกันกับที่หลายคนเชื่อว่าเป็นปู่อือลือ เพราะชาวบ้านแถวนั้นเล่าว่า ปู่อือลือมีที่สถิตย์ของท่านคือเกาะดอนโพธิ์) เพื่อให้ท่านเปิดทางให้ทริปขอพรของคุณสำเร็จสมหวัง โดยวัดถ้ำชัยมงคลแห่งนี้ยังมีรูปหล่อของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอย่างหลวงปู่วัง หลวงปู่เสาร์ให้สักการะกันอีกด้วย หลังจากนั้นก็ไปที่สำนักสงฆ์ดอนโพธิ์ (วัดดอนโพธิ์) จ.นครพนม เพื่อกราบสักการะ “นางพญารัตนาวดีศรีสัตตนาคราช” มเหสีเอกขององค์พญาศรีสัตตนาคราชแห่งนครพนม
อย่าลืมนำบายศรีไปถวายท่านด้วย หลังจากนั้นก็ไปขึ้นถ้ำนาคีได้เลย อย่าลืมตั้งจิตให้อยู่กับเนื้อกับตัว และตั้งใจเดินเท้าขึ้นไปจนถึงผานาคีนะครับ จะมีจุดให้ขอพรหลักๆ ต่อแม่ย่านาคี ณ เศียรที่ 9 แบบแนบหน้าผากลงไปสัมผัสกับเศียรของท่าน ควรขอแค่ 1 ข้อใหญ่ๆ เพื่อที่ท่านจะได้ประทานพรให้ได้เร็วและชัดเจนครับ หากใครมีเวลา สามารถแวะที่เกาะดอนโพธิ์และตำหนักปู่อือลือเพื่อย้ำคำขอพรให้สำเร็จ เรียกขวัญและขอความเมตตาจากปู่อือลือ เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนเดินทางกลับ จะยิ่งดีครับ
สำหรับสายมูเตลูหรือใครที่ชื่นชอบเรื่องพญานาค ไม่ควรพลาดการไปเยือนถ้ำนาคีแห่งนี้สักครั้งในชีวิตนะครับ เพราะนอกจากจะมีความงดงามทางธรรมชาติที่เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ไม้หลากหลายและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองที่มีเฉพาะที่ภูลังกาเท่านั้นแล้ว ยังมีความศักดิ์สิทธิ์สุดๆ เลยครับ (พี่หมอไปมาแล้ว กลับมาปังเว่อร์) ใครที่เดินทางมาขอพรก็มักจะสมหวังตามคำขอ ขอแค่มุ่งมั่นตั้งใจ เฮงๆ ครับ
ย้ำว่า ระหว่างที่เดินขึ้นถ้ำนาคี อย่าพูดจาไม่สุภาพ อย่าคิดลบหลู่หรือเคลือบแคลงองค์พญานาคใดๆ ในใจ ทำจิตให้เป็นกลางด้วยศรัทธาค่ะ แล้วคุณจะสมหวัง
หมายเหตุ : ตำนานเล่าว่า พระธิดาของพญานาคราชแห่งเมืองบาดาลมีนามว่า นาครินทรานี ได้แปลงกายเป็นมนุษย์ อภิเษกสมรสกับ เจ้าชายฟ้ารุ่ง โอรสของพระอือลือราชา ฉลองกันใหญ่โต 7 วัน 7 คืน หลังจากสมรสทั้งสองก็อยู่กินกันมาเป็นเวลา 3 ปี แต่ก็ยังไม่สามารถสืบสกุลได้ เพราะธาตุของมนุษย์กับพญานาคต่างกัน และต่อมาเจ้าหญิงนาครินรานีเกิดล้มป่วยลง ทำให้ร่างที่แปลงเป็นมนุษย์กลับไปเป็นพญานาคตามเดิม โดยข่าวก็ถูกกระจายไปทั่วเมืองรัตนานคร ทำให้ประชาชนและพระอือลือราชาไม่พอใจ แม้นางจะร่ายมนต์กลับมาเป็นมนุษย์แล้วก็ตาม จึงได้ขับไล่นางนาครินทรานีกลับเมืองบาดาล
โดยให้พ่อของนางมารับกลับ(พญานาคราช) แต่ก่อนกลับ พญานาคราชได้ขอเครื่องกกุธภัณฑ์ของตระกูลคืน แต่พระอือลือราชาไม่สามารถคืนให้ได้ เนื่องจากแปรสภาพเป็นอย่างอื่นไปแล้ว ทำให้พญานาคราชทรงกริ้วอย่างมาก และประกาศยกพลมาถล่มเมืองรัตพานครให้ราบคาบ ทำให้เมืองรัตนานครจมหายกลายเป็นหนองน้ำกว้างใหญ่ และชาวเมืองล้มตายเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ในตำนานกล่าวไว้ว่า พระอือลือราชารวมถึงบริวารบางส่วนไม่ได้สิ้นพระชนม์ไปกับเหตุการณ์นี้ แต่ถูกพญานาคราชจับตัวพร้อมกับสาปให้พระอือลือราชากลายร่างเป็นพญานาค (ที่เรานับถือกันในปัจจุบันว่า ปู่อือลือ) เฝ้าอยู่ในบึงโขงหลงชั่วนิรันดร์ จนกว่าจะมีเมืองเกิดใหม่ในดินแดนแห่งนี้จึงจะล้างคำสาปของพญานาคราชได้ ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายพญานาค คือ พระอือลือราชาที่ถูกสาปให้เป็นพญานาคแล้วกลายเป็นหินนั่นเอง
โฆษณา