7 พ.ค. 2022 เวลา 21:11 • กีฬา
• ด้วย “ความเคารพ” ทีมตราไก่ สเปอร์ส เล่นได้ดีจริง ๆ ครับ และแสดงให้เห็นตลอด 90 นาที +5 ว่า อันโตนิโอ คอนเต้ พาทีมมาได้ไกลแค่ไหน? ด้วยน้ำมือตนเองกับเวลาสั้น ๆ
• สิ่งที่ชอบ: รับแน่น วินัยดี 5-4-1 ตอนตั้งรับ ขณะที่รุก แม้จะเป็นในแอนฟิลด์ก็ไม่หวั่น เพราะเติม “จำนวนผู้เล่น” ด้วยปริมาณเหมาะสม วิงก์แบ็ค 2 ฝั่งเติม และทำได้ด้วยความรวดเร็ว
• ครั้นเสียบอลก็ลงมารับในแพทเทิร์น 5-4-1 ได้อย่างทันท่วงทีแม้ “สปีดบอล” และ tempo ที่ลิเวอร์พูลถาโถมใส่ตั้งแต่เสียงนกหวีดแรกของ ไมเคิล โอลิเวอร์ ดังขึ้นจะค่อนข้างโหดอยู่ไม่น้อยก็ตาม
• จังหวะโต้กลับมีเสียว เช่น แฮร์รี เคน พักบอลโยนเข้ากรอบเขตโทษลงแล้ววอลเลย์แต่ติดบล็อกเฮนโด้ หรือจังหวะฮอยเบิร์ก ซัดชนเสา
• (จากจังหวะที่ ดิอาซ โชว์สเต็ปตัดในทำชิ่ง 1-2 กับมาเน่ ยิงติด ญอริส แล้วใช้ work rate มหาศาลวิ่งไปเอาบอลคืนมาก่อนเพื่อนเสียเทิร์นอีกครั้ง แล้วโดนโต้ไปถึง ฮอยเบิร์ก - โคตรโหดอ่ะครับ ช่วงจังหวะเวลาดังกล่าวท้ายครึ่งแรกจากทั้ง 2 ทีม)
• ขณะที่ลิเวอร์พูลก็เล่นได้ดีตามมาตรฐาน และสร้างโอกาสได้พอเพียง (เช่นครึ่งแรก ยิง 5 เข้ากรอบ 2) แม้คู่แข่งจะรับอย่างมีวินัยขนาดนั้น
• ที่สำคัญ คือ “กดดัน” สเปอร์สได้เยี่ยม แต่ทีมตราไก่เยี่ยมไม่เป็นรองในการ “รับมือ” กับแรงกดดันนั้น
• ก็แน่นอนครับ 9 คน (ทั้งซอน และคูลูเชฟสกี้ ถอยลงมาช่วยรับริมเส้นด้วย) ทำให้ “ที่ว่าง” สำหรับหงส์แดงแทบไม่มี
• ประเด็นในเกมลักษณะนี้ คือ ลิเวอร์พูล “นวด” แต่ต้องไม่เผลอพลาด เพราะสเปอร์สต้องการบอลแนวลึกทะลุหลังไลน์เพียงไม่กี่จังหวะ หรือให้เคนเป็น lone striker ดร็อปตัวลงมาพักบอลแล้วไหลออกซ้าย/ขวาให้ ซอน และคูลูเชฟสกี้ โดยอาจมีมิดฟิลด์ หรือวิงก์แบ็คตามมาสนับสนุนบ้าง
• ครึ่งหลัง กระทั่ง ดิอาซ ยิงแฉลบ เบนทานคูร์ เข้าไปเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ลิเวอร์พูล เจองานสุดหิน แบบที่ได้เรียนไว้ข้างต้นในการเจาะ “กำแพง” 2 ชั้น หรือจะเรียกว่า “รถบัส” ก็ว่าได้ของสเปอร์ส
• ทว่า เหมือนที่ได้กล่าวไว้ครับ สเปอร์ส ไม่ได้จอดรถบัส แต่พวกเขาพร้อมจะเป็นรถเมล์ “สาย 8” โต้เร็วทุกครั้งดังประตู 1-0 ที่ทำลายการออร์แกไนซ์เกมรับของลิเวอร์พูลอย่างสิ้นเชิง
• มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ครับ และต้อง “ยอมรับ” ว่า ทีมตราไก่ทำได้ดี คอนเต้ วางแผนมาดี และนักเตะ “ถอดรหัส” ต่าง ๆ มาใช้ในสนามได้เยี่ยม
• สเปอร์ส ไม่ได้พยายาม disrupt เกมแบบงี่เง่า เช่น ถ่วงเวลา, พุ่งล้ม, ทุ่มช้า (แบบเอฟเวอร์ตัน) แต่พวกเขามาสู้ได้อย่างดีทั้งรับ และรุก รวมเป็น “บาลานซ์” ที่ยิ่งเวลาผ่าน ยิ่งสร้างแรงกดดันให้หงส์แดง
• จบเกม ผมคิดว่า “คู่ควร” ครับกับการแบ่งแต้มกันไป ลิเวอร์พูล เหลืออีก 3 นัดให้ภาวนา จากก่อนหน้านี้ก็ “ภาวนา” อยู่แล้ว และถ้วยพรีเมียร์ลีกก็ไม่ได้อยู่ในมืออยู่แล้ว
• สิ่งที่ควรจะคิด คือ 1 แต้มโค-ตะ-ระยากในนัดนี้ มันมีค่าให้ทีมขึ้นจ่าฝูงได้ชั่วคราว และมันก็จะทำให้แมนฯซิตี้ พลาดแพ้ไม่ได้ด้วยใน 4 นัดที่เหลือครับ
☕ณัฐวุฒิ ประเทืองศิลป์
📷: Squawka News
#ไข่มุกดำ
#KMDAnalysis
#LIVTOT
โฆษณา