8 พ.ค. 2022 เวลา 05:26 • ครอบครัว & เด็ก
โลกยุคใหม่...ต้องการเด็กแบบไหน
.
หุยได้อ่านคำถามของน้องๆหลายคน
เด็กที่กำลังเรียนมัธยมปลาย หรือ มหาวิทยาลัย
น้องๆเป็นวัยที่น่าเห็นใจมาก
เพราะถูกกดดันจากพ่อแม่ว่า
เด็กสมัยนี้ เค้าเป็นมหาเศรษฐีตั้งแต่เด็กๆ
แต่ลูกทำไมไม่ถึงไหน โตขึ้นจะเป็นอะไร
.
.
หุยเองก็มีลูกวัยมัธยมปลายค่ะ
และหุยเองก็เห็นเด็กหนุ่มสาว
ที่เป็น Young Millionaire หลายคน
หุยบอกได้เลย ว่า สมัยนี้ ไม่มีกฎอะไรที่ตายตัว
.
เราทำเหมือนๆคนอื่นที่สำเร็จ
เราอาจจะไม่สำเร็จก็ได้ หรือสำเร็จก็ได้
เพราะปัจจัยที่ทำให้ประสบความสำเร็จ มีมากมาย
นอกจากความเก่งเฉพาะตัว ยังต้องมีสิ่งเหล่านี้
.
1) จังหวะ : สิ่งที่ทำเป็นสิ่งโลกต้องการพอดี
และสิ้งที่เราทำสำเร็จตอนนั้น ก็ตรงกับที่โลกมองหาพอดี
2) การมีทีมที่ดี : หลายๆคนมีไอเดียที่ดี แต่ขาดทีมที่ดี
หรือ มีทีมที่ดี แต่ขาดทักษะ การทำงานเป็นทีม ก็ไม่เกิดค่ะ
ต้องฝึกการทำงานเป็นทีม แบ่งงานกัน รับฟังกัน รับผิดชอบ
3) มีช่องทางการสื่อสารไอเดียให้คนรู้ : ต้องมีเวทีที่ดี ที่สามารถ
สื่อสารสิ่งที่เราคิด และเป็นไอเดียที่ Work ให้คนรู้ เพื่อจะได้มี
Investor มาช่วยสนับสนุน ส่วนมาก เริ่มต้น ก็จะเป็น
Family, Friend and Fool (ครอบครัว เพื่อน และคนโง่ๆ ที่อยากลงทุน
กับอะไรที่แปลกๆใหม่ๆ ยอมเสี่ยง)
4) ทักษะการนำเสนอ การสื่อสาร : ต่อให้มีเวที มีทีมที่ดี มีจังหวะที่ดี
แต่ คนทำ เป็นคนที่พูดไม่เป็นสื่อสารไม่รู้เรื่อง พูดจาไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีพลัง
ก็ไม่ทำให้ คนที่อยากลงทุน มั่นใจ และ กล้าลงทุนด้วย
5) มีกุนซือที่ปรึกษาที่ดี
นอกจากจะมีทักษะความสามารถในการวางกลยุทธ์
กุนซือควรมี Connection ที่ดี มากพอที่จะรู้ว่า
โปรเจคแบบนี้ จะมีบริษัทไหนสนใจ
และจะไป ขอทุนได้ไหนบ้าง หรือ
เรื่องใด ปัญหาใด จะหาใครเป็นที่ปรึกษาได้
การที่จะเป็นบริษัท Start up ได้
นอกจากจะมีสิ่งที่กล่าวข้างต้นแล้ว
มันต้อง Bankable คือ มีความโปร่งใส
ให้คนลงทุนมั่นใจว่า เมื่อรับเงินไปแล้ว
คนที่รับเงินไป จะใช้จ่ายเงินตามแผน
ไม่เอาไปใช้จ่ายนอกแผนที่ตกลงกัน
จึงต้องมี คณะกรรมการคนนอกที่ควบคุมการใช้เงิน
ให้อยู่ในโปรเจค แทนที่จะใช้เงินสุรุ่ยสุ่ร่าย ผิดวัตถุประสงค์
.
ดังนั้น อยากบอกพ่อแม่ว่า
อย่าไปกดดันลูกมากเกินไป
แม้ดูเหมือนว่าเด็กรุ่นใหม่มีโอกาสประสบความสำเร็จเร็ว
แต่ไม่ใช่คนทุกคนที่จะทำได้
และไม่จำเป็นต้องทำได้
.
ขอให้เค้าผ่อนคลาย และใช้เวลาทำในสิ่งที่เค้าชอบ
เน้นให้เค้ารับผิดขอบตัวเองและการเรียน
หากลุ่มเพื่อน หรือ สังคมที่ดี
เรียนรู้เพิ่มเติมในศาสตร์แห่งอนาคตและทักษะชีวิต
รวมทั้งทำงานจิตอาสา
ทำงานไปเรียนไป จะได้หารายได้เสริม
ต่อไป เค้าก็ค้นพบเองว่า เค้าเกิดมาเพื่ออะไร
และทำในสิ่งที่เป็นเส้นทางให้เห็น
.
.
สำหรับหุยเอง
ตอนนี้หุยเองก็ปล่อยลูกเป็นอิสระ
เราเลือกโรงเรียนที่เรามั่นใจว่าครูมีศักยภาพ
และให้ลูกเลือกเองว่า อยากเรียนอะไร
เราคอยดูคะแนนและถามลูกว่า เค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร
และให้เค้าคุยกับ Supervisor ว่า
มีอาชีพไหนที่ เหมาะสมกับเค้า ในนิสัยและความถนัดแบบนี้
แล้วเราก็หาโอกาสให้เค้าลองสัมผัส เห็น หรือ
พูดคุยกับคนที่มีอาชีพเหล่านั้นค่ะ
.
หุยเชื่อว่า เมื่อถึงเวลา
อะไรที่เป็นของเค้า
หรือเค้าเกิดมาเพื่ออะไร
ชีวิตจะพาเค้าเดินไปต่อเอง
เราไม่ต้องชี้นำ
โฆษณา